"ล็อกซเล่ย์"หวังขายหุ้นเพิ่มทุน 165 ล้านหุ้นแล้วเสร็จปีนี้ นำเงินลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานลม นายเฉลิมโชค ล่ำซำ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ (LOXLEY) กล่าวว่า จากที่บริษัทมีแผนการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไป (PO) จำนวน 165 ล้านหุ้น ทางสำนักงานก.ล.ต.ได้อนุมัติตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 เม.ย.2556 ซึ่งบริษัทกำหนดว่าจะแจกใบสำคัญแสดงสิทธิ (warrant) ให้กับผู้ที่ซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน (PO) ในอัตรา 4:1 ขณะนี้ได้ครบกำหนดเวลา 1 ปีแล้ว บริษัทจึงจะขออนุมัติขยายระยะเวลาแจกวอร์แรนท์ออกไป โดยจะนำเข้าเสนอในที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น วันที่ 12 ก.ย.นี้ เพื่อให้สอดคล้องกับการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน บริษัทน่าจะดำเนินการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 165 ล้านหุ้น ได้ภายในปีนี้ โดยเงินจากการระดมทุนจะใช้สำหรับลงทุนขยายกิจการด้านพลังงาน เช่น โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม และพลังงานไฟฟ้าจากเศษไม้ ปัจจุบัน บริษัทมีโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ยังอยู่ระหว่างวัดระดับแรงลม หลังจากติดตั้งเสาแล้วใน 3 จังหวัด คือ นครราชสีมา นครศรีธรรมราช และระยอง คาดว่าจะเห็นที่นครศรีธรรมราชก่อนเป็นที่แรก ขนาดกำลังผลิตแห่งละ 7 เมกะวัตต์ ใช้เงินลงทุนประมาณ 60-70 ล้านบาทต่อ 1 เมกะวัตต์ สำหรับแผนการนำบริษัท ล็อกซเล่ย์ ไวร์เลส (LW) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำแบบไฟลิ่งเพื่อยื่นต่อสำนักงานก.ล.ต. ภายในปีนี้ และคาดว่าจะนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ไตรมาส 1/2558 โดยมี บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน นายเฉลิมโชค กล่าวว่า ปีนี้บริษัทปรับลดเป้ารายได้ลงเหลือ 1.7 หมื่นล้านบาท จากเดิมคาดไว้ที่ 1.8 หมื่นล้านบาท เพราะครึ่งปีแรกบริษัทได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมือง ที่ทำให้งานภาครัฐส่วนใหญ่ชะลอออกไป ทั้งนี้งานภาครัฐสร้างรายได้หลักในสัดส่วน 67% ของรายได้รวม อย่างไรก็ตาม รายได้ในปีนี้ยังมีการเติบโต 14% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้ 15,962 ล้านบาท และในส่วนของกำไรปกติในปีนี้ จะดีกว่าปีก่อนที่มีกำไร 410 ล้านบาท เพราะบริษัทมีการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น ทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายลงราว 10% หลังจากเหตุการณ์ต่างๆ คลี่คลายลงไป ทำให้ขณะนี้เริ่มมีงานออกมาบ้างแล้ว บริษัทจึงเตรียมเข้าประมูลงานมูลค่ารวมกว่า 30,000 ล้านบาทในช่วงครึ่งปีหลัง คาดหวังจะได้รับงานใหม่ราว 50% ของมูลค่างานทั้งหมด แบ่งเป็นงานโครงการมูลค่า 22,346 ล้านบาท ซึ่งงานหลักๆ ประกอบด้วย งานประมูลที่เกี่ยวกับสนามบิน 10,000 ล้านบาท, งานดิจิทัลทีวี 3,780 ล้านบาท, งานระบบไอซีที 1,787 ล้านบาท, งานสายส่งไฟฟ้า 1,890 ล้านบาท, งานสถานีไฟฟ้าย่อย 1,430 ล้านบาท และงานวัสดุก่อสร้างอีก 580 ล้านบาท รวมถึงธุรกิจการค้าและการบริการที่มีฐานรายได้ที่เป็นรายได้ประจำอีก 2,500 ล้านบาท ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือ (backlog) อยู่แล้ว 94,000 ล้านบาทที่จะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในปี 2557 ประมาณ 63% ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ถึงปี 2559 สำหรับธุรกิจต่างประเทศ ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างศึกษาเข้าขยายธุรกิจในพม่า ลาว เวียดนาม และจีน โดยเฉพาะจีน บริษัทได้เข้าไปสร้างไทย คอนเนอร์ (Thai corner) ในสถานีน้ำมันของกลุ่มซิโนเปคเกือบ 600 สาขา และตั้งเป้าขยายเพิ่มเป็น 2,000 สาขา รวมทั้งมีการจำหน่ายสินค้าในโมเดิร์นเทรดกว่า 100 ร้านค้า ส่วนในพม่านำสินค้าในกลุ่มน้ำมันหล่อลื่นและกลุ่มสินค้าอุปกรณ์และชิ้นส่วนรถยนต์เข้าไปจำหน่าย โดยร่วมมือกับพันธมิตรที่เป็นบริษัทชั้นนำในท้องถิ่น Tags : เฉลิมโชค ล่ำซำ • ล็อกซเล่ย์ • LOXLEY