บจ.ไทยแห่ลงทุนนอก ยอดรายได้โต10%ต่อปี

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 2 กันยายน 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    บจ.ไทยโชว์รายได้จากตปท.ขยายตัวเพิ่มปีละ10% ดันสัดส่วนรายได้จากธุรกิจลงทุนต่างชาติทะลุ45%

    ชี้อุตสาหกรรมเกษตรบุกนอกสูงสุด เอสซีจี ระบุ พันธมิตรธุรกิจหัวใจสำคัญลงทุนนอก ด้านตลท.เตรียมจัดทำดัชนีจัดอันดับบริษัทที่มีรายได้ต่างประเทศ สร้างทางเลือกมากขึ้น

    วานนี้ ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้มีการจัดสัมมนา หัวข้อ "การเติบโตในต่างประเทศของบริษัทจดทะเบียนไทย"

    นางสาวปฐมาภรณ์ นิธิชัย ฝ่ายวิจัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า จากการสำรวจบริษัทจดทะเบียน 109 บริษัท พบว่า มีรายได้จากต่างประเทศในปี 2556 เติบโต 10 % ต่อปี โดยพบว่า มีรายได้จากต่างประเทศ มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนมาอยู่ที่ 45 % เมื่อเทียบกับช่วงปี 2549 ที่มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ ที่ 38.1 %

    "จากการสำรวจพบว่า สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยในปี 2556 มีรายได้จากต่างประเทศ 1,610 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2549 ที่มีรายได้ 801ล้านบาท ซึ่งในช่วง 8 ปีที่ผ่านมามีการเติบโตระดับ 10 % ต่อปี"

    เซ็ท 100 รายได้นอก 43.4%

    การสำรวจพบว่า บริษัทจดทะเบียนไทยที่ลงทุนในต่างประเทศต่อเนื่อง พบว่าเป็นบริษัทอยู่ในกลุ่ม เซ็ท 50 มีสัดส่วนอยู่ 72 % และอยู่ในกลุ่มเซ็ท 51-100 อยู่ที่ 32 % สิ่งที่น่าสนใจคือ บริษัทขนาดใหญ่เมื่อตัดรายได้จากการลงทุนขนาดใหญ่ พบว่าอัตราการเติบโตของรายได้จากการลงทุนต่างประเทศอยู่ 5.2 %ต่อปีอยู่ในระดับเดียวกับ กลุ่มบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก 5.6 % ในขณะที่รายได้จากต่างประเทศพบว่า เซ็ท 100 % มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศอยู่ที่ 43.4 %

    แห่ลงทุนอาเซียนสินค้าเกษตรนำ

    ขณะที่กลุ่มนอนเซ็ท 100 มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ 52.4 % เมื่อแยกรายประเทศพบว่า ภูมิภาคที่บริษัทจดทะเบียนเข้าไปลงทุนมากที่สุด ยังเป็นภูมิภาค อาเซียน 74 % เอเชียใต้ 49 % อเมริกา 28 % และยุโรป 22 % โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีรายได้จากการลงทุนต่างประเทศมากที่สุด คือกลุ่มสินค้าเกษตร 25 % กลุ่มทรัพยากร 23 % และกลุ่มอุตสาหกรรม 17 %

    อย่างไรก็ตาม สำหรับความท้าทายของบริษัทจดทะเบียน ในฐานะบริษัทข้ามชาติ พบว่า การรับมือกับโอกาสและความเสี่ยงในตลาดใหม่นอกอาเซียน ซึ่งมีความแตกต่างจากการทำตลาดในประเทศไทย รวมไปถึงแหล่งทรัพยากรในการผลิตจะเพียงพอต่อการเติบโตอย่างยั่งยืนหรือไม่ รวมไปถึงการลงทุนสร้างนวัตกรรม และศักยภาพของคนเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน นอกจากนี้ยังอยากให้รัฐบาลช่วยส่งเสริมด้านการลงทุน เหมือนในประเทศญี่ปุ่น ที่เดินหน้าสนับสนุนการลงทุนทั้งการหาข้อมูล และช่วยในการจับคู่ธุรกิจให้

    เอสซีจีชี้เลือกพันธมิตรหัวใจสำคัญ

    นายเชาวลิต เอกบุตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ การเงินและการลงทุน เอสซีจี บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย กล่าวว่า การไปลงทุนในตลาดต่างประเทศ ถือว่าเป็นโอกาสในการเติบโตของบริษัท เพราะตลาดอาเซียนมีขนาดใหญ่ ประชากรมีจำนวนมาก และการเติบโตที่สูง แต่สิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญคือ การรู้จักตลาดที่จะเข้าไปดำเนินธุรกิจ และสังคมวัฒนธรรมของแต่ละประเทศว่ามีความแตกต่างกับประเทศไทยอย่างไร

    "ในการไปลงทุนนอก สิ่งสำคัญคือการเข้าใจในตลาดประเทศนั้นๆ โดยในเบื้องต้น จะใช้วิธีการส่งสินค้าเข้าไปจำหน่าย หากผลตอบรับดี ก็จะพิจารณาในการเข้าไปตั้งโรงงานการผลิต ซึ่งเราจะหาพันธมิตรท้องถิ่นในการเข้าทำตลาด"

    โดยพันธมิตรทางธุรกิจเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะเขาจะเป็นผู้ที่เข้าใจตลาด แต่ทัศนคติในการทำงานต้องตรงกัน และสามารถช่วยกันแก้ปัญหาต่างๆได้

    ปัจจุบันบริษัทมีรายได้จากต่างประเทศที่ 10-15% จากรายได้รวม ซึ่งบริษัทได้เข้าไปลงทุนในอาเซียนมากที่สุด โดย 3 ประเทศแรกที่มีสัดส่วนการลงทุนสูงสุด คือ อินโดนีเซีย ใชเงินลงทุน 3.6 หมื่นล้านบาท เวียดนาม 1.95 หมื่นล้านบาท และ พม่า ที่ 5.7 พันล้านบาท โดยขณะนี้เรามีสัดส่วนพนักงานที่เป็นต่างชาติอยู่ที่ 30 % จากพนักงานทั้งหมด 50,000 คน

    ตั้งคลังวัสดุก่อสร้างอาเซียน

    อย่างไรก็ตามบริษัทได้มีการร่วมลงทุนกับบริษัทสยามโกลบอลเฮ้าส์ ในสัดส่วน 50 % เพื่อจัดตั้งบริษัทโกลบอลเฮ้าส์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด โดยเป็นเงินลงทุนในส่วนของเอสซีจีประมาณ 200 ล้านบาทการร่วมทุนดังกล่าวเป็นการสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างในรูปแบบคลังสินค้าในอาเซียน คาดว่าน่าจะได้เห็นความชัดเจนมากขึ้นในปี 2558

    เอสแอนด์พีเล็งรุกอาเซียนเพิ่ม

    นายกำธร ศิลาอ่อน รองผู้จัดการใหญ่ สายงานกรุ๊ป โปรดักชั่น และ ซัพพลายเชน บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทลงทุนในต่างประเทศไม่มากนัก โดยมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ เพียง 10 % เท่านั้น โดยสิ่งสำคัญในการขยายตลาดต่างประเทศ คือการช่วยเหลือของภาครัฐบาล ในการสนับสนุนข้อมูล อย่างสำนักงานส่งเสริมการลงทุน ควรหันมาส่งเสริมออกไปลงทุนในต่างประเทศเพื่อสร้างโอกาสในการขยายตัวเพิ่มขึ้น

    อย่างไรก็ตาม บริษัทมีสาขาในต่างประเทศทั้ง 24 สาขา โดยลงทุนในประเทศประเทศอังกฤษ 5 สาขา รวมไปถึงขยายสาขาในประเทศสิงคโปร์ ทั้งนี้ได้มองถึงการขยายตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียนมากขึ้น เพราะเห็นศักยภาพการเติบโต และมีความคล้ายคลึงกับประเทศไทย

    ยันบจ.รายได้ภูมิภาคสูง

    นาย ภากร ปีตธวัชชัย รองผู้จัดการสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กรและการเงิน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ตลท.อยู่ระหว่างการพิจารณาออกดัชนี เพื่อจัดกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่มีรายได้จากต่างประเทศ อำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนในการแบ่งหมวดหมู่ของบริษัทที่มีรายได้จากต่างประเทศ เพราะจากการพบนักลงทุนต่างประเทศพบว่า นักลงทุนให้ความสนใจในกลุ่มบริษัทที่ออกไปลงทุนและมีรายได้จากภูมิภาค

    "ในช่วงที่ผ่านมา การไปโรดโชว์ หลายกองทุนขนาดใหญ่ตั้งคำถามว่า ทำไมเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว แต่การเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนไทยยังอยู่ในเกณฑ์ดี และดัชนีตลาดหลักทรัพย์ยังปรับตัวขึ้นได้ ซึ่งเราได้ใช้รายได้จากต่างประเทศเป็นตัวอธิบายการปรับขึ้นของดัชนี ซึ่งปัจจุบันบริษัทไทยไม่ได้พึ่งพากับรายได้จากในประเทศอย่างเดียว แต่ยังมีรายได้จากภูมิภาคค่อนข้างสูงทำให้การเติบโตยังมีต่อเนื่องโดยการจัดทำดัชนีดังกล่าวนั้นจะพยายามให้แล้วเสร็จในปี 2558

    Tags : ตลาดหลักทรัพย์ • ปฐมาภรณ์ นิธิชัย • ตลท. • บริษัทจดทะเบียน • เครือเอสซีจี • อาเซียน • วัสดุก่อสร้าง • รายได้

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้