ไทยพาณิชย์ เตรียมสรุปมูลค่ากองทุนโครงสร้างพื้นฐาน กฟผ. คาดมูลค่าเบื้องต้น 1 หมื่นล้านบาท นายอาทิตย์ นันทวิทยา รองผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า มูลค่ากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) นั้น เบื้องต้นคาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างรอการสรุปในขั้นสุดท้าย สำหรับรูปแบบของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน กฟผ. นั้น ทางธนาคารในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ได้สรุปรูปแบบการจัดตั้งที่ชัดเจนเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการพิจารณาอนุมัติจากคณะกรรมการ กฟผ. ซึ่งถ้าคณะกรรมการอนุมัติ ที่เหลือคือรอการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อนำเรื่องดังกล่าวเข้าพิจารณาอนุมัติ “มูลค่ากองทุนขณะนี้ยังไม่นิ่งดี แต่เบื้องต้นคิดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1 หมื่นล้านบาทกว่าๆ เพียงแต่จะกว่าเท่าไร ซึ่งกำลังรอการสรุปอยู่ ส่วนรูปแบบนั้น ถือว่าแล้วเสร็จไปแล้ว ตอนนี้ก็รอประชุม ถ้าไม่ติดขัดอะไร ก็คงจะอนุมัติได้ หลังจากนั้นก็ต้องนำเรื่องเข้า ครม. อนุมัติ ดังนั้นขั้นตอนของเราในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินนั้น ถือว่าเสร็จแล้ว ที่เหลืออยู่แค่ว่าเขาจะอนุมัติเท่าไร”นายอาทิตย์กล่าว สำหรับผลตอบแทนจากการลงทุนของกองทุนดังกล่าวนั้น เขากล่าวว่า กฟผ. ถือเป็นบริษัทมีชื่อเสียงดี มีความมั่นคงทางฐานะการเงินและเป็นที่รู้จักโดยทั่วไป ดังนั้นผลตอบแทนที่ออกมาจึงน่าจะใกล้เคียงกับการออกหุ้นกู้ เพียงแต่ที่ กฟผ. เลือกระดมทุนโดยการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานแทนการออกหุ้นกู้เพื่อที่จะลดภาระในส่วนของหนี้สาธารณะของภาครัฐลง “ที่ กฟผ. เลือกจะไม่ออกหุ้นกู้ ส่วนหนึ่งเพื่อลดภาระหนี้สาธารณะของรัฐบาล เพื่อให้ภาครัฐสามารถใช้วงเงินจากหนี้สาธารณะไปช่วยหน่วยงานอื่นที่มีความอ่อนแอกว่า”นายอาทิตย์กล่าว สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายนั้น เขากล่าวว่า ด้วยขนาดกองทุนที่ไม่ใหญ่มาก จึงคิดว่าจะระดมทุนโดยขายหน่วยลงทุนแก่นักลงทุนในประเทศเป็นหลัก ทั้งนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน เน้นการลงทุนระยะยาว นายอาทิตย์ กล่าวด้วยว่า นอกจากดีลการเป็นที่ปรึกษากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานของ กฟผ. แล้ว ปัจจุบันธนาคารไทยพาณิชย์ ยังมีดีลเป็นที่ปรึกษาการระดมทุนอีกหลายดีล มูลค่ารวมอยู่ที่ประมาณ 1 แสนล้านบาท ซึ่งมีทั้งดีลการออกหุ้นกู้ หรือนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โดยเสนอขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรก(ไอพีโอ) ก่อนหน้านี้ กระทรวงการคลังมีนโยบายจัดหาแหล่งเงินทุนทางเลือกใหม่ เพื่อให้สามารถจัดหาเงินทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยไม่ติดข้อจำกัดด้านภาระหนี้ของประเทศ กระทรวงการคลังโดยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) จึงมีนโยบายให้ กฟผ. พิจารณาใช้แหล่งเงินทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานผ่านกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อดำเนินการตามแนวนโยบายดังกล่าว กฟผ.จึงมีแผนจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน โดยใช้รายได้หรือกระแสเงินสดในอนาคตของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมพระนครเหนือเป็นทรัพย์สินในการระดมทุน โดยจะนำเงินจากการระดมทุนนี้ไปลงทุนในการพัฒนา โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้า และโครงการขยายระบบส่งของ กฟผ. เสริมสร้างความมั่นคงระบบไฟฟ้า ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ อันจะก่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตลอดจนแบ่งเบาภาระการคลังของรัฐบาล ทั้งนี้ กฟผ. ได้แต่งตั้งธนาคารไทยพาณิชย์เป็นที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อทำการศึกษา กำหนดโครงสร้าง และแนวทางในการจัดตั้งกองทุน ที่จะเป็นทางเลือกในการระดมทุนโดยไม่ก่อให้เกิดหนี้สาธารณะเพิ่ม ซึ่ง กฟผ. ยังคงเป็นเจ้าของและมีอำนาจในการบริหารจัดการแผนการเดินเครื่อง และการบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมพระนครเหนือเหมือนเดิม สำหรับรูปแบบโครงสร้างและแนวทางในการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานนี้ จะถูกกำหนดให้เป็นเครื่องมือในการระดมเงินทุนเท่านั้น ไม่นำไปสู่การแปรรูป กฟผ. แต่อย่างใด โดยในเบื้องต้นได้ประมาณขนาดของกองทุนรวมฯ ไม่น้อยกว่า 1 หมื่นล้านบาท และมีอายุกองทุน 15 - 25 ปี Tags : อาทิตย์ นันทวิทยา • ไทยพาณิชย์ • กฟผ. • หุ้นกู้