ก.ล.ต.เตรียมจัดตั้งกระดานหุ้นเอสเอ็มอีสิ้นปีนี้ หวังช่วยธุรกิจขนาดเล็กเข้าถึงแหล่งทุนง่ายขึ้น นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) อยู่หว่างการจัดตั้งกระดานซื้อขายหุ้นใหม่ เพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ขึ้น เพื่อสนับสนุนให้เอสเอ็มอี เข้าถึงแหล่งทุนได้ง่ายสร้างทางเลือกให้กับภาคธุรกิจด้านการระดมทุน โดยคาดว่า น่าจะได้ข้อสรุปและสามารถจัดตั้งกระดานหุ้นได้ภายในปีนี้ "ปัจจุบันธุรกิจเอสเอ็มอีของไทยต้องการเข้าถึงแหล่งทุนอย่างมาก ซึ่งเรามองว่า ควรจะเปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางเหล่านี้เข้าถึงตลาดทุนได้ง่ายขึ้น เพื่อเพิ่มช่องทางการระดมทุน จะช่วยให้ภาคธุรกิจเติบโตได้ยั่งยืนในอนาคต" เขากล่าวว่า กระดานหุ้นเอสเอ็มอีนั้น ไม่ใช่เรื่องใหม่และเกิดขึ้นแล้วในหลายประเทศ ยกตัวอย่างประเทศญี่ปุ่น ที่มีกระดานหุ้นทั้งสิ้น 4 กระดาน และเกาหลีใต้ก็มี 4 กระดาน ทั้ง 2 ตลาดมีกระดานหุ้นเอสเอ็มอีอยู่ โดยเฉพาะในเกาหลีที่เราเอาเป็นแบบอย่าง พวกเขาเปิดกระดานหุ้นเอสเอ็มอีมาประมาณ 1 ปี ได้รับผลการตอบรับที่ดีมาก ทำให้ภาคธุรกิจเข้าถึงแหล่งทุนง่ายขึ้น ข้อกำหนดเอสเอ็มอีที่จะเข้าระดมทุนในกระดานหุ้นใหม่ได้ จะต้องมีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 100 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจมาไม่ต่ำกกว่า 5 ปี อยู่ในธุรกิจด้านนวัตกรรม หรือธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตดี และธุรกิจที่จะเข้ามาจดทะเบียนไม่จำเป็นต้องมีผลประกอบการที่มีกำไร อยู่ในสภาวะขาดทุนได้ แต่ต้องมีแนวโน้มการขาดทุนลดลง และมีแผนธุรกิจที่เหมาะสม และกำหนดให้บริษัทต้องส่งผลการดำเนินงานก่อนตรวจทาน 2 ครั้งต่อปี และส่งผลการดำเนินงานที่ผ่านการตรวจทานแล้วปีละ 1 ครั้ง ในเบื้องต้น จะนำบริษัทที่เข้าอบรมในโครงการหุ้นใหม่ความภูมิใจของจังหวัด ที่มีกว่า 300 บริษัท เข้ามาพิจารณา หากบริษัทไหนมีความพร้อมที่จะเข้าจดทะเบียนก็จะผลักดันทันที ซึ่งผลการดำเนินงานในโครงการหุ้นใหม่ความภูมิใจของจังหวัดถือว่าได้รับการตอบรับที่ดี โดยได้ผลักดันเข้าทำการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอแล้วมากกว่า 10 บริษัท ซึ่งบริษัทไหนที่ยังไม่มีความพร้อมมากพอที่จะเข้าทำการจดทะเบียน ใน 2 ตลาดที่มีอยู่เดิม จะผลักดันเข้าทำการจดทะเบียนในตลาดหุ้นเอสเอ็มอี เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมก่อนขยับขึ้นไปจดทะเบียนในตลาดที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งทางก.ล.ต.และตลท.จะสนับสนุนบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นเอสเอ็มอีโดยการปรับลดราคาธรรมเนียมต่างๆ ให้กับบริษัท เพื่อจูงใจให้เข้ามาจดทะเบียนมากขึ้น สำหรับกลุ่มนักลงทุนที่จะเข้าลงทุนได้ จะจำกัดเฉพาะนักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนที่มีคุณภาพหรือนักลงทุนเอไอเท่านั้น ไม่เปิดโอกาสให้นักลงทุนทั่วไปเข้าลงทุน เพราะเราต้องการคัดกรองผู้ลงทุนที่มีคุณภาพ พร้อมที่จะลงทุนในกิจการที่อาจมีความเสี่ยงสูง และเริ่มต้นไปพร้อมกับบริษัทที่เข้าจดทะเบียนในระยะยาว ซึ่งก.ล.ต.มองว่าอาจกำหนดเกณฑ์เพิ่มเติมเพื่อจำกัดจำนวนผู้ลงทุน ไม่ให้มากเกินไป ป้องกันการทำราคาหุ้น อย่างไรก็ตามโดยในรายละเอียดความคืบหน้านั้น ที่ผ่านมาก.ล.ต.ได้ทำงานร่วมกับ ตลท.อย่างใกล้ชิด เพื่อผลักดันให้เกิดกระดานตลาดหุ้นเอสเอ็มอีให้ได้จริง ซึ่งปัจจุบันเราอยู่ระหว่างการกำหนดหลักเกณฑ์บริษัทที่จะเข้าทำการจดทะเบียนให้เหมาะสมมากขึ้น โดยอยู่ระหว่างการกำหนดเกณฑ์ขั้นสุดท้ายก่อนที่จะประชุมร่วมกันเพื่อสรุปกฎเกณฑ์ต่างๆ อีกครั้ง โดยคาดว่าจะสามารถตั้งกระดานซื้อขายได้ภายในปีนี้ ซึ่งยอมรับว่ากฎเกณฑ์บางข้ออาจมีการทับซ้อนกับตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ โดยเฉพาะกฎเกณฑ์ที่กำหนดเรื่องทุนจดทะเบียนของเอ็มเอไอที่เริ่มต้นตั้งแต่ 20 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งในอนาคตอาจปรับกฎเกณฑ์ให้มีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท เพื่อไม่ให้มีการทับซ้อน Tags : วรพล โสคติยานุรักษ์ • ก.ล.ต. • หุ้น • เอสเอ็มอี