เรียกได้ว่าเจองานเข้าแบบเต็ม ๆ สำหรับนางเอกสาวชื่อดัง "มิน พิชญา วัฒนามนตรี" หลังมีภาพของเจ้าตัวขณะใช้โทรศัพท์มือถือแบรนด์อื่นซึ่งไม่ใช่แบรนด์ที่ตนเองเป็นพรีเซนเตอร์ (Cherry Mobile) โผล่ในละครเรื่องล่าสุด จนเป็นเหตุให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากว่านางเอกสาวชื่อดังได้ทำการละเมิดสัญญาหรือกับแบรนด์โทรศัพท์มือถือยี่ห้อดังกล่าวหรือเปล่า!? ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ (14.00 น.) ทางด้านของผู้บริหารเชอร์รี่โมบาย "นายภาสกร เหรียญไชยศิริกุล" และคุณพ่อของนางเอกสาว "นายสุพัฒน์ วัฒนามนตรี" ได้ร่อนจดหมายเชิญสื่อมวลชนเข้ารับฟังคำการแถลงข่าวพร้อมทั้งชี้แจงถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น ณ ห้องพิมานแมน โรงแรมโฟร์ซีซั่น กรุงเทพฯ โดยทั้งคู่ได้เปิดเผยว่า... ผู้บริหาร - "น้องมินเซ็นสัญญาปีนี้เป็นปีที่ 2 แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาก็ราบรื่นมาตลอด แต่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้มันมีการส่งต่อจนขยายวงกว้างซึ่งอาจจะให้คนเข้าใจผิดได้เราก็เลยต้องจัดงานแถลงข่าวขึ้นในวันนี้ครับ" พ่อ - "ผมยืนยันครับว่าน้องมินเป็นพรีเซ็นเตอร์ของเชอร์รี่โมบายเท่านั้นและเป็นมา 2ปีแล้วครับ สัญญายังผูกพันทุกอย่างครับ" ผู้บริหาร - "เราก็อยากให้สื่อมวลชนกระจายข่าวออกไปให้ถูกต้องว่าน้องมินเป็นพรีเซ็นเตอร์ของเราที่เดียวเท่านั้น" เพราะอะไรทำไมวันนี้มินถึงไม่เดินทางมาด้วยตัวเอง ? พ่อ - "วันนี้น้องมินไม่สบายป่วยเนื่องจากถ่ายละครหนักมากครับ" จะมีการฟ้องร้องน้องมินเป็นจำนวนเงิน 10ล้านบาท ตามที่มีข้อมูลออกมาไหม ? ผู้บริหาร - "ผมเพิ่งรู้ข่าววันนี้เหมือนกัน แต่ว่าวัตถุประสงค์จริง ๆ ของเราก็คือการประกาศต่อสังคมเท่านั้นเองว่าน้องมินพรีเซ็นเตอร์ให้กับเชอร์รี่โมบาย" แต่หมายเชิญที่ส่งมาให้สื่อมันมีข้อมูลเชิงว่าอาจจะการฟ้องร้องเขียนมาด้วย ? ผู้บริหาร - "ยืนยันนะครับว่าหมายที่เชิญไม่ได้มีอะไรแบบนั้น เนื่องจากเรามีหมายตัวที่เป็นทางการส่งให้สื่อมวลชนอยู่แล้ว ดังนั้นสามารถดูตัวนั้นได้ครับ" ทางพีอาร์ได้แจ้งมาทางผู้บริหารก่อนไหมว่าจะมีการเขียนข้อมูลแบบนี้ส่งให้นักข่าว ? ผู้บริหาร - "อืม...ไม่มีนะครับ" แต่หมายเชิญที่สื่อได้รับมามันมีข้อมูลเรื่องการฟ้องและระบุจำนวนเงินไว้ด้วย เป็นไปได้ไหมว่าเรื่องนี้เป็นการโปรโมทมือถือ ? ผู้บริหาร - "คงไม่ใช่หรอกครับ เพียงแต่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้มันอาจจะส่งผลทำให้ตัวน้องมินเสียหายในฐานะพรีเซ็นเตอร์และกับตัวแบรนด์เชอร์รี่โมบายเองด้วย ดังนั้นการแถลงวันนี้จึงมีจุดประสงค์เพียงแค่ว่าระงับความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตครับ" สรุปก็คือไม่มีการฟ้องร้องแน่นอน ? ผู้บริหาร - "วันนี้คุณพ่อน้องมินเขาก็เดินทางมาแสดงความจริงใจและก็มาประกาศให้สังคมรับรู้ว่ามินเป็นพรีเซ็นเตอร์ของเราครับ" คุณพ่อตกใจไหมที่มีคนแคปภาพในละครไปนำเสนอแบบนั้น ? พ่อ - "ขอไม่พูดถึงละกันครับ ไม่อยากพาดพิง" หลังจากนี้น้องมินต้องระมัดระวังมากขึ้นไหมเรื่องการเล่นละครว่าห้ามถือแบรนด์อื่น ? พ่อ - "อันนี้กองละครก็ดูให้อยู่แล้วครับ" คุณพ่อบอกว่าเป็นเรื่องของการละคร แล้วทางกองละครเขาไม่ทราบเหรอว่าน้องเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์นี้มา 2ปีแล้ว ? พ่อ - "ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน พอดีว่าไม่ได้ตามไปทุกนัด (หัวเราะ)" แต่ตัวน้องเองก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าตัวเองเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์นี้ ? พ่อ - "น้องงานเยอะมาก และช่วงนี้ละครใกล้จบแล้วน้องก็ถ่ายดึกตื่นเช้าทุกวัน" แสดงว่าเราก็ไม่เคยแจ้งกองละครเรื่องนี้จริง ๆ ? พ่อ - "ผมทราบว่าทุกคนเขารู้หน้าที่นะ เหมือนนักข่าวก็รู้หน้าที่ว่าเราต้องทำอะไร" ทางด้านผู้บริหารการเป็นพรีเซ็นเตอร์ของน้องได้ระบุไว้ไหมว่าห้ามจับโทรศัพท์แบรนด์อื่น ? ผู้บริหาร - "อันนั้นก็เป็นสัญญามาตราฐานอยู่แล้วครับ ซึ่งผมเชื่อว่าทุกสัญญาก็น่าจะระบุแบบนั้น" ในชีวิตจริงน้องต้องห้ามใช้โทรศัพท์ยี่ห้ออื่นด้วย ? ผู้บริหาร - "ก็ในผลิตภัณฑ์เดียวกันครับ" หลังจากนี้กลัวคนจะมองไหมว่างานแถลงนี้เป็นการจัดฉากขึ้นมาเพื่อโปรโมทแบรนด์ ? ผู้บริหาร - "สาเหตุที่เรามาแถลงข่าววันนี้ก็คือการกันความสับสนจากความเข้าใจผิดครับ และเราต้องการยืนยันสถานะพรีเซ็นเตอร์ของน้องมินเท่านั้นเอง เพราะเหตุการณ์ต่าง ๆ มันเกิดขึ้นเร็วมากดังนั้นเราต้องรีบจัดงานแถลงเพื่อให้ได้ข้อยุติต่อสังคมให้เร็วที่สุด และยืนยันครับว่าเราไม่ได้มีการเซ็ตหรือเตี้ยมก่อนหน้านี้แน่นอน ทั้งกับเชอร์รี่โมบายและพรีเซ็นเตอร์" สุดท้ายถ้ามินไปใช้โทรศัพท์แบรนด์อื่นจะมีการตั้งมาตราการอะไรออกมาป้องกันบ้างไหม ? ผู้บริหาร - "ก็อย่างที่คุณพ่อบอกคือแต่ละคนต่างก็มีหน้าที่ที่ตัวเองจะต้องทำ อีกอย่างน้องมินเขาก็ไม่ได้ใช้ส่วนตัวด้วย เพียงแต่มีคนไปถ่ายไว้และภาพไปขยายต่อ ซึ่งทางเราแค่ต้องการป้องกันผลประโยชน์ทางการค้าเท่านั้นเองครับ"