หุ้นตลาดเอ็มเอไอพีอีพุ่ง77เท่า

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 5 กันยายน 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    หุ้นเอ็มเอไอพุ่งแรง ดัชนีทะลุ 650 จุด ดันพีอีเรโช 77.13 เท่า สูงสุดตั้งแต่ก่อตั้ง "ประพันธ์" ห่วงฟองสบู่

    ความเคลื่อนไหวตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ พบว่า ดัชนีในวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา อยู่ที่ 661.08 จุด เพิ่มขึ้นจากต้นปี 304.28 จุด จากสิ้นปีก่อน 356.80 จุดหรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 85.23 % ระดับราคาปิดกำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 77.13 เท่า จากสิ้นปี 2556 ที่ 28.32 เท่า ราคาต่อมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น มาอยู่ที่ 4.69 เท่า จากปีก่อน 2.69 เท่า ขณะที่มูลค่าการซื้อขายต่อวันในเดือนก.ย. อยู่ที่ 3,820.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ที่ 2,259.02 ล้านบาท

    นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้ช่วยผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เริ่มจับตาการซื้อขายในตลาดหุ้นเอ็มเอไอมากขึ้น หลังจากดัชนีปรับตัวขึ้นต่อเนื่องมากกว่า 80% ซึ่งมองว่า แม้ดัชนีจะปรับตัวขึ้นมาสูง แต่มีพื้นฐานที่รองรับในบางกลุ่มอุตสาหกรรม

    "แน่นอนว่าการปรับตัวเพิ่มขึ้นของดัชนีในระดับนี้ ทำให้มีความกังวลอยู่บ้าง เราจึงต้องจับตาการซื้อขายในตลาดหุ้นเอ็มเอไอมากขึ้น เพราะถือว่ามีความเสี่ยงที่อาจสร้างความเสียหายได้ ซึ่งหลายคนมองว่า ตลาดหุ้นเอ็มเอไอเป็นฟองสบู่ แต่เราอยากให้มองว่า ในหุ้นบางกลุ่มยังมีพื้นฐานที่พอจะรองรับได้อยู่ ซึ่งเราอยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูลเพื่อเผยแพร่กับนักลงทุนให้รับทราบถึงความถูกแพงของตลาดหุ้นเอ็มเอไอทั้งหมด เพื่อสร้างความมั่นใจว่าตลาดหุ้นเอ็มเอไอยังมีศักยภาพอยู่"

    เขากล่าวว่า หากพิจารณาระดับดัชนีของตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ทั้งพีอีเรโช และราคาต่อมูลค่าทางบัญชีในปัจจุบัน ยอมรับเป็นช่วงที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ตั้งแต่ตั้งตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ โดยปัจจุบันมูลค่าการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอได้สูงกว่า ตลาดหุ้นเวียดนามไปแล้ว ซึ่งภาวการณ์ดังกล่าว ทำให้หุ้นที่จะเข้าทำการจดทะเบียนใหม่ (ไอพีโอ) หลายบริษัทปรับแผนการเข้าจดทะเบียนให้เร็วมากขึ้น เพราะระดับดัชนีปัจจุบัน ทำให้พวกเขาระดมทุนได้มูลค่าที่สูง ความเสี่ยงการระดมทุนลดลง

    สำหรับการเคลื่อนไหวของหุ้น บริษัท แอลดีซี เด็นทัล จำกัด (มหาชน) หรือ LDC ที่เข้าทำการซื้อขายในวันที่ 2 ก.ย. และปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงถึงระดับ ซิลลิ่ง 2 วันติดต่อกันนั้น ต้องถือว่าแอลดีซีเป็นหุ้นตัวแรกของปีที่เปิดการซื้อขายในระดับ 200% น่าจะเกิดจากการเป็นธุรกิจใหม่ ที่ไม่เคยมีในตลาดหลักทรัพย์ นักลงทุนจึงเข้ามาทำการซื้อขายมากกว่าปกติ ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ยอมรับว่า เข้าไปดูการซื้อขายหุ้นดังกล่าว ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่ตลาดหลักทรัพย์ จะเข้าไปตรวจสอบหุ้นที่มีการซื้อขายมากกว่าปกติ

    ด้านนายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปรแมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ แอลดีซี เปิดเผยว่า สำหรับราคาหุ้นของแอลดีซีที่ได้รับการตอบรับที่ดีนั้น เกิดจากความคาดหวังนักลงทุนกับบริษัทที่มองว่าจะมีโอกาสในการเติบโต และเป็นธุรกิจใหม่ที่ไม่เคยมีในตลาดหลักทรัพย์มาก่อน จึงไม่เกิดการเปรียบเทียบกับบริษัทอื่น ทำให้หุ้นในลักษณะนี้ได้รับความสนใจ

    แอลดีซี เป็นแบรนด์คลินิกด้านทันตกรรม ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในตลาดหลักทรัพย์ เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นพิเศษ ซึ่งหลังจากนี้จะมีหุ้นในลักษณะเดียวกันอย่างเช่น บริษัท สเตรกา จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจให้บริการรับเหมาขุดเจาะ วางท่อใต้ดินในแนวราบ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมาก ก็ไม่เคยมีมาก่อนเช่นกัน

    สำหรับบริษัทแอลดีซีที่หลายคน มองว่า มีกำไรสุทธิต่ำมาก ตนมองว่า เป็นหน้าที่ของบริษัท ที่จะต้องสร้างผลการดำเนินงานที่ดี เพื่อตอบสนองให้กับผู้ถือหุ้น ด้วยการพัฒนาธุรกิจของตนเองจากเงินไอพีโอที่ได้รับ ซึ่งหลายบริษัทหลังจากเข้าทำการจดทะเบียน ก็ปรับปรุงบริษัทจนมีผลการดำเนินงานที่มั่นคง

    "ช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่า จะนำบริษัทเข้าทำการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อีก 3-4 บริษัท ขึ้นอยู่กับภาวะตลาดจะเป็นเช่นไร วันนี้ผมได้รับการแต่งตั้งจากบริษัท เค.ซี. เมททอลชีท ผู้จำหน่ายหลังคาเหล็กเมททอลชีท โดยคาดจะยื่นไฟลิ่งให้กับสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในเดือนก.ย.นี้ คาดจะเริ่มทำการซื้อขายได้ภายในสิ้นปีนี้"

    Tags : ประพันธ์ เจริญประวัติ • เอ็มเอไอ • ซีพีอี • ดัชนีตลาดหุ้น

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้