เมื่อวานนี้นอกจากงานแถลงข่าว SCB ที่ประกาศตัวเป็น Lifestyle Banking และ KBank ประกาศบริการ K Plus Shop จ่ายเงินด้วย QR Code ฝั่งของผู้ให้บริการจ่ายเงินรายใหญ่ True Money ก็มีงานแถลงข่าวไปในทิศทางเดียวกัน True Money เลือกใช้คำว่า "Fin Life" (Financial Life) เพื่อแสดงให้เห็นว่าตัวเองจะเป็นมากกว่าแค่ "กระเป๋าเงิน" แต่จะขยายให้ครอบคลุมบริการทางการเงินในชีวิตประจำวันอื่นๆ ด้วย เช่น จ่ายเงินใน 7-Eleven ที่เริ่มไปแล้ว และจะมีแคมเปญเงินคืน 5% เริ่ม 24 สิงหาคมนี้ จ่ายค่ากาแฟใน True Coffee และเติมเงินเน็ตในเครือ True โดยไม่ต้องออนไลน์ขณะเติมเงิน จ่ายค่าอาหารในฟู้ดคอร์ท, ค่ามอเตอร์ไซค์รับจ้างผ่าน QR Code จ่ายค่าทางด่วน ค่าน้ำมัน ซื้อแอพใน Google Play Store และล่าสุดคือรองรับ Apple App Store แล้ว (iOS จะมี TrueMoney ให้เลือกเลย) ในอนาคตอันใกล้นี้ True Money ยังจะรองรับการซื้อตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม จ่ายค่าประกันเดินทาง ตั๋วคอนเสิร์ต รวมไปถึงบริการทางการเงินอื่นๆ อย่างการกู้เงิน และการลงทุนในกองทุนด้วย อีกเรื่องที่คนไทยไม่ค่อยรู้กันนักคือ ตอนนี้ True Money มีธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 6 ประเทศแล้วคือ ไทย พม่า เวียดนาม กัมพูชา ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย โดยมีตัวแทนรับชำระเงิน True Money มากถึง 50,000 คนใน 5 ประเทศนอกไทยแล้ว ปัจจุบันมีฐานลูกค้า 30 ล้านคน และบริษัทตั้งเป้าว่าจะมีฐานลูกค้า 100 ล้านคนให้ได้ภายในปี 2020 Topics: True MoneyMobile PaymentFinTech