เมื่อคืนนี้ HMD Global เปิดตัวเรือธง Nokia 8 ตามกำหนด โดยชูจุดเด่นเรื่องกล้องที่ใช้เลนส์จาก Zeiss สเปกคร่าวๆ ได้แก่ หน้าจอ 5.3" IPS LCD ความละเอียด QHD (2560x1440), ความสว่าง 700nits, กระจก Gorilla Glass 5 แบบนูน 2.5D Snapdragon 835, แรม 4GB, สตอเรจ 64GB + microSD รองรับเครือข่าย LTE Cat. 9, 3CA, 450Mbps DL/50Mbps UL แบตเตอรี่ 3090 mAh พร้อมระบบชาร์จเร็ว Qualcomm QuickCharge 3.0 พอร์ต USB Type-C พร้อมช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม., ตัวสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มโฮม Android 7.1.1 Nougat แบบไม่ปรับแต่ง พร้อมการันตีอัพเดตแพตช์รายเดือน ในแง่สเปกอาจไม่ต่างอะไรจากเรือธงของปี 2017 ยี่ห้ออื่นๆ แต่จุดเด่นของ Nokia 8 คือกล้องความละเอียด 13MP และพัฒนาร่วมกับ Zeiss ทั้งหมด กล้องหลังคู่ 13MP แบบสี (มี OIS) และขาวดำ, 1.12um, f/2.0, แฟลชดูอัลโทน กล้องหน้า 13MP, 1.12um, f/2.0 ฟีเจอร์กล้องที่ Nokia 8 นำมาเป็นจุดขายคือถ่ายวิดีโอ 2 ฝั่งหน้าหลังพร้อมกัน (ตั้งชื่อว่า "Bothie" เป็นขั้นกว่าของ Selfie) และเอาขึ้นไลฟ์สตรีมได้ด้วย เหมาะสำหรับคนที่อยากทำไลฟ์แบบเห็นทั้งหน้าตัวเองและวิวอีกด้านไปพร้อมกัน นอกจากการถ่ายวิดีโอหน้าหลังพร้อมกันแล้ว Nokia 8 ยังมีฟีเจอร์ OZO Audio หรือการบันทึกเสียง 360 องศา (spatial 360° audio) ที่นำมาจากกล้อง Nokia Ozo ให้ประสบการณ์ 360 องศาสมบูรณ์แบบ Nokia 8 มีทั้งหมด 4 สีคือ Polished Blue, Polished Copper, Tempered Blue, Steel วางขายเดือนกันยายนนี้ ด้วยราคา 599 ยูโร (ประมาณ 24,000 บาท) ที่มา - HMD Global, Nokia Thailand Topics: NokiaHMD GlobalCarl ZeissMobile