แรงซื้อหุ้นเก็งกำไรหุ้นอิตาเลียนไทย หรือไอทีดี หวังรับอานิสงส์จากการประกาศแถลงนโยบายรัฐปลายสัปดาห์นี้ แรงซื้อหุ้นเก็งกำไรหุ้นอิตาเลียนไทย หรือไอทีดี หวังรับอานิสงส์จากการประกาศแถลงนโยบายรัฐปลายสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างคมนาคม ส่งผลให้ราคาแตะสถิติสูงสุดรอบ 10 เดือน ด้านโบรกเกอร์มองราคาหุ้นสูงเกินพื้นฐาน แบกความเสี่ยงหากโครงการลงทุนไม่เป็นไปตามเป้า ทั้งภาครัฐและการร่วมทุนกับพันธมิตรหวั่นถูกตั้งสำรอง ด้านบริษัทแจงพื้นฐานไม่เปลี่ยน ราคาหุ้นขยับขึ้นเพราะเป็นไปตามกลไกตลาดและความคาดหวัง การเคลื่อนไหวราคาหุ้นอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) วานนี้ (8 ก.ย.) ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ระดับ 5.80 บาท ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน ล่าสุดปิดตลาดที่ 5.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท หรือ 5.56% มีมูลค่าการซื้อขาย 2,593.2 ล้านบาท ด้านแหล่งข่าวบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สาเหตุที่ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง เนื่องจากความคาดหวังของนักลงทุน แต่ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ซึ่งราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นและมูลค่าการซื้อขายจำนวนมาก เกิดจากกลไกการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ขึ้นอยู่กับความสนใจของผู้ลงทุน "ตอนนี้บริษัทไม่มีปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนแปลง ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นก็น่าจะเป็นเพราะกลไกการซื้อขายและความคาดหวังของนักลงทุน" ส่วนนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า หุ้นอิตาเลียนไทยที่มีวอลุ่มการซื้อขายคึกคัก และราคาปรับตัวขึ้นแรง เนื่องจากเป็นหุ้นตัวแทนในหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่เชื่อว่าจะได้รับอานิสงส์จากการแถลงนโยบายของรัฐบาลปลายสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่า จะกล่าวถึงนโยบายการลงทุนโครงสร้างคมนาคมของประเทศตามมา จึงแนะนำให้เก็งกำไรระยะสั้นก่อน บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ขณะนี้ตลาดหุ้นไทย ต้องเผชิญหน้ากับแรงขายตลอดทาง หลังตลาดไร้ปัจจัยข่าวใหม่ๆ ขณะเดียวกัน ยังเห็นแรงซื้อในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ก่อนจะมีการเริ่มประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันแรกในวันนี้ (9 ก.ย.) ซึ่งคาดหวังถึงทิศทางนโยบายโครงสร้างพื้นฐานที่ชัดเจนขึ้น ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ ควรทยอยขายทำกำไรช่วงดีดตัว และจับตาการแถลงนโยบายต่อ สนช. ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ส่วนบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง กล่าวว่า แนวโน้มผลประกอบการในอนาคต จะมีโครงการต่างๆ ของรัฐบาลเป็นประเด็นในด้านบวก โดยเฉพาะยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย ระยะ 8 ปี (พ.ศ. 2558-2565) แล้ว โดยมี 5 แผนงานหลัก วงเงินรวม 2.4 ล้านล้านบาท จะช่วยเพิ่มงานในมือจำนวนมาก และภายในไตรมาส 4 ปีนี้จะมีการประมูลในโครงการต่างๆ คือ โครงการสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 จะเปิดประมูลในขั้นแรก 4 สัญญามูลค่า 4.8 หมื่นล้านบาท โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต งานด้านโยธา 2.6 หมื่นล้านบาท โครงการ รถไฟทางคู่ ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย วงเงินรวม 1.1 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทอิตาเลียนไทย มีงานในมือ และกำลังจะเซ็นสัญญาร่วม 2.69 แสนล้านบาท (ไม่รวมโครงการน้ำ 5.3 หมื่นล้านบาท) สามารถรองรับรายได้ถึง 5-6 ปี นอกจากนี้ยังมีโครงการขนาดใหญ่ คือ โครงการทวายในพม่า โครงการลงทุนเหมืองโบแตสที่ จ.อุดรธานี โครงการสัมปทานทางรถไฟและท่าเรือในโมซัมบิก และ โครงการสัมปทานเหมือง Bauxite ในประเทศลาว ซึ่งยังต้องใช้เวลาและรวมถึงพันธมิตร แต่มีความเสี่ยงต้องตั้งสำรองหากโครงการเหล่านี้ล้มเหลว "ตอนนี้ราคาหุ้นถือว่าปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างสูงพีอีเรโชอยู่ที่ 32.4 เท่า ขณะที่ราคาพื้นฐานหากวัดในแง่กระแสเงินสดจากการดำเนินงานจะมีราคาที่ถูกเพียง 9.3 เท่า และยังมีความเสี่ยงที่ต้องคำนึงถึง คือเรื่องของ เสถียรภาพของรัฐบาล หรือภาระหนี้ที่ยังสูง หรือโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการ ขึ้นกับพันธมิตรจะมาร่วมลงทุนและก็มีความเสี่ยงที่จะต้องตั้งสำรอง" นักวิเคราะห์กล่าว เขากล่าวว่า ภาพรวมผลประกอบการงวดไตรมาส 2 ปีนี้ ออกมาน่าผิดหวังมีกำไรทรุดลงเหลือ 50 ล้านบาท เนื่องจากภาษีจ่ายที่สูงถึง 141 ล้านบาท ภาระดอกเบี้ยจ่ายที่สูง 646 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นชะลอตัวลงเหลือ 9.4% เทียบกับ 10.1% ในไตรมาสก่อน และ 10.9% ในปีก่อน ขณะที่รายได้จากงานก่อสร้างยังเติบโตต่อเนื่องและอยู่ในเกณฑ์ดีสูงถึง 11,498 ล้านบาท ในแง่อีบิทด้าหรือ กระแสเงินสดจากการดำเนินงานอยู่ในระดับสูงถึง 1,278 ล้านบาท Tags : อิตาเลียนไทย • ไอทีดี • เก็งกำไร