นายกรัฐมนตรี กำชับทุกหน่วย ทบ. หนุนรัฐบาลปรองดอง ห่วงน้ำท่วม มอบ มทภ. ช่วยเหลือ ปชช. - คสช. ย้ำ ลดขัดแย้ง สร้างปรองดอง ขณะยังไม่หารือกฎอัยการศึก ขณะที่ ทำเนียบรัฐบาล เข้มพร้อมรับประชุม ครม. นัดแรกพรุ่งนี้ พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก แถลงผลการประชุมการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก ได้ให้ทุกหน่วยงานของกองทัพบก สนับสนุนและปฏิบัติงานตามนโยบายของรัฐบาล และ คสช. คงความต่อเนื่องในการรักษาความสงบ ลดความขัดแย้งพร้อมสร้างความปรองดองในสังคม และสร้างความเข้าใจเรื่องการบริหารภาครัฐและการมีส่วนในการปฏิรูปประเทศ และให้ทุกภาคส่วนร่วมกันต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน นอกจากนี้ พ.อ.วินธัย ระบุว่า วันนี้ ที่ประชุมไม่ได้มีการหารือเรื่องกฎอัยการศึกแต่อย่างใด ส่วนตัวมองว่าไม่กระทบกับประชาชนแต่ยอมรับว่าชื่อกฎอัยการศึก มีผลกระทบภาพลักษณ์ในสายตาต่างประเทศบ้าง อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เคยกล่าวไว้แล้วว่าจะมีการผ่อนปรนในอนาคต ซึ่งขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน ส่วนกลุ่มที่เคลื่อนไหวต่อต้าน คสช. ขณะนี้ยังไม่เกินระดับที่ได้ตั้งไว้ โดยยังคงเน้นการสร้างความเข้าใจ พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก แถลงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก กล่าวในที่ประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก มอบหมายให้แม่ทัพภาค เป็นผู้ดูแลช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในขณะนี้ โดยประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ห่วงใยต่อสถานการณ์น้ำภาพรวมในประเทศ พร้อมกำชับให้หน่วยทหารเตรียมการรับมือตามสภาพของปริมาณน้ำด้วย และยังระบุว่าจะต้องแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ และมีการบริหารจัดการที่เหมาะสม ทั้งนี้ ทาง กองทัพบกได้เตรียมหน่วยทหารไว้ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย จำนวน 202 กองร้อย ครม.ถกนัดแรกพรุ่งนี้-ทีมรปภ.นายกตรวจพื้นที่ ความเคลื่อนไหวที่ทำเนียบรัฐบาล ในช่างบ่าย ทีมรักษาความปลอดภัยนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้ามาตรวจดูความเรียบร้อย ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ นัดแรกในวันพรุ่งนี้ เวลา 09.30 น. เพื่อเตรียมหารรือการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งดำเนินการจัดเตรียมอาคารสถานที่ เพื่อรองรับการประชุม ซึ่งจากเดิมมีการเตรียมห้อง 501 ตึกบัญชาการ 1 ไว้ใช้ในการประชุม แต่ล่าสุดเจัาหน้าที่ เปิดเผยว่า ได้แจังเปลี่ยนสถานที่ประชุมเป็นตึกสันติไมตรีหลังใน ขณะที่ตึกสันติไมตรีหลังนอก เตรียมโพเดียม และสถานที่ สำหรับแถลงผลการประชุมด้วย นอกจากนี้ เจ้าหนัาที่ได้เตรียมความพร้อม หากนายกรัฐมนตรีจะเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม ยังมีการเตรียมแผนในการดูแลความปลอดภัย และการทำงานของสื่อมวลชน