ระยองไวร์ อินดัสตรีส์เดินหน้าโรดโชว์ต่างจังหวัด เพิ่มความเชื่อมั่น มั่นใจหุ้นไอพีโอ105ล้านหุ้นขายเกลี้ยง ยันรายได้ปีนี้ 1 พันล้านบาทตามเป้าหมาย เดินหน้าเจาะรับเหมารายใหญ่ปีหน้ารับอานิสงส์รัฐลงทุนโครงการใหญ่ นายคมกฤต มีคำสัตย์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดทุน บล.เคที ซีมิโก้ ที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท ระยองไวร์ อินดัสตรีส์ (RWI) กล่าวว่า มั่นใจว่าจะสามารถขายหุ้นไอพีโอของบริษัท ระยองไวร์ อินดัสตรีส์ ได้หมด เนื่องจากมีนัลงทุนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก หลังจากกระแสการลงทุนหุ้นไอพีโอในช่วงที่ผ่านมาให้ผลตอบแทนค่อนข้างดี ประกอบกับ สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศที่เริ่มนิ่ง และมีการเดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน จุดเด่นของบริษัท ระยองไวร์ อินดัสตรีส์ (RWI) คือเป็นหุ้นเหล็กที่จะมีการเติบโตตามการพัฒนาของประเทศ เพราะการก่อสร้างต่างๆ จะต้องมีการใช้เหล็ก ประกอบกับบริษัทฯมีการกระจายลูกค้าไม่พึ่งพิงลูกค้ารายใดรายหนึ่งทำให้ไม่มีความเสี่ยงในการพึ่งพิงลูกค้ารายใดรายหนึ่ง ทั้งนี้ บริษัทมีแผนที่จะให้ข้อมูลนักลงทุน (โรดโชว์) เพิ่มที่จังหวัดระยองและชลบุรี หลังจากโรดโชว์ในกรุงเทพฯ ไปแล้ว และเปิดจองซื้อหุ้นไอพีโอในวันที่ 3-5 ก.ย.2557 ให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัท แคปปิทอล เอ็นจิเนียริ่ง เน็ตเวิร์ค (CEN) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ จำนวน 60 ล้านหุ้น ในอัตราส่วน 10.5027 ต่อ 1 หุ้น ซึ่งคาดว่าผู้ถือหุ้นเดิมจะมีการใช้สิทธิ์ทั้งหมด ส่วนอีก 90 ล้านหุ้นจะมีการเสนอขายกับประชาชนทั่วไปในวันที่ 10-12 ก.ย.2557 โดยจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ วันที่ 18 ก.ย.2557 "ราคาหุ้นไอพีโอ 1.60 บาท/หุ้น มีพี/อี 8.58 เท่า ซึ่งเทียบกับพี/อี ตลาดเอ็มเอไอ ในช่วง 1 ปีอยู่ที่ 33.18 เท่า บริษัทมั่นใจว่าจะขายหุ้นได้หมด ตอนนี้มีนักลงทุนให้ความสนใจที่จะเข้ามาจองซื้อจำนวนมาก" นายเชนินทร์ เชน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ระยองไวร์ อินดัสตรีส์ กล่าวว่า ปี 2557 บริษัทวางเป้าหมายรายได้รวมที่ 1,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 966 ล้านบาท และประเมินแนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรกที่มีรายได้ 426.3 ล้านบาท จากสถานการณ์การเมืองที่ดีขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการต่างๆ มีความมั่นใจในการลงทุนก่อสร้าง ส่งผลให้มีความต้องการใช้เหล็กมากขึ้น ประกอบกับจากการที่รัฐบาลมีการเดินหน้าโครงการโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ก็ส่งผลดีกับบริษัท เงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นไอพีโอครั้งนี้ บริษัทจะนำไปขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น และในปี 2558 บริษัทมีแผนที่จะเข้าไปเจาะลูกค้าที่รับเหมาขนาดใหญ่ เช่น บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC), บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD), จากปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าเป็นผู้รับเหมาขนาดเล็ก รวมไปถึงมีแผนที่จะมีการส่งออกสินค้าไปจำหน่ายต่างประเทศ โดยประเทศที่สนใจแถบตะวันออกกลางจะมีความต้องการใช้สูง จากปัจจุบันบริษัทยังไม่มีรายได้จากการส่งออก Tags : คมกฤต มีคำสัตย์ • บล.เคที ซีมิโก้ • ระยองไวร์