พบเดือนส.ค.หุ้นขนาดกลางวิ่งชนเพดานเกิน10บริษัท ส่วนมากมีกระแสข่าวดี เอบีซี-ดีทีซีไอราคาขยับเกิน 100% จากการสำรวจการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้นรอบเดือนส.ค.2558 (1 ส.ค.-28 ส.ค.) พบว่า บริษัทที่มีการหุ้นปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 30% มีจำนวน 14 บริษัท โดย 5 หลักทรัพย์ที่ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นมากที่สุดในเดือนส.ค. ประกอบด้วย บริษัท แอสเซท ไบร์ท (ABC) ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้น 446.67%, บริษัท ดี.ที.ซี.อินดัสตรี่ส์ (DTCI) ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้น 139.06%, บริษัท เอเซียไฟเบอร์ (AFC) ราคาเพิ่มขึ้น 98.75%, บริษัท วนชัย กรุ๊ป (VNG) ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 74% และบริษัท ศรีวิชัยเวชวิวัฒน์ (VIH) ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้น 68.87% ทั้งนี้ จากการสำรวจกระแสข่าวรอบ 1 เดือนของบริษัทที่ราคาหุ้นมีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว พบว่าส่วนมากมีกระแสข่าวลือในทางบวกมารองรับราคาหุ้น และมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น อาทิ บริษัท แอสเซท ไบร์ท (ABC) มีกระแสข่าวเรื่องการปรับโครงสร้างธุรกิจจากผู้ผลิตถุงเท้า เป็นอสังหาริมทรัพย์, บริษัท ศรีวิชัยเวชวิวัฒน์ (VIH) มีข่าวเรื่องการเข้าซื้อหุ้นของกลุ่มทุนใหม่ซึ่งทำธุรกิจสื่อ รวมถึงการเข้าซื้อโรงพยาบาลแม่สอดเข้ามาอยู่ภายใต้การบริหาร นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า กรณีที่ราคาหุ้นที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนมากจะเป็นหุ้นที่มีข่าวลือ ทำให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรกันค่อนข้างมาก ขณะเดียวกัน บรรยากาศการลงทุนในเดือนส.ค.2557 ที่เริ่มกลับมาคึกคักจากกระแสเงินทุนไหลเข้า, การปฏิรูปการเมืองที่เริ่มเห็นความชัดเจนต่อเนื่อง, การประกาศผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกปีนี้ รวมถึงไตรมาส 2/2557 ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้นของบางบริษัทปรับเพิ่มขึ้นมาจนเป็นที่น่าสังเกต นักวิเคราะห์กล่าวอีกว่า แนะนำให้นักลงทุนศึกษาข้อมูลด้านปัจจัยพื้นฐานก่อนการเข้าลงทุนในหุ้นรายตัว เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงที่ราคาหุ้นหลายบริษัทเคลื่อนไหวอย่างหวือหวา นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก (EPCO) หนึ่งในหุ้นที่ราคาปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในรอบเดือนส.ค. กล่าวว่า จากผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2557 ที่ออกมาดีตามคาด บริษัทได้ปรับเป้าหมายรายได้รวมปีนี้เติบโต 30% จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายการเติบโตที่ 20% ขณะที่กำไรสุทธิจะเติบโตกว่า 90% จากปีก่อนอยู่ที่ 130.59 ล้านบาท เนื่องจากในปีนี้จะมีการบันทึกรายได้และกำไรจากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เข้ามา ทั้งนี้ บริษัทเริ่มรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าลพบุรี กำลังการผลิต 15 เมกะวัตต์ ขณะที่ช่วงเดือนสิงหาคมนี้จะมีการรับรู้จากโครงการโซลาร์รูฟอีก 1.5 เมกะวัตต์ และจะรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าประเทศญี่ปุ่น 4 เมกะวัตต์ ช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตให้ได้ 100 เมกะวัตต์ และจะเน้นที่ประเทศญี่ปุ่น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาโดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปอีก 1-2 โครงการ กำลังการผลิต 40 เมกะวัตต์ ด้านนางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท เซ็ปเป้ (SAPPE) กล่าวว่า บริษัทมีเป้าหมายที่จะดึงกลุ่มนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศเข้ามาถือหุ้นเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่อยู่ระดับไม่ถึง 1% โดยเมื่อวันที่ 27 ส.ค.2557 บริษัทได้เข้าร่วมงานไทยแลนด์ โฟกัส เพื่อนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุนสถาบัน ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาได้มีกลุ่มนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศหลายรายให้ความสนใจในการเข้าถือหุ้นบริษัท โดยเล็งเห็นจุดแข็งสำคัญในตัวสินค้าของบริษัทที่มีการส่งออกไปทั่วโลก และอยู่ในร้านค้าหลักของแต่ละประเทศ ประกอบกับศักยภาพในการดำเนินธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นายพงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เด็มโก้ (DEMCO) กล่าวถึงแผนการดำเนินธุรกิจครึ่งปีหลังว่า บริษัทจะเร่งทำงานตามแบ็คล็อกที่มี เพื่อเร่งการรับรู้รายได้ให้เร็วที่สุด ชดเชยความล่าช้าของงานที่เลื่อนประมูลออกไป จากการที่ คสช. มีคำสั่งถึงหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่มีการลงทุนในโครงการเกิน 100 ล้านบาท จะต้องรายงานให้คณะ คสช.ทราบ นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมความพร้อมรองรับงานพลังงานทดแทนเช่น โซลาร์ชุมชุน 800 เมกะวัตต์ สอดคล้องกับนโยบายของ คสช.และแผนพัฒนาระบบไฟฟ้า (PDP) โดยโครงการดังกล่าวมีมูลค่ากว่า 48,000 ล้านบาท บริษัทคาดว่าจะได้รับงานไม่น้อยกว่า 10-15% หรือคิดเป็นวงเงินประมาณ 4,800 - 7,200 ล้านบาท Tags : ตลาดหุ้น • หุ้นเล็ก • ชนซิลลิ่ง