"แบงก์ชาติ" ย้ำแผนปล่อยกู้ "ซอฟท์โลน" ช่วยเอสเอ็มอีต้องคิดรอบคอบ หวั่นขัด พ.ร.บ.ธปท.ปี 2551 แหล่งข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า กรณีที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ขอให้ ธปท. ช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) โดยการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน) นั้น เรื่องนี้ ธปท. คงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ว่าการดำเนินการดังกล่าวจะขัดต่อกฎหมาย พ.ร.บ.ธปท.ปี 2551 หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ฝ่ายนโยบายสถาบันการเงินของ ธปท. จะนำเข้าหารือกับ นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธปท. ต่อไป อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา ธปท. ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยยอมรับว่ามีเอสเอ็มอีจำนวนไม่น้อยที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาทางการเมือง และที่ผ่านมาก็ได้ขอให้ธนาคารพาณิชย์คอยให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการเหล่านี้ “เราเข้าไปดูตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่เอสเอ็มอีเริ่มเผชิญกับปัญหาทางการเมือง และเราก็ติดตามดูแลมาต่อเนื่อง โดยให้ความช่วยเหลือทั้งทางตรงและทางอ้อม ผ่านระบบสถาบันการเงิน” แหล่งข่าวกล่าว สำหรับการให้ความช่วยเหลือเอสเอ็มอีในช่วงที่ผ่านมานั้น มีตั้งแต่การดูแลด้านสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการเหล่านี้ ตลอดจนการช่วยเหลือเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ และการลดค่าธรรมเนียมในบางส่วนลง ส่วนกรณีที่จะขอให้มีการปล่อยซอฟท์โลนนั้น เรื่องนี้ ธปท. จำเป็นต้องหารือกันในรายละเอียดก่อนว่า สามารถทำได้หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้อยากหารือกับทาง ส.อ.ท. อีกครั้ง เพื่อดูว่าภาคธุรกิจใดที่ได้รับผลกระทบบ้าง และธุรกิจใดที่ได้รับผลกระทบมากสุด เพื่อจะหาแนวทางช่วยเหลือได้อย่างถูกจุด นายพิภวัตว์ ภัทรนาวิก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาธนาคารได้ช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ทางการเมืองไปแล้ว ซึ่งส่วนหนึ่งก็ได้มีการลดดอกเบี้ยให้แล้ว ทำให้ในขณะนี้ลูกค้าธนาคารไม่ได้มีความต้องการขอใช้วงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเข้ามา เนื่องจากบรรยากาศโดยรวมเริ่มปรับตัวดีขึ้นหลังสถานการณ์ทางการเมืองเปลี่ยนแปลงไป ขณะนี้ซอฟท์โลนไม่ใช่เรื่องจำเป็น แต่ถ้ามีก็ได้ เพราะภาพรวมก็ดีขึ้นแล้ว ไม่ได้น่าห่วงสุดๆ เหมือนที่ผ่านมา กระแสเงินสดของลูกค้าก็เริ่มตึงน้อยลง แต่ก็ต้องรอให้มีการเบิกจ่ายงบประมาณเข้ามาก่อนคงจะดีขึ้น” ทางด้านนายสยาม ประสิทธิศิริกุล ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจ เอสเอ็มอี ธนาคารกรุงศรีอยุธยาจำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมา ธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้าเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองไปแล้วในช่วงที่ผ่านมา โดยธนาคารกรุงศรีได้มีมาตรการยืดหนี้ให้ลูกค้าเดือนก.ค.ที่ผ่านมา แต่ความสามารถในการชำระหนี้จะกลับมาเป็นปกติหรือไม่คงต้องรอดูสิ้นเดือนก.ย.นี้อีกครั้ง สำหรับประเด็นเรื่องของเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำนั้นในขณะนี้ถือว่าไม่ได้จำเป็นเร่งด่วน เนื่องจากโจทย์ของลูกค้าไม่ใช่การมองหาต้นทุนต่ำ แต่เป็นปัญหาเรื่องการเข้าถึงสินเชื่อ จึงอยากเสนอให้ภาครัฐขยายวงเงินการค้ำประกันของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) มากกว่าจะช่วยให้ธนาคารพาณิชย์สามารถขยายวงเงินให้ลูกค้าเพิ่มขึ้นได้ “การขยายวงเงินค้ำประกันสำคัญกว่าเพราะดอกเบี้ยต่ำไม่ได้ช่วยเท่ากับการทำให้แบงก์ที่เข้มงวดสินเชื่อในช่วงที่ผ่านมายอมช่วยลูกค้าได้มากขึ้น อย่างไรก็ตามการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจากธปท.อาจจะไม่สามารถทำได้เต็มที่ เช่นในช่วงน้ำท่วมเมื่อปี 2554 ก็เป็นเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจากธนาคารออมสิน ส่วนธปท.ทำหน้าที่ในการจัดการขั้นตอนต่าง ๆ เท่านั้น” Tags : ซอฟท์โลน • แบงก์ชาติ • ธปท.