ไทยพาณิชย์ชี้แนวโน้มระดมทุนคึกคัก พร้อมหารือตลท.และก.ล.ต.เพื่อออกหุ้นกู้แปลงสภาพให้ลูกค้า นางสาววรดา ตั้งสืบสกุล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายวาณิชธนกิจ 2 ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า แนวโน้มการระดมทุนของบริษัทขนาดใหญ่ยังมีอยู่ต่อเนื่องทั้งการพึ่งพิงตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะการระดมทุนระยะยาวในช่วงที่ดอกเบี้ยมีแนวโน้มจะปรับเพิ่มขึ้นได้ในปีหน้า ซึ่งในขณะนี้ถือเป็นจังหวะที่ดี เนื่องจากสถานการณ์โดยรวมยังทรงตัว และยังมีสภาพคล่องเพียงพอ ในส่วนของธนาคารนั้นยังเห็นความต้องการระดมทุนของลูกค้าในช่วงที่เหลือของปีอีกหลักหมื่นล้านบาท จากการระดมทุนในรูปแบบของกองทุนอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Investment Trust: REIT) และยังมีบริษัทที่จะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ครั้งแรก (ไอพีโอ) อีก 1-2 ราย นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะช่วยลูกค้าขนาดกลางออกหุ้นกู้แปลงสภาพสกุลเงินบาทขายในประเทศไทยอีก ขนาดหลักพันล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการหารือร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) หากได้รับอนุญาตให้ขายในประเทศไทยก็จะเป็นการสนับสนุนให้ตลาดทุนไทยมีความหลากหลายมากขึ้น อย่างไรก็ตามโอกาสในการระดมทุนของผู้ประกอบการขนาดเล็กอาจจะเสียเปรียบ เนื่องจากความไม่แน่นอนในช่วงที่ผ่านมาทำให้นักลงทุนเลือกที่จะลงทุนกับบริษัทขนาดใหญ่มากกว่า ทำให้ผู้ประกอบการกลุ่มนี้ยังคงต้องพึ่งพิงสินเชื่อเป็นหลัก “ขณะนี้นักลงทุนต่างชาติยังไม่กล้าที่จะซื้อหรือขายหุ้นไทยมากนัก จะขายก็ลังเลเพราะยังเห็นโอกาสเติบโต ส่วนจะซื้อเพิ่มก็ไม่มั่นใจสถานการณ์มากนัก ดังนั้นหุ้นกู้แปลงสภาพจะเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะเข้ามาช่วยให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามามีส่วนร่วมในตลาดหุ้นไทยได้ คลายความกังวลดังกล่าวไปบ้าง เพราะในอนาคตก็สามารถแปลงเป็นหุ้นได้ และมีการป้องกันความเสี่ยงในระดับหนึ่ง” ทั้งนี้จะเห็นได้จากกรณีของบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ที่สามารถออกหุ้นกู้แปลงสภาพอายุ 5 ปี ขายในตลาดต่างประเทศได้หมดทั้งจำนวน 10,000 ล้านบาท ทั้งที่เป็นหุ้นกู้สกุลเงินบาทชนิดไม่มีดอกเบี้ย (Zero-coupon) ถือเป็นครั้งแรกของไทยที่ออกหุ้นกู้แปลงสภาพของบริษัทไทยให้แก่นักลงทุนในต่างประเทศสกุลเงินบาทแบบไม่มีดอกเบี้ย โดยขายให้กับนักลงทุนสถาบันทั้งในเอเชียและยุโรป ซึ่งมีความต้องการลงทุนในตราสารประเภทดังกล่าวรวมถึงสนใจของธุรกิจโรงพยาบาลของไทย การออกหุ้นกู้ดังกล่าวยังช่วยให้บริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการมีทางเลือกในการระดมทุน เพราะหากออกหุ้นกู้ในประเทศไทยจะมีต้นทุนดอกเบี้ยถึง 4.75% ซึ่งก็ไม่ได้สูงมากนัก แต่การออกหุ้นกู้แปลงสภาพในประเทศไทยยังไม่สามารถทำได้ในขณะนี้ เนื่องจากตลาดยังติดกฎระเบียบบางประการและนักลงทุนยังไม่นิยม ขณะที่การออกหุ้นกู้แปลงสภาพแม้จะมีจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นในอนาคต แต่ผลกระทบด้านสัดส่วนการถือหุ้น(dilution) นั้นจะมีเพียง 3% เท่านั้น สำหรับการเสนอขายครั้งนี้ ราคาแปลงสภาพเบื้องต้นกำหนดไว้ที่ 21.045 บาทต่อหุ้น โดยราคาปิดของหุ้นสามัญของบริษัทเมื่อบริษัทประกาศแผนการเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพในวันที่ 18 มิ.ย.2557 เป็น 16.10 บาท นักลงทุนมีสิทธิขอไถ่ถอนหุ้นกู้ได้ ณ วันที่ 18 ก.ย.2560 ที่มูลค่า 106.152 ของมูลค่าเริ่มต้นของหุ้นกู้ของผู้ถือหุ้นกู้ที่ใช้สิทธิไถ่ถอนก่อนครบกำหนด ขณะเดียวกัน บริษัทมีสิทธิ์ไถ่ถอนหุ้นกู้ได้หลังจากวันที่ 18 มี.ค.2560 หากราคาหุ้นของบริษัทฯ ปรับตัวสูงขึ้นอย่างน้อย 130% ของราคาไถ่ถอนตามที่ระบุไว้ในข้อกำหนดสิทธิของหุ้นกู้ (Early Redemption Amount) หารด้วยอัตราแปลงสภาพ ณ ขณะนั้น ทั้งนี้ บริษัทมีแผนการใช้เงินซึ่งจะได้รับจากการออกหุ้นกู้แปลงสภาพครั้งนี้ เพื่อการดำเนินงานทั่วไปของบริษัท รวมทั้งการขยายงานของโรงพยาบาลและชำระคืนเงินกู้บางส่วนของบริษัท ทางด้านนางนฤมล น้อยอ่ำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน กล่าวว่า การออกหุ้นกู้แปลงสภาพครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทยและเป็นการระดมทุนที่มีต้นทุนต่ำ อีกทั้งเป็นการขยายฐานนักลงทุนในต่างประเทศ และนับเป็นก้าวสำคัญที่จะสนับสนุนการขยายกิจการของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทได้มีการขยายกิจการโดยมีการเพิ่มโรงพยาบาลและกิจการที่เกี่ยวข้องทาง การแพทย์เข้ามาในกลุ่มอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากการสร้างโรงพยาบาลใหม่และการควบรวมกิจการกับโรงพยาบาลอื่น โดยขณะนี้บริษัทมีโรงพยาบาลที่อยู่ระหว่างดำเนินการเปิดเพิ่มอีก 9 แห่ง และโรงพยาบาลภูเก็ตอินเตอร์เนชั่นแนล ที่บริษัทได้อยู่ระหว่างดำเนินการควบรวมกิจการ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีโรงพยาบาลรวมทั้งสิ้น 44 แห่ง” การเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพครั้งนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 18 ก.ย.2557 (ภายหลังจากที่เงื่อนไขต่าง ๆ อันเป็นปกติของการเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพได้สำเร็จลง) และบริษัทจะนำหุ้นกู้แปลงสภาพเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ Tags : วรดา ตั้งสืบสกุล • ไทยพาณิชย์ • ระดมทุน