"ซีพีเอ็น" เดินหน้าลงทุนรับโอกาสเออีซี ปักธง "นครศรีธรรมราช" เชื่อมสามเหลี่ยมเศรษฐกิจไทย-มาเลย์-อินโดฯ เผยศักยภาพฮับโลจิสติกส์ หนุน "อำนาจซื้อ" การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ปี 2558 กระตุ้นภาคธุรกิจเร่งขยายการลงทุน โดยเฉพาะผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีก นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจ และบริหารโครงการก่อสร้าง บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า, เซ็นทรัล เฟสติวัล และเซ็นทรัลเวิลด์ เปิดเผยว่า บริษัทมุ่งขยายการลงทุนต่อเนื่องตามแผนงานระยะ 5 ปี (2557-2561) รองรับโอกาสจากการเปิดเออีซี ซึ่งจะทำให้ธุรกิจการค้า การท่องเที่ยวของไทยเติบโตก้าวกระโดด แต่ละปีบริษัทจัดสรรงบ 1-1.5 หมื่นล้านบาท ลงทุนสาขาใหม่ 2-4 แห่ง โดยพิจารณาจากปริมาณพื้นที่ศูนย์การค้าเปิดใหม่ในปีนั้นๆ ว่ามีมากน้อยอย่างไร หากมีปริมาณพื้นที่มากจะลดจำนวนสาขาใหม่ลง แต่หากพื้นที่น้อยจะเพิ่มจำนวนสาขา สูงสุดไม่เกิน 4 สาขาต่อปี ปัจจุบันซีพีเอ็นมีพื้นที่ศูนย์การค้ารวม 3-4 ล้านตร.ม. "ซีพีเอ็นมุ่งเข้าไปชิงทำเลที่ดีที่สุด และมีศักยภาพของประเทศ พิจารณาจากจำนวนประชากรไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน ในทำเลนั้นๆ รวมถึง รายได้ครัวเรือน กลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ ทำเลใกล้สถาบันการศึกษา โดยเฉพาะจังหวัดที่มีการเติบโตของชุมชนเมืองและเศรษฐกิจสูง" นางสาววัลยา กล่าว ปักธง'นครศรีธรรมราช' ล่าสุดเตรียมพัฒนาโครงการศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า นครศรีธรรมราช บนที่ดิน 50 ไร่ คิดเป็นพื้นที่โครงการ 1.5 แสน ตร.ม. นับเป็นสาขาที่ 30 ภายใต้งบลงทุน 3,500 ล้านบาท จับลูกค้าเป้าหมายชาวนครศรีธรรมราช และจังหวัดใกล้เคียง ในรัศมี 120 ก.ม. หรือระยะขับรถ 1 ชั่วโมง ได้แก่ ตรัง และ พัทลุง มีประชากรรวมกว่า 2.69 ล้านคน เริ่มก่อสร้างเดือน ก.ย. นี้ คาดเปิดบริการไตรมาส 2 ปี 2559 เซ็นทรัล พลาซ่า นครศรีธรรมราช ตั้งอยู่บนถนนหลวง 403 สี่แยกหัวถนนราชดำเนิน ซึ่งเป็นย่านที่มีการเติบโตของชุมชนเมือง และโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัย รองรับการพัฒนาระบบโครงข่ายคมนาคม ระบบโลจิสติกส์ ทั้งนี้แนวทางการเปิดศูนย์การค้าของซีพีเอ็นกระจายจังหวัดใกล้เคียงกัน เพื่อเชื่อมโยงการทำตลาดสอดรับไปกับเครือข่ายการท่องเที่ยว จะเห็นจากภาคเหนือที่มีการเชื่อมโยง เชียงราย เชียงใหม่ และลำปาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเชื่อมโยงระหว่าง ขอนแก่น อุดรธานี และอุบลราชธานี ส่วนภาคใต้ ได้แก่ สุราษฎร์ธานี สมุย และนครศรีธรรมราช เชื่อมการค้าอินโดฯ-มาเลย์ ภาคใต้ถือเป็นยุทธศาสตร์การลงทุนที่สำคัญ โดยเฉพาะ "นครศรีธรรมราช" มีศักยภาพและการเติบโตไม่แพ้จังหวัดอื่น ถือเป็นศูนย์กลางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของภาคใต้ ด้วยความเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน นครศรีธรรมราช มีจำนวนประชากร 1.5 ล้านคน สูงเป็นอันดับ 1 ของภาคใต้ ขณะที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด 155,862 ล้านบาท เป็นอันดับ 5 ของประเทศ มีรายได้ประชากรเฉลี่ย 29,970 บาทต่อคนต่อปี (ข้อมูลปี 2554) ใกล้เคียง สุราษฎร์ธานี โดยมีแนวโน้มของรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง "นครศรีธรรมราช เป็นประตูเศรษฐกิจของภาคใต้เชื่อมสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย ซึ่งจะมีการพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานทั้งระบบคมนาคม สนามบิน โครงการศูนย์กระจายสินค้าภาคใต้-ทุ่งสง ใช้เป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าผ่านระบบราง" ขณะที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น สะท้อนจากจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ อาทิ มาเลเซีย เข้ามาไม่น้อยกว่า 1.7 ล้านคนต่อปี เติบโต 14% ต่อปี เล็งขยายศูนย์การค้าภาคใต้เพิ่ม นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด กล่าวเสริมว่า ซีพีเอ็น เตรียมเปิดบริการศูนย์การค้าต่อเนื่อง ในปี 2558 ประกอบด้วย เซ็นทรัล พลาซ่า ระยอง เซ็นทรัล เวสต์เกต และ เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสท์วิลล์ (เลียบทางด่วนรามอินทรา) ส่วนปี 2559 เปิดบริการ เซ็นทรัล พลาซ่า นครราชสีมา นอกจากนี้ ยังมีแผนที่เปิดศูนย์การค้าเพิ่มอีก 1 แห่งในภาคใต้ สำหรับ โครงการศูนย์การค้าในประเทศมาเลเซีย เดิมกำหนดเปิดบริการในปี 2558 ได้มีการปรับแบบใหม่ จำเป็นต้องเลื่อนการเปิดบริการเป็นปี 2559 นอกจากนี้ยังมองโอกาสลงทุนศูนย์การค้าในเวียดนามและอินโดนีเซีย ทางด้านกำลังซื้อในประเทศขณะนี้ พบว่ามีแนวโน้มดีขึ้น เป็นผลจากการกระตุ้นด้วยแคมเปญโปรโมชั่นต่างๆ ดึงดูดลูกค้าเข้าใช้บริการในศูนย์ ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มเดินทางเข้าไทยมากขึ้น แต่ยังไม่ 100% ขณะที่ผลการดำเนินงานของซีพีเอ็นช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา มีรายได้ 5,998 ล้านบาท เติบโต 17% มั่นใจว่าสิ้นปีนี้จะเติบโต 15% ตามเป้าหมาย Tags : ซีพีเอ็น • เออีซี • นครศรีธรรมราช • อาเซียน • วัลยา จิราธิวัฒน์ • อินโดนีเซีย • มาเลเซีย