กูเกิลแนะนำ แอพที่ดีควรมีขนาดไม่เกิน 40MB, ทดสอบกับอุปกรณ์แรม 512MB เสมอ

หัวข้อกระทู้ ใน 'เทคโนโลยี' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 13 พฤษภาคม 2018.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    เราเริ่มเห็นกูเกิลทำตลาด Android Go มาสักระยะแล้ว (มือถือที่ขายในบ้านเราแล้วคือ Nokia 1) ในงาน Google I/O 2018 ก็มีหัวข้อหนึ่งที่พูดถึงเรื่องนี้โดยเฉพาะ

    Android Go เป็นส่วนหนึ่งของแผนการ Next Billion Users ของกูเกิล (ชื่อภายในเรียกกันว่า NBU) เน้นเจาะตลาดประเทศกำลังพัฒนา ที่คนใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือเพียงช่องทางเดียวเท่านั้น

    [​IMG]

    ปัญหาคือโทรศัพท์มือถือเหล่านี้มีสเปกค่อนข้างต่ำ จากสถิติของ IDC ในปี 2017 มีมือถือที่วางขายใหม่ประมาณ 24% (หรือ 1/4 ของมือถือทั้งหมด) ที่มีแรม 1GB หรือต่ำกว่านั้น โจทย์ของกูเกิลคือทำอย่างไรจึงจะสร้างประสบการณ์ที่ดีบนมือถือเหล่านี้ได้ คำตอบคือ Android Go นั่นเอง

    [​IMG]

    กูเกิลประเมินว่ามีตลาดของมือถือกลุ่ม Android Go ประมาณ 30-35 ล้านเครื่องต่อปี โดยเฉพาะการขายผ่านโอเปอเรเตอร์ในประเทศกำลังพัฒนาอย่างอินเดีย มือถือตระกูล Go จะมาแทนมือถือ Android สเปกต่ำราคาถูกที่โอเปอเรเตอร์ขายอยู่แล้ว

    [​IMG]

    หลังจาก Android Go เปิดตัวก็มีพันธมิตรฮาร์ดแวร์ให้ความสนใจมากมาย ตัวอย่างที่คุ้นชื่อกันก็อย่างเช่น Nokia, Lava, Wiko รวมถึงแบรนด์มือถือที่เจาะตลาดเฉพาะบางประเทศ เช่น Micromax ของอินเดีย

    [​IMG]

    สิ่งที่น่าสนใจในหัวข้อนี้คือสถิติจาก Google Play ที่ไม่เคยเปิดเผยต่อสาธารณะมาก่อน กูเกิลบอกว่าขนาดของไฟล์ APOK โตขึ้นเรื่อยๆ จนปัจจุบันมีขนาดเฉลี่ยประมาณ 30MB

    [​IMG]

    ข้อเสียของ APK ขนาดใหญ่ขึ้นคือคนโหลดน้อยลง อัตรา conversion rate ใน Play Store ลดลงอย่างชัดเจนตามสัดส่วนของขนาดไฟล์ APK ที่ใหญ่ขึ้น เฉลี่ยแล้วทุก 6MB ที่เพิ่มขึ้น จะมีอัตราการดาวน์โหลดลดลง 1%

    [​IMG]

    [​IMG]

    ยิ่งถ้าดูเฉพาะอุปกรณ์ตลาดล่างที่มีแรม <= 1GB จะเห็นว่าอัตราการดาวน์โหลดสำเร็จ (เส้นสีฟ้า) ต่ำลงจากค่าเฉลี่ยทั่วโลก (เส้นสีส้ม) อีกพอสมควร

    [​IMG]

    ค่ากลาง (median) ของขนาดไฟล์ APK สำหรับอุปกรณ์ที่มีแรม <= 1GB ในประเทศต่างๆ จะเห็นว่าประเทศไทยมีตัวเลขค่อนข้างสูง (สีน้ำเงินเข้ม) ในขณะที่ประเทศกำลังพัฒนาส่วนใหญ่เป็นสีส้ม ขนาดไฟล์ค่อนไปทางเล็ก แม้แต่ในสหรัฐอเมริกาเอง ตัวเลขก็ไม่สูงนักเช่นกัน

    [​IMG]

    พฤติกรรมของผู้ใช้จำนวนมากในการดาวน์โหลดแอพจาก Play Store จึงดูขนาดไฟล์ด้วย ต่อให้เรตติ้งแอพดีแต่ไฟล์ใหญ่ ก็จะเจอปัญหาคนไม่โหลด

    [​IMG]

    คำแนะนำของกูเกิลต่อนักพัฒนาแอพ จึงเป็นการทดสอบแอพของตัวเองบนอุปกรณ์สเปกต่ำให้ดี ทั้งประเด็นของโพรเซสเบื้องหลัง, การอัพเดตพิกัด, การแจ้งเตือน

    [​IMG]

    ขนาดไฟล์ APK ที่เหมาะสมคือไม่เกิน 40MB สำหรับแอพทั่วไป และไม่เกิน 65MB สำหรับเกม ตรงนี้นักพัฒนาสามารถใช้ Android App Bundle ช่วยปรับแต่งขนาดไฟล์ APK ให้เล็กลงได้อีก

    [​IMG]

    [​IMG]

    ส่วนอัตราการใช้งานแรม ไม่ควรเกิน 50MB สำหรับแอพทั่วไป และไม่เกิน 150MB สำหรับเกม

    [​IMG]

    แอพควรทดสอบกับอุปกรณ์แรม 512MB และรันได้ไม่แครช ไม่ค้าง

    [​IMG]

    ระยะเวลาโหลดแอพไม่ควรเกิน 5 วินาที ถ้านานกว่านี้ผู้ใช้จะไม่รอแล้ว ตรงนี้ใช้ Performance Monitoring ของ Firebase ช่วยได้

    [​IMG]

    แอพของกูเกิลเองมีเวอร์ชัน Go สำหรับอุปกรณ์สเปกต่ำ แต่ Play Store มีเวอร์ชันเดียวใช้ได้ทั่วโลก

    [​IMG]

    แอพ Play Store ในปัจจุบันมีขนาดเล็กกว่า 10MB ด้วยซ้ำ แถมทำงานออฟไลน์ได้บ้างส่วน ต่อให้ไม่มีเน็ตก็ยังเปิดดูข้อมูลบางอย่างได้จากแคช

    [​IMG]

    ใน Play Store Console ยังมีตัวช่วยหลายอย่างในการตรวจสอบปัญหาของแอพ เช่น Android Vitals ที่นักพัฒนาควรใช้กันให้เป็น

    [​IMG]

    รายละเอียดอื่นๆ ดูได้จากคลิปการบรรยาย Build for Android (Go edition): optimize your app for global markets

    Topics: Android GoAndroidGoogleDevelopment
     

แบ่งปันหน้านี้