วันนี้(21 พ.ค.)มีรายงานว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ชูวิทย์ I′m No.5 เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยวิจารณ์ถึงกฎอัยการศึกว่าไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เป็นเพียงแค่การบรรเทาปัญหาชั่วครั้งชั่วคราวเปรียบเหมือนยาพาราเซตามอลเท่านั้น ทั้งนี้ได้เปิดเผยอีกว่าให้จับตาดูอีก 48 ชั่วโมงข้างหน้า ซึ่งเป็นระยะอันตราย หากยุติไม่ได้ ความรุนแรงจะมีมากกว่าเดิม และทำให้ทหารหนีไม่พ้นการรัฐประหาร มีใจความดังนี้ กฎอัยการศึก ไม่ใช่ยาขนานเอก กฎอัยการศึกไม่ใช่ "ยาขนานเอก" ที่จะไปรักษาโรคบ้าอำนาจได้ เมื่อฝั่งหนึ่งกลัวการสูญเสียอำนาจ และอีกฝั่งต้องการมีอำนาจ กฎอัยการศึกจึงเป็นเพียง "ยาพาราเซตามอล" ที่ใช้บรรเทาอาการปวดหัวชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น อีกสักพักอาการก็กำเริบกลับมาอีก ด้วยสาเหตุมาจากอำนาจของทั้งสองฝั่งไม่สมดุลกัน หากจะรักษาโรคนี้ให้หายขาด แล้วหวังพึ่ง "ทหาร" ก็เหมือนกวักมือเรียกเสือให้มาบอก ว่าจะแบ่งเนื้อกันอย่างไร มันผิดวิถีธรรมชาติ อะไรที่ผิดธรรมชาติมันไม่มีทางได้ผล ภาระอันหนักอึ้งจึงตกอยู่ที่ ผบ.ทบ. เสียเอง จะเดินหน้าก็ติดกึ๊ก จะถอยหลังก็ติดกั๊ก ม็อบก็ยังไม่ได้เลิก แค่หยุดรอดูท่าที มวลชนทั้งสองฝ่ายมีจุดยืนที่เป็นเส้นคู่ขนานไม่มีวันบรรจบ อีก 48 ชั่วโมงข้างหน้าเป็นระยะเวลาอันตราย หากยุติไม่ได้ ม็อบจะฟื้นคืนชีพกลับมาหนักกว่าเก่า ทำให้ทหารต้องใช้ยาแรงกว่ากฎอัยการศึก คงหนีไม่พ้น "รัฐประหาร" สังคมประชาธิปไตย พ.ศ. 2557 สั่งให้ซ้ายหันขวาหันไม่ได้อีกต่อไป ต้องให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน แต่เมื่อไม่ให้ประชาชนตัดสิน มีทางออกอยู่ทางเดียว คือพากันลงทะเล