เอบีซีลุยอีคอมเมิร์ซเต็มตัว

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 3 กันยายน 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    เอบีซี ปรับโครงสร้างธุรกิจ ลุยอีคอมเมิร์ซเต็มตัว หลังภาคอสังหาฯแข่งดุ ระบุลงทุนไปแล้วกว่า 100 ล้านบาท

    "แอสเซท ไบร์ท" หรือเอบีซี ปรับโครงสร้างธุรกิจ ลุยอีคอมเมิร์ซเต็มตัว หลังภาคอสังหาฯแข่งดุ ระบุลงทุนไปแล้วกว่า 100 ล้านบาท เตรียมดึงผู้ให้บริการบัตรเครดิต 10 รายร่วมรายการ หวังปีแรกมีสมาชิกในเว็บไซต์ 1 ล้านราย รับราคาหุ้นหวือหวากระทบความเชื่อมั่นคู่ค้า

    นางกันตพร ทองมั่น รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอสเซท ไบร์ท (ABC) เปิดเผยกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า บริษัทมีนโยบายปรับธุรกิจเป็นผู้ให้บริการซื้อสินค้าบนเว็บไซต์ (E-Commerce) หลังมองเห็นทิศทางการเติบโตของธุรกิจดังกล่าว ซึ่งเติบโตตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่เริ่มปรับเปลี่ยนไป และให้ความสำคัญกับการซื้อสินค้าผ่านบริการที่สะดวกสบายมากขึ้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการวางแผนเปิดตัวสินค้าและบริการ รวมถึงจัดอีเวนท์พิเศษต่างๆ เพื่อสร้างรายได้ให้บริษัท

    "ตอนนี้ที่คุยอยู่มี 2-3 โปรเจค คือการเป็นผู้จัดคอนเสิร์ตศิลปินจากประเทศเกาหลี, ผู้นำเข้าโทรศัพท์ไอโฟนและผู้จัดกิจกรรมเทศกาลของขวัญ คาดการณ์รายได้คร่าวๆ เฉพาะการจัดคอนเสิร์ต น่าจะมีรายได้เข้าในปีนี้ประมาณ 100 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายสินค้าอื่นๆ อีก ภายในปี 2558 จะมีสัดส่วนรายได้จากอีคอมเมิร์ซมากกว่า 80%"

    ภายหลังจากบริษัทปรับทิศทางมามุ่งเน้นธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ได้ลงทุนไปแล้ว 100 ล้านบาท ประกอบด้วยการลงทุนซื้อระบบโอทีพี (OTP) 6-7 ล้านบาท ลงทุนระบบไอที 50 ล้านบาท และอีก 40 ล้านบาท ใช้ลงทุนด้านการตลาด โดยแหล่งเงินทุนมาจากกระแสเงินสดภายในบริษัท

    บริษัทจะเปิดตัวธุรกิจใหม่ในวันที่ 16 ก.ย. และจะมีอีเวนท์เปิดตัวเพื่อสินค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายในเดือนต.ค. เบื้องต้นคาดหวังปีนี้ จะมีสมาชิกของเว็บไซต์ประมาณ 1 ล้ายราย และในเดือนต.ค. จะมีการประกาศแผนธุรกิจปี 2558 เช่นกัน โดย 3 ปีจากนี้ บริษัทจะให้ความสำคัญกับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

    "ตอนนี้มีผู้ให้บริการบัตรเครดิต ที่เข้าร่วมรายการกับบริษัทแล้ว 3 ราย แต่หลังจากนี้ จะเข้าไปพูดคุยกับผู้ให้บริการบัตรเครดิตเพิ่ม หลังจากเริ่มสื่อสารแผนธุรกิจของบริษัทให้นักลงทุนและผู้ถือหุ้นรับรู้ คาดทั้งปีน่าจะมีผู้ร่วมรายการ 10 ราย"

    นางกันตพร กล่าวเพิ่มว่า ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อาจจะไม่มีพัฒนาการเพิ่มเติม ปัจจุบันมีโครงการภายใต้การขาย 2 โครงการคือ โครงการอาคารชุดบ้านนวธารา รีเวอร์ไลฟ์ และโครงการบ้านสาทร ซึ่งจะทยอยขายในครึ่งหลังปีนี้ และปี 2558 ทั้งนี้ บริษัทประเมินว่าปีนี้ บริษัทจะมีรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 40 ล้านบาท โดยงวดครึ่งแรกปีนี้ มีรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 7 ล้านบาท

    สาเหตุที่บริษัทยังไม่มีแผนธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์เนื่องจากมีการแข่งขันที่รุนแรง โดยเฉพาะการแข่งขันกับผู้ประกอบการรายใหญ่ ขณะเดียวกันเศรษฐกิจภายในประเทศชะลอตัว ทำให้กำลังซื้อผู้บริโภคปรับลดลง แต่ราคาที่ดินกลับไม่ได้ปรับตัวลดลงตามธุรกิจ ทำให้บริษัทต้องปรับกลยุทธ์

    "ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจที่วางโครงไว้ว่าจะเป็นรายได้หลัก แต่เมื่อเผชิญกับความเสี่ยงด้านการแข่งขันและผลกระทบด้านเศรษฐกิจ บริษัทประเมินว่าน่าจะไม่มีการลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ๆ เพราะใช้เงินทุนจำนวนมาก แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับคุณปรเมษฐ์ ซึ่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์อยู่ก่อน"

    นางกันตพร กล่าวเพิ่มอีกว่า ภาพลักษณ์ของบริษัทได้รับผลกระทบภายหลังจากที่ตลาดหลักทรัพย์ให้ชี้แจงข้อมูลที่มีการผลต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้บริษัทได้ชี้แจงเรียบร้อยแล้วและตลาดหลักทรัพย์ได้ปลดเครื่องหมายเอสพี (SP) เมื่อวันที่ 29 ส.ค.2557 แต่ยังมีผู้ถือหุ้นและนักลงทุนสอบถามเข้ามายังบริษัทเรื่องปรับโครงสร้างธุรกิจและราคาหุ้น ซึ่งบริษัทได้ชี้แจงตามข้อเท็จจริง

    ในส่วนของนายปรเมษฐ์ รังรองธานินทร์ ผู้ถือหุ้นอันดับ 1 และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ปัจจุบันยังไม่สะดวกให้ข้อมูลผ่านสื่อ แต่บริษัทยืนยันว่านายปรเมษฐ์มีความมุ่งมั่นในการทำธุรกิจ และไม่เคยซื้อขายหุ้นที่ถืออยู่ส่วนตัวออกมา

    Tags : อีบีซี • บมจ.แอสเซท ไบร์ท • กรุงเทพธุรกิจ • นางกันตพร ทองมั่น • เกาหลี • โทรศัพท์ไอโฟน • อีคอมเมิร์ซ

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้