รีวิว Galaxy Mega 2 (SM-G750F) ภาคต่อของมือถือจอยักษ์จากซัมซุง

หัวข้อกระทู้ ใน 'เทคโนโลยี' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 29 สิงหาคม 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    ปีที่แล้ว ซัมซุงออกมือถือจอยักษ์ Galaxy Mega ออกมาสองรุ่นคือ 5.8" และ 6.3" ซึ่งก็ประสบความสำเร็จดีพอสมควรในบ้านเรา ปีนี้ซัมซุงนำ Galaxy Mega กลับมาอีกครั้งในชื่อว่า Galaxy Mega 2 แต่มีขนาดหน้าจอเดียวคือ 6" (ขนาดกึ่งกลางระหว่างสองรุ่นแรก)

    ซัมซุงยังไม่ประกาศข่าว Galaxy Mega 2 อย่างเป็นทางการ (เพิ่งมีข่าวหลุดเมื่อเร็วๆ นี้) แต่ตัวแทนของซัมซุงประเทศไทยก็ส่งเครื่องมาให้ผมทดสอบแล้ว โดยบอกว่าตั้งราคาขายในไทยที่ 14,500 บาทครับ คงจะเริ่มขายในไทยเร็วๆ นี้

    [​IMG]

    สเปก


    Galaxy Mega 2 (SM-G750F) วางตัวเป็นมือถือจอใหญ่เบิ้ม แต่สเปกระดับกลาง โดยรวมแล้วสเปกพัฒนาขึ้นจาก Mega รุ่นแรก

    • หน้าจอ 6" TFT 1280x720 (ดีกว่า Galaxy Mega 5.8" แต่เท่ากับ 6.3")
    • หน่วยประมวลผล Exynos 4415 ควอดคอร์ 1.5GHz, จีพียู Mali-400 MP
    • แรม 1.5GB, ความจุรุ่นที่ได้มาคือ 16GB (บางเว็บลงสเปกเป็น 8GB เข้าใจว่ามีสองรุ่น)
    • กล้อง 8MP/2.1MP
    • แบตเตอรี่ 2,800 mAh
    • Android 4.4.4 พร้อม TouchWiz รุ่นล่าสุด
    หน้าตาและรูปลักษณ์ภายนอก


    เมื่อได้เครื่องมาตอนแรกสุดก็ตกใจ เพราะหน้าตามันเหมือน Note 3 มากชนิดว่ามองไกลๆ แยกไม่ออก ทั้งรูปทรงด้านหน้าที่ดูเหลี่ยมกว่า Galaxy S5 และฝาหลังที่ทำเลียนแบบหนังลักษณะเดียวกัน

    พอลองมาวางเทียบกันแล้วพบว่า Mega 2 (ขวา) ใหญ่กว่า Note 3 (ซ้าย) นิดหน่อยครับ อันนี้คนชอบมือถือใหญ่ๆ คงใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร ผมใช้ Note 3 เป็นเครื่องส่วนตัวอยู่ก่อน พอลองมาใช้ Mega 2 ก็พบว่าไม่รู้สึกแปลกแยกเกินไปนัก การใส่ในกระเป๋ากางเกงก็ไม่รู้สึกแตกต่าง

    [​IMG]

    ฝาหลังของ Note 3 กับ Mega 2 คล้ายกันมาก แต่เมื่อได้มาจับเทียบกันละเอียดๆ พบว่าฝาหลังของ Mega 2 แข็งกว่า Note 3 และให้ความรู้สึกเป็นพลาสติกมากกว่า แถมลำโพงของตัวเครื่องยังอยู่ด้านหลัง (Note 3 อยู่ขอบล่าง) จึงอาจมีปัญหาเรื่องเสียงเบาเวลาเล่นไฟล์มัลติมีเดียแล้ววางราบกับพื้นอยู่บ้าง

    [​IMG]

    ซัมซุงยังมีลูกเล่นให้ฝาหลังของ Mega 2 เล็กน้อย โดยใส่เส้นที่ดูเหมือนตะเข็บหนังไว้ที่ขอบซ้าย-ขวา ลูกเล่นแบบนี้คล้ายกับฝาหลังของ Note 3 แต่ของ Note 3 มีตะเข็บทั้งสี่ด้าน และดูละเอียดกว่า Mega 2 พอตัว

    [​IMG]

    แกะฝาหลังออกมาก็เป็นโครงสร้างตามมาตรฐานมือถือซัมซุงครับ มีช่องเสียบแบต ซิม และ microSD (สังเกตว่าลำโพงอยู่ใต้แบต)

    [​IMG]

    ขอบข้างของตัวเครื่องเป็นพลาสติกชุบทำเป็นลายโลหะเหมือนกัน เพียงแต่ของ Note 3 ทำเป็นเส้นเหมือนสมุดโน้ต แต่ Mega 2 เป็นขอบเรียบๆ

    [​IMG]

    ประเด็นเรื่องการวางพอร์ตไม่มีอะไรต่างไปจากมือถือซัมซุงทั่วไป คือ ปุ่มปรับระดับเสียงอยู่ฝั่งซ้าย ปุ่มเปิดหน้าจออยู่ฝั่งขวา ช่องเสียบหูฟังอยู่ด้านบน และพอร์ต micro USB อยู่ด้านล่าง

    อย่างไรก็ตาม Mega 2 ยังใช้พอร์ต micro USB แบบช่องเดียวมาตรฐานอยู่ ในขณะที่มือถือตัวท็อปของซัมซุงทั้ง Note 3 และ S5 หันไปใช้พอร์ต micro USB 3.0 ที่มีช่องเสียบสองขากันแล้ว

    [​IMG]

    จากการใช้งานพบว่าหน้าจอค่อนข้างสว่าง เพียงแต่มันเป็นจอ TFT ทำให้สีอาจไม่สด และสีดำดูไม่ดำสนิทเท่ากับจอ Super AMOLED ของมือถือรุ่นท็อป ในภาพรวมแล้วพบว่าจอของ Mega 2 ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปครบถ้วน ความละเอียด 720p ก็ถือว่าละเอียดพอสำหรับมือถือระดับนี้

    ซอฟต์แวร์


    Galaxy Mega 2 ใช้แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ตัวเดียวกับ Galaxy S5 (ตามอย่างมือถือซัมซุงปี 2014) โดยอยู่บน Android 4.4.4 ตัวใหม่ล่าสุดในปัจจุบัน และใช้ TouchWiz รุ่นใหม่ที่เรียกว่า Vibrant UX ออกแบบใช้โทนสีเรียบๆ ไอคอนแนว flat (อ่านรายละเอียดใน รีวิว Galaxy S5 ประกอบ)

    แอพมาตรฐานของ Galaxy Mega 2 ใกล้เคียงกับ S5 ครับ คือมีแอพติดมาด้วยไม่เยอะ ดาวน์โหลดเพิ่มกันเองจาก Samsung Apps

    [​IMG]

    หน้าโฮมก็ใช้ภาพพื้นหลังแบบเดียวกับ S5 เลย การวางไอคอนเหมือนกันทั้งหมด นอกจากนี้มันยังใช้การเรียงปุ่มจริงแบบเดียวกับ S5 คือปุ่มซ้ายเปลี่ยนจากปุ่มเมนูเป็น Recent Apps ตามสมัยนิยม เมื่อกดครั้งแรก บนหน้าจอก็จะเตือนเราว่าปุ่มนี้เปลี่ยนแปลงแล้ว กรุณารับทราบด้วย

    [​IMG]

    หน้าจอตั้งค่า (Settings) ใช้ระบบไอคอนแบบเดียวกับ Galaxy S5 (ที่ผมไม่ค่อยชอบเพราะมันยาวมาก) ข้อมูลของระบบก็ดูตามภาพด้านขวามือ

    [​IMG]

    กล้อง


    ผมทดสอบเฉพาะกล้องหลัง ก็พบว่าใช้งานได้ดีพอสมควร แต่ก็ยังไม่ดีถึงระดับเดียวกับภาพจากกล้องมือถือตัวท็อปของซัมซุงครับ

    เทียบภาพช็อตเดียวกัน ระหว่างกล้อง Mega 2 (ซ้าย) กับกล้อง Note 3 (ขวา) คลิกเพื่อดูภาพใหญ่ได้

    [​IMG][​IMG]

    ภาพอื่นๆ จากกล้องของ Mega 2 ในหลายสภาพแสง

    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]

    ประสิทธิภาพ


    ผมลองวัดประสิทธิภาพด้วย Antutu ออกมาได้ประมาณ 24,000 กว่าคะแนน (รันทดสอบสามครั้งก็ได้ราวๆ นี้) ระดับใกล้เคียงกับ Xiaomi MI 2 หรือ Lenovo K900

    [​IMG]

    ส่วนแบตเตอรี่ต้องบอกว่าค่อนข้างอึดครับ (ไม่ได้ทดสอบจริงจัง) แบตให้มาขนาดค่อนข้างใหญ่ 2,800 mAh น่าจะตอบโจทย์เรื่องการใช้งานของคนทั่วไป (เช้าถึงเย็น ชาร์จตอนกลางคืน) อยู่แล้ว

    Mega 2 มีโหมดประหยัดพลังงานสูงสุด (Ultra Saving Mode) แบบเดียวกับ Galaxy S5 เพียงแต่ไม่สามารถปรับหน้าจอเป็นสีขาวดำได้เพราะเป็นจอ TFT แต่ส่วนอื่นๆ คือการจำกัดแอพหรือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก็ทำได้เหมือนกันทุกประการ จากข้อมูลที่เครื่องบอกคือแบตเหลือ 91% ใช้งานได้นาน 12 วันครับ

    สรุป


    Galaxy Mega 2 ยังคงแนวคิดเดิมคือเป็นมือถือ "จอใหญ่" ที่มีสเปกปานกลาง แต่พัฒนาขึ้นทั้งเรื่องดีไซน์ สเปก และซอฟต์แวร์ ให้อยู่บนแพลตฟอร์มของมือถือซัมซุงปี 2014

    ถ้าให้ประเมิน Mega 2 ก็ต้องบอกว่ามันตอบโจทย์เรื่องมือถือจอใหญ่ สเปกโอเค กล้องโอเค แบตอยู่ได้นาน จุดเด่นของมันเหนือมือถือระดับกลางรุ่นอื่นในท้องตลาดคือเรื่องหน้าจอ ดังนั้นถ้า

    • จุดประสงค์ของการซื้อหามาใช้งานคือจอใหญ่เป็นหลัก Mega 2 น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในขณะนี้
    • แต่ถ้าจอใหญ่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญนัก มือถือระดับกลางๆ ในตลาดยังมีตัวเลือกอีกมากที่ต้องเอามาเทียบชั้นกันตรงๆ อีกทีหนึ่งครับ
    Samsung Galaxy, Samsung, Mobile, Review
     

แบ่งปันหน้านี้