'ไทยบีเอ็มเอ'เผยเอกชนออกหุ้นกู้คึก

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 29 สิงหาคม 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    สมาคมตราสารหนี้เผย1-26ส.ค.เงินต่างชาติยังไหลออก4.74หมื่นลบ. ส่วนเอกชนแห่ออกหุ้นกู้คึกคัก7.7หมื่นลบ.

    นายสุชาติ ธนฐิติพันธ์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนา สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ไทยบีเอ็มเอ) เปิดเผยว่า ในช่วง 1 - 26 ส.ค. 2557 มีหุ้นกู้ออกใหม่จำนวน 77,000 ล้านบาท และหากนับตั้งแต่ต้นปีมา มีการออกหุ้นกู้รวมแล้ว 390,000 ล้านบาท ซึ่งทั้งปียังเชื่อว่าจะสามารถถึงเป้า 450,000 ล้านบาท ที่ตั้งไว้ โดยในปีนี้ตั้งเป้าดึงบริษัทหน้าใหม่เข้ามาระดมทุน 15 บริษัท ปัจจุบันได้ไปแล้ว 14 บริษัท โดยมีบริษัทใหม่ๆ ที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เข้ามาระดมทุนผ่านตลาดตราสารหนี้เพิ่มขึ้นด้วย เช่น โบ๊เบ๊ทาวเวอร์ เป็นต้น เพราะปกติต้นทุนการระดมทุนผ่านตลาดตราสารหนี้จะถูกกว่าสินเชื่อธนาคารพาณิชย์อยู่แล้ว เช่น ดอกเบี้ยแบงก์ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (MLR) ประมาณ 7% ถ้าเป็นหุ้นกู้เครดิต BBB ก็มีต้นทุน 5 - 6% เท่านั้น ต่างกันประมาณ 1.0% ถ้าเรทติ้งดีๆ อาจจะอยู่แค่ 3.5 - 4.0% เท่านั้น

    “ปัจจุบันบริษัทที่สนใจสามารถออกตราสารหนี้แบบไม่จัดอันดับเครดิต (Non Rate) เพื่อขายกับนักลงทุนสถาบันได้ ก็จะช่วยให้มีบริษัทหน้าใหม่สนใจเข้ามาใช้ช่องทางนี้เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน”

    ส่วนการซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติในตลาดตราสารหนี้ไทยช่วงวันที่ 1 - 26 ส.ค.ที่ผ่านมา พบว่า มีเงินของนักลงทุนต่างชาติไหลออกสุทธิ 47,400 ล้านบาท โดยเป็นการไหลออกจากตราสารหนี้ระยะสั้น 16,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการขายตราสารหนี้ระยะสั้น 42,000 ล้านบาท ในขณะที่มีตราสารหนี้ที่ครบอายุไป 21,500 ล้านบาท และมีการซื้อตราสารหนี้ระยะยาว 16,200 ล้านบาท

    ทั้งนี้หากนับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันพบว่าเงินลงทุนของต่างชาติยังเป็นยอดไหลเข้าสุทธิ 21,500 ล้านบาท โดยเป็นการไหลออกจากตราสารหนี้ระยะสั้น 12,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการซื้อในตราสารหนี้ระยะสั้น 183,000 ล้านบาท ในขณะที่มีตราสารหนี้ครบอายุ 195,000 ล้านบาท และมียอดซื้อตราสารหนี้ระยะยาวอีก 33,600 ล้านบาททำให้นักลงทุนต่างชาติมียอดถือครองตราสารหนี้ล่าสุดอยู่ที่ 731,000 ล้านบาท เป็นสัดส่วนตราสารหนี้ระยะสั้น 23% และตราสารหนี้ระยะยาว 77%

    “การขายในตราสารหนี้ระยะสั้นของนักลงทุนต่างชาติไม่ได้กระทบตลาดตราสารหนี้แต่ประการใด โดยอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ระยะสั้นในเดือนส.ค.ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก ในขณะที่อัตราผลตอบแทนระยะยาวปรับตัวลดลงเล็กน้อย 0.03 - 0.05% ตามแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาและการปรับตัวลงตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ลดลง ทั้งนี้ยังประเมินว่าเงินลงทุนระยะยาวยังมีแนวโน้มไหลเข้าต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี เพราะในแง่ของผลตอบแทนของพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี กับสหรัฐปัจจุบันก็ยังต่างกันอยู่ประมาณ 1.2 - 1.3%”

    นายสุชาติ ยังกล่าวอีกว่า ปัจจัยการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดมากนักเพราะตลาดมองว่าสหรัฐยังคงใช้นโยบายดอกเบี้ยต่ำต่อเนื่อง โดยตลาดมองว่าน่าจะมีการปรับขึ้นในช่วงกลางปีหน้าหรือเร็วกว่านั้นได้ ทำให้มีเงินไหลเข้ามาในภูมิภาคเอเชียอย่างต่อเนื่อง โดยต่างชาติเข้ามาลงทุนในตราสารหนี้อายุ 3 - 7 ปี เป็นหลัก ส่วนมุมมองดอกเบี้ยนโยบาย (R/P 1 วัน) ของไทยเองตลาดยังมองว่าน่าจะคงที่ระดับ 2.0% ไปจนถึงสิ้นปี มีเพียงส่วนน้อยที่มองว่ามีโอกาสจะปรับขึ้นได้ในช่วงไตรมาสที่ 4/2557 นี้

    Tags : นายสุชาติ ธนฐิติพันธ์ • ไทยบีเอ็มเอ • ตราสารหนี้

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้