บีเจซีมั่นใจเพิ่มทุนผ่านฉลุย

"เบอร์ลี่ ยุคเกอร์" มั่นใจแผนเพิ่มทุนฉลุย เผยหุ้นใหญ่เพิ่มใส่เงินเพิ่มทุนเต็มสัดส่วน 1.2 หมื่นล้านบาท

บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือบีเจซี ธุรกิจผลิตสินค้าอุปโภค-บริโภค บรรจุภัณฑ์ และจัดจำหน่ายรายใหญ่ ในเครือทีซีซี ของนักธุรกิจแสนล้าน นายเจริญ สิริวัฒนภักดี ช่วง 7 ปีที่ผ่านมา ได้ขยายการลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะ "อาเซียน" โดยพุ่งเป้าการลงทุนไปที่ "เวียดนาม" เพื่อเพิ่มโอกาสธุรกิจการค้าให้ครบวงจร ทั้งธุรกิจกระจายสินค้า ค้าส่ง ค้าปลีก ภายใต้แผนธุรกิจ 3-5 ปี (2556-2560) โดยมุ่งสู่การเป็นเบอร์ 1 ในเวียดนาม ส่วนเป้าหมายต่อไป จะขยายการลงทุนในลาว กัมพูชา และพม่า เพื่อดักโอกาสการลงทุน รับการเกิดขึ้นของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปลายปี 2558

ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้เข้าลงทุนในบริษัทเมโทร แคช แอนด์ แครี่ เวียดนาม ลิมิเต็ด 100% จากเมโทร แคช แอนด์ แครี่ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง บี.วี. ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งตามกฎหมายเนเธอร์แลนด์ โดยมีมูลค่ากิจการ รวม 655 ล้านยูโรหรือ 2.83 หมื่นล้านบาท จึงทำให้บริษัทมีความจำเป็นต้องเพิ่มทุนและกู้เงินก้อนโต

โดย นางสาวเมทินี อิสรจินดา ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) กล่าวว่า บริษัทเชื่อมั่นว่าแผนเพิ่มทุนเพื่อนำเงินระดมทุนเข้าซื้อกิจการเมโทร แคช แอนด์ แครี่ เวียดนาม ลิมิเต็ด 100% จะได้รับการตอบรับจากผู้ถือหุ้นเป็นอย่างดี โดยผู้ถือหุ้นใหญ่คือบริษัท บริษัท ทีซีซี โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งถือหุ้นอยู่ 73.77% พร้อมใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนเต็มสุดส่วน ขณะเดียวกัน เชื่อว่ามั่นผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ จะใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนเช่นเดียวกัน เนื่องจากการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะทำให้บริษัทได้ประโยชน์ในอนาคตอย่างมาก

เธอกล่าวว่า ในวันที่ 13 ต.ค.2557 จะมีจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น เพื่อขอมติอนุมัติการเพิ่มทุน ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ถือหุ้น อย่างไรก็ตาม หากมีหุ้นเพิ่มทุนเหลือจากการใช้สิทธิ บริษัทพร้อมจะใช้ช่องทางการกู้แทน ทั้งนี้ หากบริษัท ทีซีซี โฮลดิ้ง ใช้สิทธิ์เต็มจำนวน บริษัทจะได้เงินเพิ่มทุน 1.2 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีทางเลือกในการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงได้เช่นกัน

"นโยบายของผู้ถือหุ้นใหญ่คือใช้สิทธิเต็มสัดส่วนการถือหุ้น ซึ่งจะทำให้ได้เงินเพิ่มทุน 1.2 หมื่นล้านบาท ส่วนอีก 4 พันล้านบาท ซึ่งจะเป็นเงินจากการใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนของนักลงทุนทั่วไป อาจจะใช้การกู้เงินแทน ซึ่งมั่นใจว่าจะไม่กระทบกับฐานะการเงินของบริษัท และยังสามารถจ่ายเงินปันผลได้ 2 ครั้งต่อปีเช่นเดิม" แหล่งข่าวภายในบริษัทกล่าว

ทั้งนี้ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ มีมติเพิ่มทุนแบบให้สิทธิผู้ถือหุ้นเดิม (RO) อัตราส่วน 9 หุ้นเดิม : 2 หุ้นใหม่ หรือคิดเป็นจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้น 360.4 ล้านหุ้น (Dilution Effect 19%) ที่ราคา 45 บาท/หุ้น คิดเป็นจำนวนเงินที่ระดมทุนทั้งหมด 1.6 หมื่นล้านบาท โดยนำเงินจากการเพิ่มทุนเพื่อซื้อกิจการ Metro Vietnam ซึ่งดำเนินกิจการร้านค้าส่งสมัยใหม่ในเวียดนาม ที่มีมูลค่าเบื้องต้นราว 2.8 หมื่นล้านบาท โดยเงินส่วนที่เหลือราว 1.2 หมื่นล้านบาท จะมาจากการกู้ ซึ่งจะทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนภายหลังการเพิ่มทุน จะอยู่ที่ราว 1 เท่า ใกล้เคียงกับปัจจุบัน ทั้งนี้ คาดกระบวนการดังกล่าวจะเสร็จสิ้นช่วงปลายปีนี้

นางสาวเมทินี กล่าวอีกว่า บริษัทคาดดีลการซื้อกิจการแล้วเสร็จในครึ่งแรกปี 2558 โดยระหว่างนี้ต้องใช้เวลาในการปรับเปลี่ยนชื่อซึ่งใช้เวลาประมาณ 6 เดือน ทั้งนี้ ผลประกอบการของเมโทร มีรายได้รวมประมาณ 21,000 ล้านบาท แต่ยังมีขาดทุนสุทธิ 400 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าใช้เวลา 3 ปีในการล้างขาดทุนและพลิกผลประกอบการเป็นกำไรสุทธิ

"จริงๆ แล้วส่วนขาดทุนมาจากค่าใช้จ่ายที่เมโทรที่ต้องจ่ายให้กับทีมของทางเยอรมัน ในการค่าดำเนินธุรกิจและบริหาร ซึ่งเมื่อทีมบริษัทเข้าไปแล้วก็จะค่อยๆ เคลียร์ค่าใช้จ่ายตรงนี้ออกไป"

เธอกล่าวอีกว่า แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจในประเทศเวียดนามค่อนข้างดี โดย 5 ปีที่ผ่านมา (2551-2555) เศรษฐกิจประเทศเวียดนามมีการเติบโตเฉลี่ย 5.7% ซึ่งสูงกว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในรอบปี 2551-2555 ที่เติบโตเฉลี่ย 4.8%

ขณะเดียวกัน มีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจประเทศเวียดนามจะมีการเติบโตในรอบปี 2556-2560 น่าจะเติบโตประมาณ 6.5% ซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยที่ถูกคาดการณ์ว่าจะเติบโตเฉลี่ย 4.6% ในช่วงเวลาเดียวกัน

การเข้าซื้อกิจการเมโทรครั้งนี้ จะทำให้บริษัทขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจโมเดิร์นเทรดในประเทศเวียดนาม และเป็นการสานต่อเป้าหมายการมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มเป็น 50% ภายในปี 2561 เช่นกัน โดย ณ ครึ่งแรกปีนี้ บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ 22%

ส่วนการเคลื่อนไหวราคาหุ้นวานนี้ (4 ก.ย.) ปิดการซื้อขายที่ 47.25 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้า มูลค่าการซื้อขาย 52.17 ล้านบาท

Tags : บีเจซี • เพิ่มทุน