BMW 420d สปอร์ต ตอบโจทย์คนที่ชื่นชอบการขับรถ ได้อารมณ์สปอร์ตที่มากขึ้น แต่ยังคงความหรูไว้เต็มเปี่ยม สำหรับหนุ่มน้อย หนุ่มใหญ่ สาวน้อย หรือสาวไม่น้อย ที่ชื่นชอบอารมณ์สปอร์ต ชอบรถที่มีบุคลิกเฉพาะตัว รถกลุ่มหนึ่งที่ตอบสนองได้ก็คือ รถในตระกูลคูเป้ทั้งหลาย ซึ่งปัจจุบันก็มีอยู่หลายรุ่น หลายยี่ห้อที่ทำตลาด แต่ส่วนใหญ่จะเป็นรถในตลาดหรู รถตลาดทั่วไป รถญี่ปุ่น ไม่ค่อยมีใครทำตลาด นานๆทีจะหลุดเข้ามาสักรุ่น ก็เข้าใจได้ว่า แม้จะเป็นรถที่สนองตอบอารมณ์ ตอบสนองการขับขี่ได้ดี แต่ในแง่การใช้งาน มันเหมาะสำหรับคนโสด หรือ ครอบครัวที่มีกันแค่ 2 คน สามีภรรยาเท่านั้น หากมีตัวน้อยโผล่เข้ามา ก็คงจะไม่สะดวกในการใช้งานนัก เพราะฉะนั้นรถที่เป็นตลาดใหญ่อย่างรถญี่ปุ่น ที่ผู้ซื้อก็เป็นกลุ่มชั้นกลาง บวกลบ ก็คงจะต้องคิดเผื่อหน้าเผื่อหลังสำหรับประโยชน์ในการใช้งานของรถหนึ่งคันในวันนี้ วันหน้า และวันโน้น แตกต่างจากตลาดบนที่มีกำลังซื้อรถได้หลายคัน สำหรับการใช้งานที่แตกต่างกันไป และในกลุ่มตลาดหรู บีเอ็มดับเบิลยู ถือว่าเป็นค่ายรถที่มีสินค้าสนองตอบต่อลูกค้าที่หลากหลาย ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ที่เคยบอกไว้เมื่อหลายปีก่อนว่า นอกจากจะมุ่งมั่นเปิดสายการผลิตในเมืองไทยแล้ว รถนำเข้า หรือรถกลุุ่มพิเศษก็ไม่ละเว้น จะนำเข้ามาทำตลาดหากว่าลูกค้าต้องการ ทุกวันนี้จึงได้เห็นรถบีเอ็มดับเบิลยูค่อนข้างครอบคลุมตลาด และเดี๋ยววันที่ 11 ก.ย.ที่จะถึงนี้ เอก็เตรียมเสริมมาอีก 2 รุ่น คือซีรีส์4 ที่เพิ่มรุ่นย่อยเข้ามา และรุ่นใหม่คือ เอ็กซ์ 4 แต่ว่าก่อนจะไปที่ตัวนั้น เรามาคุยกันถึง 4 ที่มีขายอยู่ในตลาดปัจจุบัน นั่น คือ 420d คูเป้ เอ็ม สปอร์ต รถคูเป้ 2 ประตู ที่อยู่ในมือของผมกันก่อน รูปทรงของคูเป้ เตี้ยกว่าซีดานทั่วไปแบบรู้สึกได้ เพื่อเพิ่มอารมณ์สปอร์ตให้ได้มากที่สุด การเข้า-ออกรถ จึงใช้วิธีหย่อนตัวเข้าไป อาจจะไม่สะดวกเท่าซีดาน แต่พอเข้าไปนั่งแล้ว ก็ให้ความรู้สึกที่ต่างกันชัดเจนเช่นกัน ความกระชับ เป็นส่วนตัว และรู้สึกได้ทันทีว่ารถคันนี้เป็นของเรา ช่วยให้สนุกได้ตั้งแต่ก่อนขับได้อย่างไม่น่าเชื่อ เสาบีอยู่ห่างไปข้างหลังพอควร แต่ไม่ต้องห่วงครับเกี่ยวกับเข็มขัดนิรภัย มันมีแขนที่ดันเข็มขัดมาให้เราหยิบได้สะดวก ไม่มีปัญหา เบาะหน้าไม่ใหญ่นัก แค่พอดีตัว แต่อย่างที่บอกครับว่ามันกระชับ ช่วยให้ขับขี่ทางไกล จะแบบขับกินชมวิว หรือทะเลาะกับโค้ง ทำได้ดี ไม่รู้สึกเมื่อยตลอดเส้นทาง ส่วนเบาะหลัง ดูไม่ใหญ่นัก แต่ผู้ใหญ่ก็นั่งได้ รวมถึงพื้นที่ว่างช่วงศีรษะหรือว่าพื้นที่ช่วงเข่าและวางเท้าก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน เพียงแต่การเข้าออกต้องมุดๆเอาหน่อย แต่การออกแบบก็เอื้อให้เข้าออกได้ไม่ยาก ทั้งบานประตูที่ยาวเป็นพิเศษ เปิดได้กว้าง เบาะนั่งคู่หน้าพับได้ง่าย ด้วยปุ่มเดียว ดังนั้นถ้าใครไม่มีปัญหาหลังเดาะหลังแข็งก็คงไม่ยากเกินไป ภายในเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยูชัดเจน ทั้งคอนโซลที่โอบล้อมลำตัว ปุ่มควบคุมไอ-ไดรฟ์ จอแสดงผลแบบลอยตัวขึ้นมากลางคอนโซลหน้า เครื่องยนต์ดีเซลตัวเก่ง 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ที่ติดตั้งอยู่ในรถหลายรุ่นตั้งแต่ตัวถึงขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร ที่ 1,750 - 2,750 รอบ/นาที ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ที่ถ่ายทอดกำลังได้อย่างนุ่มนวล ไม่ว่าการขับขี่แบบนุ่มๆ หรือกดคันเร่งหนักๆ ก็ตาม เครื่องยนต์ตอบสนองได้ดี โดยเฉพาะอัตราเร่งที่ได้จากแรงบิดสูงในรอบต่ำ ทำให้มีความคล่องตัวสูง และกระฉับกระเฉง ขณะที่การไต่ความเร็วก็ทำได้รวดเร็วเช่นกัน รอไม่นานเข็มไมล์ตวัดขึ้นไปที่ 180 กม./ชม. พร้อมๆกับสมองสั่งการให้ผ่อนน้ำหนักเท้าขวาลงบ้าง ยืนยันอีกครั้งว่าถนน และเพื่อนร่วมถนนในเมืองไทย ไม่เหมาะกับการใช้ความเร็วสูงมาก ไม่ทันขาดคำ มอเตอร์ไซค์ 2 คัน ก็ตัดฝ่าความมืดทะลุเกาะกลางถนนที่ไม่ใช่ที่กลับรถ แถวๆ ท่ามะกาออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย มือ เท้า ตา ต้องทำงานประสานกันอย่างเร่งรีบ ทั้งแตะเบรก มองกระจก และเปลี่ยนช่องทาง พร้อมๆ กดแตรไปด้วย แต่ก็ทำให้รับรู้ถึงช่วงล่างของซีรีส์ 4 ที่ต้องใช้คำว่าดีมากครับ เพราะแม้ถนนจะเปียกจากสายฝน แต่ก็รับรู้ได้ถึงการเกาะถนนที่เรียกว่าเกาะติด ไม่ออกอาการร่อน ปัด แต่อย่างใด จริงๆ แล้ว รถของบีเอ็มดับเบิลยู ก็เกาะถนนดีทุกรุ่นอยู่แล้วหละครับ เท่าที่เคยขับมา แต่ 420d ตัวนี้ ให้ความรู้สึกว่าทำได้แน่นกว่าซีดานตัวอื่น คงเป็นการเซ็ทมา ให้ได้อารมณ์สปอร์ตมากที่สุด การขับโดยเลือกโหมด คอมฟอร์ท ก็ตอบสนองทุกเส้นทางของการขับขี่ทั้งในกรุงเทพ และเส้นทางต่างจังหวัดมุ่งหน้าไทรโยค แต่ผมก็เลือกที่จะใช้สปอร์ต เมื่อใช้ความเร็วสูง เพราะชอบช่วงล่างที่นิ่งมากขึ้น แข็งขึ้น แต่ว่าไม่รู้สึกกระด้างสักเท่าไร นอกจากเส้นทางหลักที่มีทั้งทางตรง ทางโค้ง ทางเล็กๆผ่านชนบท ผ่านไร่มันสำปะหลัง ผมก็พยายามเลือกเส้นทางพิเศษอย่างเช่นการไต่ขึ้นเขาแถวๆ หลังสถานีรถไฟวังโพนั่นแหละครับ เส้นทางใช้ได้เลยทีเดียว ซึ่งก็นอกจะช่วยยืนยันเรื่องของกำลังเครื่องยนต์ และช่วงล่างแล้ว สิ่งที่แสดงความชัดเจนอีกอย่างคือพวงมาลัยที่ต้องหักเลี้ยวไปมา ซึ่งแม่นยำ และมีน้ำหนักพอควร บางคนอาจบอกว่าหนักไป แต่ผมชอบแบบนี้แหละครับ ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ได้มากทีเดียว โดยสรุปผมว่า 420d สปอร์ต เป็นรถสำหรับผู้ที่ชอบการขับรถ ชอบรถที่ถ่ายทอดสภาพถนน และอาการของตัวรถได้รวดเร็ว อารมณ์สปอร์ตที่มากขึ้นกว่า ซีดาน แต่ก็ไม่สูญเสียเรื่องของความหรู และความเพลิดเพลินในการใช้งาน ไม่ว่าจะขับไปเรื่อยๆ หรือเร่งรีบก็ตาม Tags : บีเอ็มดับเบิลย • bmw420d • รถสปอร์ต • รถหรู • คูเป้ • ซีดาน