อิชิตัน ประกาศตั้งบริษัทร่วมลงทุนในอินโดนีเซียกับ พีที แอตริ แปซิฟิก ตั้งโรงงานผลิตเครื่องดื่ม โดยถือหุ้น 50% รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI เปิดเผยผลประชุมคณะกรรมการบริษัทวานนี้ว่าบริษัทได้อนุมัติแผนการเข้าลงทุนในกิจการร่วมค้าที่จัดตั้งขึ้นใหม่ในประเทศอินโดนีเซียโดยได้ร่วมกับบริษัท PT Atri Pasifik (“AP”) ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย ด้วยการถือหุ้นในสัดส่วนรายละ 50% คิดเป็นมูลค่าร่วมทุนส่วนทุนจดทะเบียนของบริษัทจำนวน 200,000 ล้านรูเปี๊ยะห์อินโดนีเซีย หรือคิดเป็น 592 ล้านบาท รวมมูลค่าร่วมทุนส่วนทุนจดทะเบียนทั้งสิ้นจำนวน 400,000 ล้านรูเปี๊ยะห์อินโดนีเซีย หรือประมาณ 1,184. ล้านบาท ขณะเดียวกันยังได้อนุมัติจำนวนเงินให้กู้ยืมในอนาคตแก่บริษัทร่วมทุนดังกล่าวตามสัดส่วนการถือหุ้นในส่วนของบริษัทจำนวน 141,250 ล้านรูเปี๊ยะห์อินโดนีเซีย หรือประมาณ 418.1 ล้านบาท จากประมาณการจำนวนเงินให้กู้ยืมในอนาคตเบื้องต้นทั้งหมดจำนวน 282,500 ล้านรูเปี๊ยะห์อินโดนีเซีย หรือประมาณ 836.2 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม จำนวนเงินให้กู้ยืมดังกล่าวจะเกิดขึ้น ก็ต่อเมื่อยอดขายสินค้าเป็นไปตามสัญญาที่ระบุ และทางบริษัทจะต้องเริ่มก่อสร้างโรงงานผลิตที่ประเทศอินโดนีเซีย บริษัทจะมีการลงนามในสัญญาร่วมทุนกันในวันนี้ (27 ส.ค.) และจัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายในไตรมาส 4 ปีนี้ โดยจะดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มชาพร้อมดื่มแบรนด์"อิชิตัน" ในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งบริษัทยินยอมให้บริษัทร่วมทุนใช้เครื่องหมายการค้าและสูตรการผลิตของทางบริษัท โดยการเข้าร่วมลงทุนดังกล่าวเป็นการทำสัญญา Joint Venture Agreement ระหว่างบริษัทกับ AP เพื่อร่วมกันกำหนดลักษณะโครงสร้างการร่วมทุนและการดำเนินธุรกิจ การบริหารงานในกิจการร่วมค้า สิทธิหน้าที่ระหว่างกัน ผลตอบแทนจากการร่วมทุน รวมถึงการดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ส่วนมูลค่าโครงการร่วมทุนครั้งนี้ รวมแล้วอยู่ที่ 682,500 ล้านรูเปี๊ยะห์อินโดนีเซีย หรือประมาณ 2,020.2 ล้านบาท โดยเม็ดเงินลงทุนในส่วนทุนจดทะเบียนจะมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของบริษัท ส่วนเงินกู้ยืมยังไม่มีการระบุชัดเจน อย่างไรก็ตามทางผู้บริหารได้เล็งเห็นถึงศักยภาพและความคุ้มค่าในการลงทุนของโครงการ โดยการลงทุนในครั้งนี้ จะช่วยขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มลูกค้าในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งมีมูลค่าการเติบโตของตลาดชาพร้อมดื่มเฉลี่ย 15% ต่อปี โดยมูลค่าตลาดชาพร้อมดื่มมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในอัตราสูงกว่าโดยเติบโตเฉลี่ย 20% ต่อปี บริษัทมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายคือผู้ที่ชอบดื่มน้ำที่มีส่วนผสมของน้ำผลไม้และผู้ที่ต้องการความสดชื่น มุ่งเน้นกลุ่มผู้บริโภคทุกวัย กลุ่มคนรุ่นใหม่วัยทำงาน กลุ่มไลฟ์สไตล์ทันสมัย และกลุ่มรักสุขภาพ ซึ่งบริษัทดังกล่าวเป็นพันธมิตรทางธุรกิจสัญชาติอินโดนีเซียที่มีเครือข่ายในช่องทางการจัดจำหน่ายในโมเดิร์นเทรด ประเภทร้านค้าสะดวกซื้อ ที่มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสทางการตลาดและส่งเสริมแผนการขายของบริษัทได้เป็นอย่างดี ดังนั้น การเข้าทำรายการดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมรายได้และผลกำไรให้กับบริษัทและสร้างผลตอบแทนสูงสุดให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทยังได้อนุมัติการเข้าลงทุนในระบบติดตั้งภายใน เครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อขยายกำลังการผลิตของโรงงานเฟส 2 ที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา รวมมูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 750 ล้านบาท โดยเป็นรายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ตามประกาศคณะกรรมการตลาดทุน เรื่องหลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเรื่องการเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ เมื่อคำนวณตามเกณฑ์การได้มาของสินทรัพย์จะมีอัตราส่วนของขนาดรายการสูงสุดที่ 10.6% ซึ่งเมื่อนับรวมขนาดรายการของโครงการขยายกำลังการผลิตของโรงงานเฟส 2 แล้วจะมีรายการรวม 18.5% ตามเกณฑ์มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทน ซึ่งเข้าข่ายรายการประเภทที่ 2 ที่มีขนาดรายการมีมูลค่าเท่ากับ 15% หรือสูงกว่า แต่ต่ำกว่า 50% ตามประกาศเรื่องการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ ซึ่งบริษัทต้องจัดทำรายงานและเปิดเผยรายการต่อตลาดหลักทรัพย์ทันทีและจัดส่งหนังสือแจ้งผู้ถือหุ้นภายใน 21 วัน นับแต่วันที่เปิดเผยรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้บริษัทได้ซื้อสิทธิ์ในเครื่องหมายการค้า"ไบเล่"พร้อมสูตรการผลิตจากบริษัทซันนี่ เฮิร์บ อินเตอร์เนชั่นแนล เบฟเวอเรจจำกัด และเข้าลงทุนในที่ดิน อาคาร ระบบติดตั้งภายในเครื่องจักรและอุปกรณ์ เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2557 โดยมีมูลค่าเงินลงทุนที่ได้รับอนุมัติ 1,780 ล้านบาท และมูลค่าเงินลงทุนใช้ไป 444.9 ล้านบาท Tags : อิชิตัน • โรงงาน • อินโดนีเซีย