ม.หอการค้าหั่นจีดีพีเหลือ2%เหตุศก.ยังทรุด

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 31 สิงหาคม 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    ม.หอการค้าไทย ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้โตแค่ 1.5-2% จากเดิม 2.2-2.5% เหตุยังไร้ปัจจัยอัดฉีด-กระตุ้น

    นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจปี 2557 ว่า ยังคงชะลอตัว ทำให้ศูนย์พยากรณ์ฯ ปรับประมาณการเศรษฐกิจปีนี้ลงจาก 2.2-2.5% เหลือ 1.5-2% เป็นผลมาจากอัตราการเติบโตเศรษฐกิจภายในประเทศยังฟื้นตัวช้า เนื่องจากขาดปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาส 3

    โดยอัตราการขยายตัวของการส่งออกลดลงจากเดิมที่วางไว้ 3% เหลือเพียง 1-1.5% รวมถึงภาคการท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน ประกอบกับปัจจัยความผันผวนของเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความเสี่ยงจากเหตุการณ์วิกฤติการสู้รบในรัสเซียและยูเครน นอกจากนี้ราคาพืชผลทางการเกษตรก็ยังตกต่ำ โดยเฉพาะข้าวและยางพารา

    "มีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดความไม่แน่นอนต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ทั้งจากปัจจัยภายนอกและภายใน กระทบต่อโอกาสในการหางานของนักศึกษาจบใหม่ และบั่นทอนความเชื่อมั่นด้านการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน"
    แนะรัฐบาลใหม่วางมาตรการ3ระยะ

    นายธนวรรธน์ กล่าวต่อว่า ปัจจัยที่จะเข้ามาเร่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รัฐบาลชุดใหม่ควรวางมาตรการระยะสั้น กลาง และยาว โดยอันดับแรก ระยะสั้น ภาครัฐจะต้องเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยเร่งเบิกจ่ายเงินงบประมาณปี 2558 ให้เกิดขึ้นในเดือน ต.ค.นี้ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในไตรมาส 3 ผลักดันให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวชัดเจนในไตรมาส 4 ปีนี้ โดยพยุงราคาสินค้าเกษตร ข้าวและยางพาราไม่ให้ตกต่ำ รวมไปถึงการฟื้นฟูการท่องเที่ยว

    ทั้งนี้ หากเป็นไปได้ควรยกเลิกกฎอัยการศึก หากไม่สามารถทำได้ควรออกไปโรดโชว์สร้างความเชื่อมั่นกับตลาดในต่างประเทศ ตลอดจนกำกับดูราคาสินค้าเกษตรด้วยการลดราคาพลังงาน ซึ่งจะมีส่วนช่วยลดต้นทุนการผลิต

    มาตรการระยะกลาง จะต้องวางแผนผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตเฉลี่ยปีละ 5% ในช่วง 3-5 ปี ด้วยการเร่งประมูลโครงสร้างพื้นฐานให้ได้ในปีนี้ ซึ่งจะมีผลผลักดันให้เกิดการลงทุนเฉลี่ยปีละ 3 แสนล้านบาทในระยะ 8 ปีข้างหน้า รวมไปถึงผลักดันให้เกิดเขตเศรษฐกิจพิเศษให้ได้ภายในปี 2558 ส่งเสริมการค้าชายแดนเพื่อรองรับประโยชน์จากประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปลายปี 2558 รวมไปถึงปฏิรูปโครงสร้างทางภาษีเพื่อรองรับการลงทุนต่างชาติ

    สำหรับมาตรการระยะยาว จะต้องวางโครงสร้างเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการปรับโครงสร้างระยะยาวในหลากหลายด้าน เริ่มตั้งแต่การวางแผนด้านความมั่นคงทางอาหารและพลังงานให้สอดคล้องสมดุล โดยให้มีการผลิตอาหารเพียงพอในประเทศ พร้อมทั้งมีความมั่นคงทางพลังงาน ขจัดปัญหาคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นมาตรการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติในระยะยาว ตลอดจนลงทุนด้านการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้มีความมั่นคงด้วย

    จี้แก้กฎหมาย"อุปสรรคการค้า"

    “การปฏิรูปประเทศครั้งนี้ เป็นการเร่งแก้ไขปัญหาระยะสั้น พร้อมทั้งวางระบบ นโยบายการเติบโตในทุกด้าน ซึ่งรัฐบาลชุดนี้เหมาะสมและมีความพร้อมในการจัดการทุกปัญหาได้ในทันที โดยเฉพาะนโยบายที่รัฐบาลที่ผ่านมาไม่เคยทำ ดังนั้นจึงต้องเร่งแก้ไขกฎหมายที่ยังค้างและเป็นอุปสรรคต่อการค้า แต่ทั้งนี้การทำงานควรฟังเสียงของประชาชนและผู้มีส่วนร่วมด้านอื่น เพื่อให้เกิดความรอบคอบและยอมรับจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง" ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าว

    นายธนวรรธน์ ยังประเมินหน้าตาของ ครม.ชุดใหม่ว่า ผู้นำประเทศย่อมต้องเลือกทีมทำงานที่มีความเข้าใจ มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ขับเคลื่อนนโยบายไปในทิศทางเดียวกัน และเดินไปพร้อมกัน ซึ่งทุกคนที่เกี่ยวข้องล้วนเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถและมีประสบการณ์ เคยผ่านงานในตำแหน่งที่ได้รับมอบหมายมาแล้ว

    "ตามโผ ครม.ที่ปรากฏเป็นข่าว เห็นว่า ม.ร.ว. ปรีดิยาธร เทวกุล รับหน้าที่รองนายกรัฐมนตรี คุมงานด้านเศรษฐกิจ เคยเป็นอดีตรัฐมนตรีคลัง ผู้ที่เคยมีประสบการณ์เป็นผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือ นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช อดีตปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม รวมถึงท่านอื่นๆ ถือว่าทุกท่านที่เป็นขุนพลทางเศรษฐกิจ มีความครบเครื่องในหลากหลายด้าน และน่าจะสร้างความเชื่อมั่นได้เป็นอย่างดี" นายธนวรรธน์ ระบุ

    Tags : ม.หอการค้า • เศรษฐกิจไทย • ธนวรรธน์ พลวิชัย

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้