คลังจ่อออกแพคเกจกระตุ้นบริโภค สั่ง3กรมเก็บเร่งแผน'รีดภาษีปี58' คลังเตรียมเสนอ'สมหมาย' ออกมาตรการพิเศษกระตุ้นเศรษฐกิจ' class='anchor-link' target='_blank'>เศรษฐกิจช่วงปลายปี พร้อมปรับโครงสร้างภาษีศุลกากรทั้งระบบ สั่ง 3กรมจัดเก็บภาษีเพิ่มประสิทธิภาพจัดเก็บรายได้ปี58 ยอมรับขจัดเก็บปี57ต่ำเป้า1.5แสนล้าน ขณะที่สศค.เชื่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ' class='anchor-link' target='_blank'>เศรษฐกิจที่ดีควรเร่งรัดเบิกจ่าย กรมบัญชีกลาง ส่งหนังสือเวียน สั่งส่วนราชการเร่งเบิกจ่ายตั้งเป้าไตรมาสแรกปี58 ต้องไม่ต่ำกว่า 30% นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวหลังประชุมร่วมกับผู้บริหารกระทรวงการคลัง เพื่อเตรียมแผนงานเสนอนายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังว่า แม้สำนักงานเศรษฐกิจ' class='anchor-link' target='_blank'>เศรษฐกิจ การคลัง(สศค.) จะมองว่าภาวะเศรษฐกิจ' class='anchor-link' target='_blank'>เศรษฐกิจขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องใช้โครงการประชานิยมมากระตุ้นเศรษฐกิจ' class='anchor-link' target='_blank'>เศรษฐกิจก็ตาม แต่เมื่อมีรัฐบาลใหม่มีรัฐมนตรีคนใหม่ น่าจะต้องมีมาตรการพิเศษมากระตุ้นการใช้จ่าย การบริโภคในช่วงปลายปีบ้าง ทั้งนี้แผนงานที่จะเสนอนายสมหมาย จะต้องสอดคล้องกับนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยจะนำแผนงานที่คสช.สั่งนำมาเสนอใหม่ รวมทั้งการปฏิรูปภาษีทั้งระบบที่เคยเสนอคสช.ไปแล้ว ส่วนการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ คงต้องรอนโยบายรัฐบาล ขณะนี้มีการตัดงบหน่วยงานต่างๆไปพอสมควร นอกจากนี้จะดูว่าเงินที่มาจากการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานต่างๆของงบปี2557 จะช่วยประหยัดงบได้โครงการละ 500-600 ล้านบาท เป็นเงินเท่าไหร่ เพียงพอที่จะนำมาขึ้นเงินเดือนทันที 1 ต.ค.2557หรือไม่ สั่ง3กรมเพิ่มจัดเก็บรายได้ปี58 นอกจากนี้ ได้สั่งให้ผู้บริหาร 3 กรมจัดเก็บภาษี ประกอบด้วย ทั้งสรรพากร ศุลกากร และสรรพสามิต ไปจัดทำแผนการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ในปีงบ 2558 เพื่อเสนอแผนต่อนายสมหมาย เพื่อให้การจัดเก็บเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ อย่างไรก็ตาม ได้รับรายงานเกี่ยวกับผลการจัดเก็บรายได้ และคาดการณ์รายได้ทั้งปีงบ 2557 โดยขณะนี้ยอดการจัดเก็บรายได้ยังต่ำกว่าเป้าหมายอยู่มาก คาดว่าการจัดเก็บรายได้จะต่ำกว่าเป้าหมายถึง 1.5 แสนล้านบาท ทั้งนี้เป้าหมายการจัดเก็บรายได้ในปีงบ 2557 อยู่ที่ 2.275 ล้านบาท “การจัดเก็บรายได้ช่วง 10 เดือนแรกต่ำกว่าเป้าหมาย 1.32 แสนล้านบาท หากกรมภาษีอย่างเดียวต่ำกว่าเป้าหมายถึง 1.83 แสนล้านบาท ดังนั้นกรมภาษีต้องดูว่าปีงบ2558 จะต้องปรับประสิทธิภาพการจัดเก็บอย่างไร เปลี่ยนอะไรบ้าง”นายรังสรรค์ กล่าว จ่อปลดล็อกเบิกจ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจ' class='anchor-link' target='_blank'>เศรษฐกิจ แหล่งข่าวสำนักงานเศรษฐกิจ' class='anchor-link' target='_blank'>เศรษฐกิจ การคลัง (สศค.) กล่าวว่าสศค.อยู่ระหว่างเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ' class='anchor-link' target='_blank'>เศรษฐกิจเพื่อเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งถือเป็นการดำเนินการตามปกติ โดยหนึ่งในมาตรการคือการเร่งรัดการเบิกจ่าย เพราะขณะนี้ ยังมีเงินที่รอการเบิกจ่ายอยู่จำนวนมาก ซึ่งรัฐบาลก็มีแผนที่จะให้มียอดการเบิกจ่ายในไตรมาสแรกของปีงบถึง 30% ของงบประมาณรายจ่ายในปี 2558 “สิ่งกระทรวงการคลังกำลังพิจารณา คือปลดล็อกขั้นตอนการเบิกจ่ายให้เร็วขึ้น สศค.กำลังเร่งหารือร่วมกันกับกรมบัญชีกลาง เพื่อดำเนินการเรื่องดังกล่าว” แหล่งข่าว กล่าวและว่ายังมีมาตรการทางภาษีที่จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว ซึ่งกรมสรรพากรอยู่ระหว่างการพิจารณา เพื่อเสนอมาตรการ โดยสศค.เห็นว่า ขณะนี้ภาวะเศรษฐกิจ' class='anchor-link' target='_blank'>เศรษฐกิจ อยู่ช่วงที่กำลังฟื้นตัวจากความเชื่อมั่น การเร่งรัดการเบิกจ่ายด้วยเงินที่มีอยู่ น่าจะเป็นมาตรการที่เหมาะสม จี้ส่วนราชการเบิกจ่ายงบฝึกอบรม-สัมมนา นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวถึงแผนเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2558 ว่าเตรียมส่งหนังสือเวียนไปยังส่วนราชการ ให้เร่งรัดการเบิกจ่ายตามแผนของรัฐบาลที่ต้องการให้การเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ในไตรมาสแรกของปี ในสัดส่วน 30% โดยขอให้ทุกส่วนราชการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ ในส่วนของงบฝึกอบรมและสัมมนา ปกติจะดำเนินการช่วงปลายปี ให้นำมาดำเนินการช่วงต้นปี โดยให้มีการเบิกจ่ายให้ได้ 50% ของวงเงินที่ตั้งไว้ นอกจากนี้ จะส่งหนังสือเวียนไปยังส่วนราชการ ที่มีกองทุนนอกงบประมาณอยู่ภายใต้การบริหารจัดการ เพื่อขอให้ดำเนินการเร่งรัดการเบิกจ่าย โดยปกติแล้ว กองทุนนอกงบประมาณที่เรียกว่า ทุนหมุนเวียนมักมีการใช้จ่ายเงินแบบเหลือจ่ายอยู่ทุกปีงบประมาณ และทำให้มีเงินฝากอยู่ในสถาบันการเงินจำนวนมาก ซึ่งเงินส่วนนี้ เตรียมดึงเงินกองทุนคืนคลัง20% กรมฯมีแผนที่จะนำคืนคลังหลวง 20%ของเงินฝากจากทุกกองทุน ปัจจุบันมีกองทุนหมุนเวียนอยู่ 95 กองทุน มีเงินฝากนับแสนล้านบาท ส่วนการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนนั้น ที่ผ่านมา กรมฯได้ส่งหนังสือเวียนเพื่อให้ทุกส่วนราชการที่มีแผนลงทุน ได้ดำเนินการเตรียมจัดซื้อจัดจ้างไว้ล่วงหน้า เมื่องบประมาณปี 2558 มีผลบังคับใช้ ก็ให้ดำเนินการทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างได้ทันที ก็ยังไม่แน่ใจว่า จะมีส่วนราชการใดที่สามารถดำเนินการได้บ้าง เพราะขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของแต่ละส่วนราชการ ในส่วนของกรมบัญชีกลาง ได้สั่งให้ทุกส่วนงานของกรมฯที่มีแผนการลงทุน ไปเร่งกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง และภายในวันที่ 15 ต.ค.นี้ ต้องดำเนินการทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างให้แล้วเสร็จ เสนอรมต.ปรับโครงสร้างภาษีทั้งระบบ นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่าได้เตรียมเสนอนายสมหมาย พิจารณาปรับโครงสร้างภาษีศุลกากรทั้งระบบ ภายในเดือนก.ย.นี้ เพื่อเสนอต่อรัฐบาลและสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณา หลังจากที่ผ่านมาได้เสนอแก้ไขในบางประเด็น จึงต้องการแก้ไขทุกด้าน เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ทั้งฉบับ โดยเฉพาะการเดินหน้าโครงการจัดตั้งระบบ National Single Window (NSW) ตามแผนการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ และดำเนินงานตามความตกลงอาเซียน สำหรับตั้ง ASEAN Single Window (ASW) เพื่อตั้งจุดตรวจ ณ จุดเดียวในการขนส่งสินค้าข้ามประเทศไปประเทศที่ 3 พัฒนา6ด่านชายแดนเชื่อมเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ ต้องการแก้ปัญหาอุปสรรคการอำนวยความสะดวกในการนำเข้า-ส่งออกสินค้า ให้กับภาคเอกชนใน 20 ประเด็น เช่น การแก้ไขเรื่องรางวัลสินบนนำจับ การปรับปรุงกระบวนการพิธีการทางศุลกากร การตั้งคณะกรรมการพิจารณาพิกัดอัตราภาษีศุลกากร เพื่อกำหนดพิกัดอัตราภาษีล่วงหน้า การกำหนดราคาสินค้าล่วงหน้า เพื่อให้ภาคเอกชนรับรู้อัตราภาษีล่วงหน้า 1 ปี เพื่อวางแผนนำเข้า-ส่งออกสินค้า ลดปัญหาข้อโต้แย้งระหว่างรัฐและเอกชน อีกทั้งต้องปรับโครงสร้างพิกัดทั้งระบบ เมื่อเอกชนรับทราบพิกัดชัดเจนแล้วจะได้สำแดงสินค้าเพื่อเสียอากรได้อย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตาม จะต้องเร่งเดินหน้าพัฒนา 6 ด่านชายแดน 5 ด่านศุลกากรตามแนวชายแดน เพื่อพัฒนาทั้งสินค้าและอุตสาหกรรมตามแนวชายแดนร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน ต้องลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การนำระบบเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อแยกการพบปะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรกับภาคเอกชน Tags : รังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ • ปลัดกระทรวงการคลัง • เศรษฐกิจ • กระตุ้นบริโภค • รีดภาษี • โครงสร้าง • สรรพากร • ศุลกากร • สรรพสามิต • เศรษฐกิจ • ฝึกอบรม • มนัส แจ่มเวหา