บจ.ตลาดเอ็มเอไอ เร่งขยายสู่ตลาดต่างประเทศหลังการเมืองผันผวนหนัก ด้าน "ยูเรกา ดีไซน์" หั่นเป้ายอดขายปีนี้เหลือโต 5% จากเดิมคาดโต 25% นายนรากร ราชพลสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเรกา ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) หรือ EUREKA หนึ่งในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI กล่าวว่า หลังจากผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2557 ปรับตัวลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน ประกอบกับยังคงมีปัญหาความไม่แน่นอนของสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจภายในประเทศ บริษัทจึงปรับลดประมาณการรายได้รวมเป็น 5% จากเดิมที่คาดการณ์การเติบโตที่ 25% เนื่องจากความไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองทำให้ค่ายรถยนต์ ชะลอการลงทุน เขากล่าวว่า บริษัทรับมือกับความเสี่ยงทางการเมืองและเศรษฐกิจภายในประเทศโดยเน้นตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น เพื่อกระจายความเสี่ยง ขณะเดียวกันก็คาดว่าสัดส่วนรายได้ในต่างประเทศปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 12% จากปีก่อนที่มีสัดส่วน 6.3% ทั้งนี้ บริษัทเตรียมเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศอินเดียในเดือนก.ค.2557 หลังจากเปิดสาขาที่ประเทศอินโดนีเซียไปแล้วเมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2557 คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีก 2-3 เดือนจึงจะมีออเดอร์แรกจากทีมขายของยูเรกา อินโดนีเซียได้ ด้านนายสุพจน์ สุนทรินคะ ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท สาลี่ อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ SALEE กล่าวว่า การประกาศกฎอัยการศึกเมื่อเช้าวานนี้ (20 พ.ค.) จะไม่กระทบกับออเดอร์บริษัท เนื่องจากบริษัทเป็นผู้ส่งออกทางอ้อม ซึ่งกำลังซื้อต่างประเทศยังคงเติบโตต่อเนื่องตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก ลูกค้าในประเทศส่วนมากเป็นผู้ผลิตที่มีโรงงานอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ จึงได้รับผลกระทบเพียงการขนส่งเท่านั้น ทั้งนี้ ส่วนตัวเชื่อว่า การประกาศกฎอัยการศึกจะไม่กระทบกับภาคธุรกิจมากนัก หากไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น ขณะเดียวกัน เชื่อว่าในระยะสั้นภาคธุรกิจจะไม่ได้รับผลกระทบมาก อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าหากปัญหายืดเยื้อมากกว่า 1-2 เดือน ก็เชื่อว่าจะกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจค่อนข้างมากเช่นกัน "บริษัทไม่ค่อยได้รับผลกระทบเพราะส่วนมากส่งสินค้าไปต่างประเทศ เราเป็นผู้ส่งออกโดยอ้อม ออเดอร์จากลูกค้าที่จะส่งออกอีกทียังไม่กระทบ ในส่วนของภาพลักษณ์ประเทศ เชื่อว่าคู่ค้าต่างประเทศที่เคยทำธุรกิจกับประเทศไทยมานาน น่าจะเข้าใจสถานการณ์ แต่ไม่ควรมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น" ส่วนวัฒนา ชัยวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลดีซี เด็นทัล จำกัด (LDC) ผู้ให้บริการศูนย์ทันตกรรมทันตแพทย์เฉพาะทาง ในนามศูนย์ทันตกรรม แอลดีซี กล่าวว่า บริษัทมีความพร้อมที่จะเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (MAI) ในไตรมาส 3 ปีนี้ ล่าสุดยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อก.ล.ต.เมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) 120 ล้านหุ้น พาร์ 0.25 บาท คิดเป็น 30% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ โดยแต่งตั้งบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เงินจากการระดมทุน จะใช้สำหรับขยายศูนย์ทันตกรรม เพื่อรองรับการให้บริการครอบคลุมกลุ่มพื้นที่เป้าหมายเพิ่มขึ้น และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าการขยายสาขาในปีนี้เพิ่มขึ้นอีก 5 สาขา และภายใน 3 ปีข้างหน้า (ปี 2557-2559) จะเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 20 สาขา ซึ่งปัจจุบัน ลงทุนเปิดสาขาใหม่ไปแล้ว 2 สาขา และจะเปิดให้บริการได้ภายในปีนี้ คือ สาขารามอินทรา กม.10 และสาขาศาลายา ทั้งนี้ พื้นที่การขยายสาขาอื่นๆ เพิ่มเติม ต้องพิจารณาทำเลที่เหมาะสมทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด Tags : บจ. • ตลาดเอ็มเอไอ