วันที่ 5 กันยายน นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวถึงกรณีการจัดซื้อไมค์สำหรับห้องประชุมภายในทำเนียบรัฐบาลที่มีราคากว่า 1.4 แสนบาท ว่า เรื่องระบบเเสียงและระบบควบคุมการประชุม ทางกรมได้ให้บริษัท อัศวโสภณ เข้ามาดำเนินการปรับปรุง ตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม ส่วนเรื่องราคานั้น เราได้ให้ทางบริษัทเสนอราคามาในเบื้องต้น ขณะนี้ยังไม่ได้ทำสัญญา เพราะเป็นการจ้างโดยการยกเว้นระเบียบการพัสดุ และอยู่ในขั้นตอนการต่อรองราคากันอยู่ว่าโดยเนื้องานตามแบบที่เราประมาณการไว้จะใช้ทั้งหมด 181 ตัว อยู่ในห้องประชุม 501 จำนวน 100 ตัว และห้องประชุม 301 จำนวน 56 ตัว ห้องประชุม 302 จำนวน 25 ตัว แต่ปรากฎว่า จะใช้เพิ่มอีก 11 ตัว เพราะมีที่นั่งแล้วจำเป็นต้องติดไมค์ ต้องมาเจรจากัน โดยที่กรอบเราเซ็ตราคากลางเบื้องต้นไว้ทั้งเรื่องของระบบเสียงและระบบควบคุมการประชุม รวมถึงระบบไฟ 69 ล้านบาท เราก็จะต่อรองให้อยู่กรอบ 69 ล้านบาท ส่วนที่มีข่าวว่าราคาไมค์แพงกว่าทั่วไปก็ต้องเรียนว่า ไมค์ตัวนี้ยังไม่มีที่ใดใช้ ตัวราคาก็ได้คุยกับบริษัทอัศวโสภณว่า เมื่อไมค์ตัวนี้เป็นของที่นำเข้าก็ให้ท่านตั้งราคา และส่งรายละเอียดในเรื่องของการเสียภาษีศุลกากรและภาษีนำเข้ามาว่าท่านจะตั้งราคาขายเท่าใด แล้วก็จะทำการเจรจาต่อรอง โดยมีกรอบว่าต้องจ้างในวงเงินที่เราได้รับการอนุมัติมา นายมณฑล กล่าวว่า ราคาเบื้องต้นบริษัทจะทำการเสนอราคามาก่อน แล้วเราจะนำราคาตรงนี้มาขออนุมัติงบ แต่ไม่ใช่ราคาที่เราจะจ้าง ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่เรากำลังเจรจากับบริษัท ต้องเจรจาให้อยู่ในกรอบ 69 ล้านบาทหรือต่ำกว่านั้น เชื่อว่าคงจะไม่แพงเวอร์เกินกว่าความเป็นจริง จากการสอบถามผู้รู้ก็บอกว่า ไมค์ตัวนี้เป็นระบบที่ดีที่สุดในปัจจุบัน ถามว่า จะมีการประชุมครม.ในวันที่ 9 กันยายนระบบต่างๆเรียบร้อยแล้วหรือไม่ นายมณฑล กล่าวว่า ระบบติดตั้งพร้อมแล้ว ขณะนี้อยู่ในระหว่างการคุยกับฝ่ายไอทีของทำเนียบรัฐบาลในวิธีการเดินระบบ ต้องให้บริษัทเทรนหรืออบรมให้ด้วย ของมีเพียงเจ้าเดียว การจ้างจึงเป็นการจ้างเจ้าเดียว เราจึงไม่รู้หลักการตั้งราคาของผู้ขาย ตนก็ไม่รู้ราคา แต่ก็จะต้องมีการเอาใบนำเข้ามาแสดงว่ามีต้นทุนเท่าไหร่ บวกภาษีแล้วเป็นเท่าไหร่ แล้วเอามาคุยกันว่าราคาที่เหมาะสมเป็นเท่าไหร่ ยืนยันว่าไม่ได้ของบเพิ่มจากจำนวนคือ 69 ล้านบาท แต่อย่างไร เราก็พยายามรักษาผลประโยชน์และพยายามต่อรองราคาให้ได้ถูกที่สุด