มูดี้ส์ชี้แบงก์ไทยมีเสถียรภาพ

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 9 กันยายน 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    มูดี้ส์ประเมินอันดับความน่าเชื่อถือของภาคธนาคารไทยดีขึ้นและมีเสถียรภาพ ภายใต้นโยบายการเงิน-การคลังผ่อนคลาย

    มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ได้เผยแพร่รายงานฉบับพิเศษเรื่อง "ธนาคารไทย: อันดับความน่าเชื่อถือจะยังคงมีเสถียรภาพ" (Thai Banks: Credit Profiles Will Remain Stable) ระบุว่าอันดับความน่าเชื่อถือโดยรวมของธนาคารไทย จะยังคงมีเสถียรภาพในช่วงหลายไตรมาสข้างหน้า

    ขณะที่การดำเนินงานของภาคธนาคารไทยปรับดีขึ้น ประกอบกับนโยบายการเงินและการคลังที่ผ่อนคลาย จะช่วยส่งเสริมการขยายตัวของสินเชื่อ และสนับสนุนคุณภาพสินทรัพย์ โดยมูดี้ส์คาดด้วยว่า การขยายตัวของสินเชื่อในไทย จะเพิ่มมากขึ้นช่วงครึ่งหลังปีนี้ และจะขยายตัว 5-7% ในปีนี้

    นางดาฟเน เฉิง ผู้ช่วยนักวิเคราะห์ของมูดี้ส์ ซึ่งเป็นผู้จัดทำรายงานฉบับนี้ กล่าวว่า สินเชื่อมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้นในธนาคาร ที่มุ่งความสนใจไปที่ลูกค้ากลุ่มสถาบันและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี เทียบกับธนาคารที่มุ่งความสนใจไปที่ลูกค้ารายย่อย

    ส่วน นายอัลกา อันบาราซู ผู้ช่วยรองประธานและนักวิเคราะห์ของมูดี้ส์ ที่ร่วมจัดทำรายงานฉบับนี้เช่นกัน ระบุว่า มาตรฐานวัดคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารเหล่านี้ มีแนวโน้มจะแสดงให้เห็นว่า คุณภาพสินทรัพย์ได้เสื่อมถอยลงบางส่วน โดยได้รับแรงกดดันจากผลกระทบที่เกิดขึ้นล่าช้า จากความปั่นป่วนช่วงก่อนหน้านี้ โดยสินทรัพย์ที่เผชิญความเสี่ยงมากที่สุด คือ สินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้ารายย่อย และลูกค้าที่เป็นเอสเอ็มอี คาดว่าการด้อยคุณภาพ อยู่ในระดับเล็กน้อย และอยู่ภายในขอบเขตที่ธนาคารจัดการได้

    นายอันบาราซูและนางเฉิงร่วมกันเขียนรายงานฉบับนี้ ประเมินว่า นับตั้งแต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าควบคุมอำนาจได้เพิ่มการจัดทำแผนสำหรับโครงการการลงทุน และโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐาน ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกชะลอออกไป

    การอนุมัติร่างงบประมาณประจำปี 2558 เมื่อวันที่ 19 ส.ค. สร้างความชัดเจนเกี่ยวกับงบรายจ่ายปีหน้า ส่วนธุรกิจเอสเอ็มอี บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กำลังวางแผนจะเพิ่มปริมาณสินเชื่อที่บรรษัทค้ำประกัน และขยายขอบเขตของสินทรัพย์ ที่นำมาใช้เป็นหลักประกันได้

    ขณะเดียวกัน การขยายตัวของสินเชื่อลูกค้ารายย่อย ยังอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ธนาคารต่างๆ ระมัดระวังต่อการที่ผู้บริโภคเพิ่มระดับการก่อหนี้ โดยหนี้ภาคครัวเรือนพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 83% ของจีดีพี ณ สิ้นเดือนมี.ค.ปีนี้ และติดกลุ่มประเทศเอเชียที่มีหนี้ครัวเรือนสูงที่สุด

    "มาตรฐานวัดคุณภาพสินเชื่อ ตามที่มีการรายงานมานั้น จะเสื่อมถอยลงปานกลางในช่วงที่เหลือของปีนี้ ซึ่งสะท้อนถึงความล่าช้า จนกว่าสินเชื่อที่ได้รับผลกระทบจากภาวะปั่นป่วนทางการเมืองในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ จะได้รับการจัดประเภทเป็นสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ เอ็นพีแอล" นางเฉิงกล่าว

    มูดี้ส์คาดว่า คุณภาพสินเชื่อโดยรวม ยังคงมีเสถียรภาพ ในทางตรงกันข้ามสินเชื่อลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ มีหนี้สินในระดับสูง ซึ่งหมายความว่า คุณภาพสินทรัพย์พื้นฐานในกลุ่มลูกค้ารายย่อย ต้องใช้เวลานานในการเข้าสู่ระดับมีเสถียรภาพ และสิ่งนี้จะส่งผลกระทบต่อเอสเอ็มอีบางแห่ง

    มูดี้ส์ตั้งข้อสังเกตว่า มาตรฐานวัดคุณภาพสินทรัพย์ธนาคารที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีค้าปลีก อัตราการใช้กำลังการผลิตในภาคอุตสาหกรรม ยอดส่งออกสินค้า และดัชนีหุ้นไทย ที่บ่งชี้ว่าลูกหนี้ที่เป็นองค์กรขนาดใหญ่มีเสถียรภาพ ขณะที่สินเชื่อสำหรับลูกค้ารายย่อย จะอยู่ในภาวะอ่อนแอบ้างในช่วง 2-3 ไตรมาสข้างหน้า

    นอกจากนี้ธนาคารไทยยังคงมีความสามารถในการรองรับผลขาดทุน โดยได้รับแรงหนุนจากความสามารถในการสร้างเงินทุน และประสิทธิภาพในการทำกำไรที่มีเสถียรภาพ ในบรรดาธนาคารไทยที่ได้รับการจัดอันดับโดยมูดี้ส์นั้น สัดส่วนเงินกองทุนขั้นที่ 1 อยุู่ที่ระดับเฉลี่ย 11.6% ณ วันที่ 30 มิ.ย. ขณะที่มีการกันสำรองหนี้เสียในระดับ 138% ของเอ็นพีแอล ส่วนความสามารถในการทำกำไรก่อนหักเงินกันสำรอง ยังแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรองรับต้นทุนสินเชื่อที่เพิ่มสูงขึ้น และจะสนับสนุนการสร้างเงินทุนต่อไป

    นายอันบาราซู กล่าวว่า คาดธนาคารไทยจะเลือกเข้ามาระดมทุนในตลาดทุน แทนการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิในเงินกองทุนขั้นที่ 2 ด้วยเครื่องมือที่สอดคล้องกับเกณฑ์บาเซิลทรี เพื่อธนาคารจะได้มีเงินทุนไว้ใช้ในการขยายสินเชื่อ ขณะที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น

    Tags : มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส • ธนาคารพาณิชย์ • เสถียรภาพ

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้