"กรุงศรีคอนซูมเมอร์" ยังคงแผน 3 ปี เดินหน้ารุกตลาดเออีซี เน้นประเทศซีแอลเอ็มวี นายฐากร ปิยะพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด หรือ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าจากการออกไปลงทุนทำธุรกิจรายย่อยในประเทศลาวว่าที่ผ่านมาบริษัทได้รับใบอนุญาตประกอบการชั่วคราว (Temporary License) มีเจ้าหน้าที่ประจำการ และเริ่มให้สินเชื่อไปแล้ว แต่ยอมรับว่าการเติบโตยังไม่เป็นไปตามแผนที่ตั้งไว้ เนื่องจากประสบปัญหาทางเทคนิคค่อนข้างมาก ทำให้ในขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับกระบวนการทำงาน ขณะที่สินเชื่อที่ให้ไปในขณะนี้อยู่ในหลักร้อยล้านบาทเท่านั้น สำหรับสินเชื่อที่บริษัทมุ่งเน้นคือสินเชื่อรถยนต์และสินเชื่อเงินผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือ โดยธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ยังขยายตัวได้ดี แต่สินเชื่อเงินผ่อนยังขยายตัวมามากนัก แต่ตลาดนี้ยังมีศักยภาพในการขยายตัวอีกมากและมีคู่แข่งเข้าไปลงทุนเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้บริษัทได้เข้าไปจัดตั้งบริษัท กรุงศรีไฟแนนเชียลเซอร์วิส ที่ประเทศลาว โดยมี ผู้ถือหุ้นคือ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัดถือหุ้นในสัดส่วน 35% บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ลีส จำกัด (มหาชน) หรือ กรุงศรีออโต้ 35% และ บริษัทคอนซูเมอร์ในประเทศลาว 30% อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงยุทธศาสตร์ในการขยายธุรกิจในต่างประเทศ โดยแผน 3 ปีของบริษัทจะเข้าไปเปิดตลาดสินเชื่อรายย่อยในกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อรองรับกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558 มุ่งเน้นกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง(ซีแอลเอ็มวี)ที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับสูง โดยในขณะนี้ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาให้ทำศึกษาความเหมาะสมในการเข้าไปทำธุรกิจในประเทศที่เหลือ ทั้ง กัมพูชา พม่า และเวียดนาม ถึงประเด็นต่าง ๆ ทั้งในเรื่องกฎหมาย ภาษี หรือเงื่อนไขการทำสัญญาต่าง ๆ และนำประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้จากการเข้าไปทำธุรกิจในลาวมาใช้สำหรับการพิจารณาโอกาสการลงทุนในอนาคตด้วย โดยคาดว่ากลางปี 2558 จะเห็นความชัดเจนในการลงทุนของบริษัท “ที่ลาวเราออกไปลงทุนด้วยตัวเอง แต่จากนี้เราได้จ้างที่ปรึกษาทำการวิเคราะห์โอกาสทางธุรกิจ โดยลงรายละเอียดในโจทย์สำคัญๆ ทั้ง กฎระเบียบข้อบังคับ กฎหมาย ภาษีรวมถึงศึกษากลุ่มลูกค้าที่จะเข้าไปทำตลาด หรือผลิตภัณฑ์ใดเหมาะที่จะเข้าไปในตลาดไหน นำเอาประสบการณ์ที่ได้จากประเทศลาว เราเรียนรู้อะไรมาก็จะเอามาปรับใช้ และเตรียมตัวให้พร้อมปัญหาหรืออุปสรรคอะไรที่เกิดขึ้นก็จะไม่ได้เกิดซ้ำอีก” เขากล่าวว่า ในส่วนของ 3 ประเทศที่เหลือยังมีการเติบโตที่ดีอยู่ โดยมองว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าจะเห็นการลงทุนจากต่างประเทศตบเท้าเข้าไปรุกตลาดพม่าอีกมาก ขณะที่กัมพูชา มีโอกาสทางธุรกิจที่ดี แต่ยอมรับว่ายังมีประเด็นทางด้านกฎหมายที่ต้องทำความเข้าใจมากขึ้น ส่วนประเทศเวียดนามเป็นหนึ่งใน 4 ประเทศที่มีความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจมากที่สุด มีการขยายตัวของเมืองค่อนข้างมากและมีการลงทุนจากสถาบันการเงินเข้าไปเช่นกัน Tags : ฐากร ปิยะพันธ์ • กรุงศรีคอนซูมเมอร์ • เออีซี