สาว 'อั้ม พัชราภา' หวนรับละครปัดได้ฤกษ์แต่ง 'แอมป์' ปลายปี ยันยังไม่พร้อม รับโดนถอดพรีเซนเตอร์เหตุมีปัญหาเรื่องเงินปัดทะเลาะ ห่างหายหน้าไปจากงานละครปีกว่า ล่าสุด ซุป'ตาร์สาว อั้ม พัชราภา ก็หวนกลับมารับงานละครเรื่องพราว ให้แฟนๆ ได้หายคิดถึง ซึ่งงานนี้เจ้าตัวก็เปิดใจว่า "หายไปปีกว่า การบ้านก็ต้องทำทุกเรื่องอยู่แล้วค่ะ ก็ยังสนุกในการเล่นละคร บางวันก็มีเบื่อๆ บ้าง เพราะอากาศมันร้อน เพราะเราไม่ชิน คือตอนอยู่บ้านเราก็สบายๆ เล่น ตอนเล่นเกม พอกลับมาเล่นละครก็ต้องตื่นเช้ามากๆ ค่ะ บทเรื่องนี้ก็ยากมากค่ะ คือหลายๆ คน อาจจะคิดว่าอั้มชอบรับบทง่ายๆ แต่จริงๆ แล้วการเล่นบทธรรมชาติมากๆ มันยากจริงๆ ค่ะ ถ้าเลือกได้ ก็ไม่อยากเล่นเป็นดาราหรอก เพราะลำบาก คือเรารู้ว่าจริงๆ แล้ว คนแบบนี้จะต้องเป็นยังไง แล้วถ้าเราแสดงละครแล้วทำไม่ได้อย่างนั้น มันก็ไม่ใช่ จริงๆ หายไปปีกว่าก็ไม่กดดันอะไรแต่ก็พยายามทำการบ้านให้ดีที่สุด พยายามเล่นตัวละคร 2 ตัวนี้ให้แตกต่างกันในสายตาคนอื่น จะหนักใจ ก็แค่เสียง เพราะเสียงจะไปทับกัน ตัวพราวเสียงเขาจะมั่นใจในตัวเอง ส่วนตัวมีนจะเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือคนอื่นจนตัวเองลำบาก มันรันทดมากไม่มีเงินทานข้าว คือตัวในเรื่องเขาอยากพักจากวงการ เพราะกลัวคนตามฆ่า แต่ตัวอั้มอยากพัก เพราะอยากใช้ชีวิตนิ่งๆ เงียบๆ ก็แค่พักแล้วกลับมาทำค่ะ เดี๋ยวพอทำได้สักพักก็จะไปพักใหม่ คือไม่ได้พักถาวรค่ะ รอมีเงินมากๆ ก่อนค่อยสวัสดีค่ะ กับแฟนคลับนี่ไม่ได้ห่างกันเลยค่ะ ยังเจอกันอยู่ตลอด คือไม่ได้เปลี่ยนอะไรมากมาย เพียงแต่อั้มตื่นสาย นอนดึก เล่นเกมได้ทั้งวัน เล่นกับน้องหมาได้ตลอด คือชีวิตของอั้มสบายขึ้นจากเมื่อก่อน เพราะเราถ่ายละครเราก็ต้องตื่นเช้ามากๆ ด้วยค่ะ มีเด็กใหม่เยอะ เรากลัวโดนแซงหรือเปล่าจะกี่ปีก็ไม่กังวล เพราะไม่ชอบแข่งกับใครอยู่แล้ว อยู่เป็นตัวเองค่ะ ถ้าแก่ก็แก่แบบตัวเองไมได้ซีเรียสเลย นอกจากละครก็อาจจะมีหนังอีกเรื่องหนึ่งค่ะ สำหรับข่าวโดนเปลี่ยนตัวพรีเซนเตอร์ยาสระผมยี่ห้อหนึ่ง ก็ใช่ค่ะ แต่ไม่ได้ทะเลาะกัน ยังรักสินค้าของเขาเหมือนเดิมค่ะ เป็นเพราะค่าตัวไม่พอ อันนี้จริงค่ะ คือ อั้มคิดว่า การทำงานของเขาคือจะมีงบต่อปีแล้วพอเข้าปลายปีมันไม่พอซึ่งเขาก็มาขอลดเราแต่เราก็ไม่ได้ลดแถมยังขอขึ้นนิดหนึ่งด้วยก็เลยเป็นปัญหาตรงนี้ค่ะ แต่ไม่ได้อะไรมากนะคะ ถ้าพร้อมเมื่อไร ก็กลับมาเซ็นสัญญากันได้เหมือนเดิมค่ะ เป็นเพราะอีกผลิตภัณฑ์หนึ่งที่ให้เงินเยอะกว่ามั้ย อันนั้นไม่เกี่ยวเพราะเป็นครีมทาผิว แต่เขาอาจจะล็อกไม่ให้ไปถ่ายอย่างอื่นซึ่งในจุดนี้ เขาห้ามเราไม่ค่อยได้หรอก เพราะเรารับของเรามาก่อน ดังนั้น เรื่องนี้เลยไม่ได้มีส่วนอะไรเท่าไรค่ะ แต่พูดก่อนเลยว่า เดี๋ยวขอขายของตัวเองก่อนนะเพราะกำลังจะทำสินค้าของตัวเองเหมือนกัน" ล่าสุด สาวอั้ม แย้มๆว่ากำลังจะเปิดตัวธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบรนด์ตัวเอง "ถูกต้องค่ะ แอมป์เขาก็ช่วยๆ ดู คือพวกตกแต่งอะไรแบบนี้ เราดูไม่เป็นเราก็เลยจะดูเรื่องผลิตภัณฑ์มากกว่าซึ่งก็ทำมา 5-6 เดือนแล้วแต่เราก็อยากจะทำให้มันออกมาดีที่สุดค่ะ สินค้าเกี่ยวกับความงามนี่แหละ ลงทุนเยอะไหม ก็ไม่เยอะเท่าไรหรอกค่ะ แต่อยากได้คืนเร็วๆ จะว่าบานปลายไหมก็คงไม่บายแต่ไอเดียนะบานแน่ๆ ทำแล้วสวยเหมือนอั้มไหม อันนี้ก็ต้องดูพื้นฐานของหน้าก่อนค่ะ ไม่ได้หุ้นกับแอมป์คะ แอมป์เขาก็จะแยกไปทำของเขาเองเหมือนกันเพียงแต่เขาจะช่วยเราเรื่องเอกสาร ของแอมป์ก็จะได้เห็นเร็วๆ นี้นะคะ เหมือนเป็นศัตรูกันกลายๆ เลย ไปถึงไหนกี่เปอร์เซนต์ไม่รู่เลยค่ะ คือพอเสร็จแล้วเราก็แก้ใหม่เพราะเราอยากให้มันดี เราใช้กับตัวเองมา 5-6 เดือนแล้ว จริงๆ ต้องเปิดตั้งแต่สงกรานต์แล้วแต่ไม่ทัน คือไม่ว่าจะสินค้าอะไรก็แล้วแต่เราต้องยืนยันว่าเราใช้มาก่อน แม้ว่าจะใช้ก่อนสักเดือนหนึ่งหรือ 2 อาทิตย์ก็ต้องใช้ ดังนั้นของๆ ตัวเองก็ต้องใช้ให้นานกว่านั้นไม่งั้นจะเสียชื่อเราได้ เราจะไม่โกหกผู้บริโภคเด็ดขาด เราอาจจะช้าเพราะคนอื่นทำมาเยอะแล้วแต่เราก็ต้องมั่นใจในสินค้าของเราค่ะ ผลกนะทบกับพรีเซ็นเตอร์ตัวอื่น อันนี้มีแน่นอนค่ะ เราทำใจเอาไว้แล้ว ยังไงวันใดวันหนึ่งเราก็ต้องมีงานเป็นของตัวเองค่ะ เราต้องคุยกับเขาก่อนว่าเขาจะยอมเราหรือเปล่า คือของแบบนี้มันอะลุ่มอล่วยกันได้อยู่แล้วแหละ" ส่วนกระแสข่าวที่ออกมาว่า สาวอั้ม ได้ฤกษ์แต่งหนุ่มแอมป์แล้วนั้น เจ้าตัวก็ชี้แจงว่า "เรื่องนี้ยังอีกไกลเลยค่ะ เลี้ยงแต่ลูกเพื่อน คือจริงๆ แล้วอั้มชอบเด็กแต่ไม่อยากมีเอง เขาเองก็ไม่เห็นเขาจะพูดถึงเลย ทุกวันนี้ ก็แฮปปี้แล้ว ที่ข่าวบอกว่าจะจัดปลายปีนี้ อันนี้ไม่เห็นรู้เรื่องเลย บางข่าวก็รู้ก่อนอั้มอีกนะ พูดตรงๆ ก่อนนะว่า ถ้าทุกคนเป็นอั้มทุกคนอยากไปไหม ต่อให้อยากมีครอบครัวมากๆ ก็คงไม่อยากไปหรอก ถามว่าหวงความโสดไหม เพราะติดงานค่ะ ไม่หวงโสดและคำว่าซุปตาร์ด้วย คือถ้าเราไปอยู่กับเขาแล้วเขาดูแลเราไม่ได้เหมือนทุกวันนี้กับการที่เรามีขึ้นมาเองแบบนี้ไม่ดีกว่าเหรอ ถ้าเกิดเขาขอเราจริงๆ ก็คงไม่ใช่ปีนี้หรอกค่ะ คือเราจะอยากไปอยู่แล้วแต่คงไม่เร็วๆ นี้แน่นอน เอาจริงๆ บางทีเราก็อึดอัดเหมือนกันเวลาไปไหน มีแต่คนถามว่าเมื่อไรจะแต่งงาน คือตอนโสดกับตอนแต่งสินค้าที่ติดต่อมามันจะแตกต่างกันนะ เราต้องการอย่างตอนเนี่ยค่ะ"