"ก.ล.ต."พร้อมเดินหน้าสอบสวนปั่นหุ้น ระบุมีอำนาจตรวจสอบเส้นทางการเงิน ความเคลื่อนไหวผิดปกติ การซื้อขายหุ้นตลาดหลักทรัพย์จะขึ้นเครื่องหมายห้ามการซื้อขาย (เอสพี) หุ้นบริษัท แอสเซท ไบร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ เอบีซี จนกว่าบริษัทจะชี้แจงข้อมูลงบการเงินไตรมาส 2 ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ได้สอบถามไปกลับมาอย่างชัดเจน โดยกำหนดให้ส่งข้อมูลดังกล่าวภายในวันศุกร์นี้ (29 ส.ค.) นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต.มีความพร้อมดำเนินการสอบสวนความผิดปกติของการเคลื่อนไหวราคาหุ้นที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดย ก.ล.ต.มีอำนาจในการตรวจความเคลื่อนไหวทางการเงินทันที หากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยส่งเรื่องดังกล่าวมายังก.ล.ต. "ตลาดหลักทรัพย์ จะเป็นหน้าด่านในการตรวจสอบความผิดปกติของหุ้น โดยตลาดหลักทรัพย์ จะมีขั้นตอนการตรวจสอบหากมีความผิดปกติ และพบการกระทำผิดจะส่งต่อมาให้ก.ล.ต. ซึ่งก.ล.ต.มีความพร้อมในการตรวจสอบเส้นทางการเงิน รวมถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น และมีอำนาจทางกฏหมาย แต่เบื้องต้นยังไม่มีส่งข้อมูลใดๆ ให้กับก.ล.ต." เขากล่าวด้วยว่า ภาพของตลาดหุ้นไทย ยังมีเสถียรภาพ มีสัดส่วนนักลงทุนสถาบัน นักลงทุนรายบุคคล ที่เหมาะสม มีความน่าดึงดูดเม็ดเงินลงทุนต่อเนื่อง และเป็นเรื่องปกติที่จะมีหุ้นที่มีความเคลื่อนไหวราคาที่ผิดปกติ ส่วนก.ล.ต. ไม่ได้นิ่งนอนใจในปัญหาดังกล่าว ที่ผ่านมาผลักดันให้นักลงทุนสถาบันเข้าทำการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาหุ้น และให้ความรู้กับนักลงทุนรายบุคคลให้มีความรู้ในการลงทุนมากขึ้น รวมไปถึงออกกฎเกณฑ์เพื่อให้นักลงทุนที่มีศักยภาพสูง สามารถลงทุนในตราสารรูปแบบต่างๆ ได้ เทียบเท่ากับนักลงทุนสถาบัน โดยลักษณะเบื้องต้นของนักลงทุนกลุ่มนี้ ต้องมีพอร์ตการซื้อขาย 50 ล้านบาทขึ้นไป และต้องได้รับการคัดเลือกจากบริษัทหลักทรัพย์ว่ามีความเหมาะสม จึงจะสามารถซื้อขายหุ้นดังกล่าวได้ นอกจากนี้ ก.ล.ต.ยังอยู่ระหว่างเสนอกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สามารถดำเนินคดีทางแพ่งกับความผิดในเรื่องการปั่นหุ้น แทนการดำเนินคดีอาญาที่มีกระบวนการที่มาก ใช้เวลานาน ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะช่วยลดระยะเวลาการลงโทษกับผู้กระทำผิดได้อย่างมีนัยสำคัญ ด้านนางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์จะขึ้นเครื่องหมายห้ามการซื้อขาย (เอสพี) หุ้นบริษัท แอสเซท ไบร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ เอบีซี จนกว่าบริษัทจะมีการชี้แจงข้อมูลตามที่ตลาดหลักทรัพย์ได้สอบถามไปกลับมาอย่างชัดเจน "หุ้นนี้ถือว่าเป็นอะไรที่ค่อนข้างพิเศษ จึงได้ขอข้อมูลที่พิเศษไป เพื่อให้ผู้ลงทุนได้รับทราบ ถ้าเราขอข้อมูลไปแล้ว คุณยังไม่ตอบกลับมา เราจะขึ้น เอสพี จนกว่าได้รับข้อมูล ซึ่งข้อมูลที่ชี้แจงกลับมาต้องสามารถอธิบายถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ว่ามีส่วนทำให้ราคาหุ้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่ ถ้าข้อมูลครบถ้วนเราถึงจะปลดเอสพี" นางเกศรากล่าว นายสุภกิจ จิระประดิษฐกุล รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานกำกับตลาดหลักทรัพย์และดูแลสายงานกฏหมาย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวเสริมว่า ตลาดหลักทรัพย์ เปิดโอกาสให้บริษัทได้ชี้แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ภายในวันศุกร์นี้ หากไม่สามารถส่งคำชี้แจงได้ทัน หรือไม่มีคำชี้แจงที่ดีพอ ต้องพิจารณากันต่อไปว่าจะดำเนินการอย่างไร ในช่วงที่ตลาดหุ้นมีความคึกคัก ทำให้หุ้นที่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติมีมากขึ้น สังเกตได้จากอันดับการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นสูงสุดต่ำสุด หรืออันดับมูลค่าการซื้อขายสูงสุด เมื่อตลาดหลักทรัพย์ พบเห็นความผิดปกติ จะขอคำชี้แจงกับบริษัทจดทะเบียนให้กับนักลงทุนรับทราบว่า บริษัทมีการดำเนินกิจการที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่ เพื่อแจ้งให้กับนักลงทุนรับทราบ ปัจจุบันการขอให้บริษัทชี้แจ้งข้อมูลมีจำนวนมากขึ้น สำหรับกฎเกณฑ์การดูแลหุ้นที่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติ ทั้งเทรดดิ้งอะเลิร์ท และแคชบาลานซ์ ยังเป็นสิ่งที่เหมาะสม โดยเทรดดิ้งอะเลิร์ท เป็นเครื่องมือที่ช่วยบอกให้นักลงทุนทราบว่า ราคาหลักทรัพย์นั้นๆ มีความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ ส่วนแคชบาลานซ์ เป็นเครื่องมือที่ควบคุมความเสี่ยงนักลงทุนไม่ให้กู้เงินเพื่อมาซื้อหุ้น เพราะอาจส่งผลกระทบรุนแรงหากราคาหุ้นมีการแกว่งตัว ซึ่งทั้ง 2 เครื่องมือนั้น เป็นเครื่องที่จะช่วยให้นักลงทุนหยุดคิดและตัดสติว่า จะซื้อขายหุ้นตัวดังกล่าวต่อไปหรือไม่ Tags : ก.ล.ต. • หุ้นปั่น • บมจ.แอสเซท ไบร์ท • วรพล โสคติยานุรักษ์