แบงก์ฉวยจังหวะออกหุ้นกู้

กสิกรเล็งออกไฮบริดเทียร์ 2 สกุลเงินบาท ดักดอกเบี้ยขาขึ้น หลักหมื่นล้านบาท ชดเชยเงินกองทุนขั้นที่ 2

จากแนวทางการปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รวมถึงความต้องการสภาพคล่องเพื่อใช้ในโครงการลงทุนภาครัฐและเอกชนในเร็วๆ นี้ส่งผลต่อการคาดการณ์ว่าแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยจะกลับเข้าสู่ช่วงขาขึ้นอีกครั้ง จึงเห็นว่าสถาบันการเงินเริ่มเตรียมแผนการระดมทุนอีกครั้งผ่านตลาดตราสารหนี้เพื่อล็อกต้นทุนดอกเบี้ยก่อนดอกเบี้ยขาขึ้น

ล่าสุดธนาคารกสิกรไทยมีแผนที่จะออกตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุนนับเป็นเงินกองทุนขั้นที่ 2 (Hybrid tier2) ในรูปของสกุลเงินบาท เพื่อขายให้กับนักลงทุนในประเทศ ทั้งสถาบันและลูกค้ากลุ่มผู้มีความมั่งคั่ง (high networth) โดยได้ยื่นไฟลิ่งกับสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือก.ล.ต.วานนี้

ทั้งนี้หุ้นกู้ดังกล่าวจะออกมาเพื่อทดแทนกับหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์ที่จะครบกำหนดในปี 2558 ส่วนหนึ่งธนาคารจึงต้องออกมาดักไว้เพื่อทดแทนเงินกองทุนที่อาจจะปรับลดลงได้ ขณะที่วงเงินการออกหุ้นกู้ครั้งนี้จะถูกจำกัดด้วยผู้ซื้อจึงคาดว่าจะออกไม่มากนักหรือประมาณหมื่นล้านบาท ส่วนระยะเวลาการออกคาดว่าจะเป็นเดือนก.ย.นี้หรือ พ.ยนี้

ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2557 ธนาคารและบริษัทย่อย มีสินทรัพย์รวมจำนวน 2,339,798 ล้านบาท อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงของกลุ่มธุรกิจทางการเงินธนาคารกสิกรไทยตามหลักเกณฑ์ Basel III อยู่ที่ 16.06% โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 12.92% ที่เหลืออีก 3.14% เป็นเงินกองทุนขั้นที่ 2

นอกจากนี้ธนาคารทหารไทยเป็นอีกสถาบันการเงินที่ออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์เพื่อนับเป็นเงินกองทุนขั้นที่ 2 เช่นกัน โดยในขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอขายให้นักลงทุน ทั้งนี้หุ้นกู้ดังกล่าวเป็นหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามเกณฑ์ บาเซิล 3 (Basel III compliant Tier 2 subordinated notes) สกุลเงินบาทมูลค่าไม่เกิน 1.5 หมื่นล้านบาท อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.50% เสนอขายแก่ผู้ลงทุนสถาบันและ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ระหว่างวันที่ 22-28 ส.ค.โดยวัตถุประสงค์ในการเสนอขายหุ้นกู้เพื่อทดแทนตราสารหนี้ที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ชุดเก่า ที่จะครบกำหนดและไถ่ถอน ซึ่งฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ไว้ที่ ระดับ A

ก่อนหน้านี้ธนาคารกรุงไทยและธนาคารธนชาตได้เสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิตามเกณฑ์ Basel III โดยธนาคารกรุงไทยได้ระดมทุนเป็นสกุลเงินดอลลาร์ เป็นจำนวน 700 ล้านดอลลาร์ จากเดิมที่ตั้งไว้ 500 ล้านดอลลาร์ แต่มียอดจองซื้อหุ้นกู้ด้อยสิทธิในครั้งนี้สูงถึง 3,800 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ธนาคารธนชาตได้หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ในวงเงินไม่เกิน 13,000 ล้านบาท จากเดิม 10,000 ล้านบาท

Tags : ธนาคาร • หุ้นกู้