ตลาดหลักทรัพย์ย้ำนักลงทุนศึกษาข้อมูลก่อนลงทุน ยันมีมาตรการดูแลหุ้นเก็งกำไรสูง พร้อมทำงานร่วมก.ล.ต. นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่าหุ้นขนาดเล็กที่มีการเก็งกำไรสูงนั้น ตลาดหลักทรัพย์อยากเตือนให้นักลงทุนดูในเรื่องปัจจัยพื้นฐาน ทั้งกำไร หรือผลการดำเนินงานต่างๆ เรื่องดังกล่าวถือว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งในการลงทุนระยะยาว ซึ่งตลาดหลักทรัพย์อยากให้นักลงทุนเน้นการลงทุนระยะยาวไม่ใช่การเก็งกำไรเพราะอาจเกิดความเสียหาย "ในการลงทุนนั้น อยากให้นักลงทุนเน้นการลงทุนระยะยาว โดยการพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานทั้งรายได้และกำไร รวมถึงราคาปิดกำไรต่อหุ้น (พี/อี) เพื่อเป็นพื้นฐานในการตัดสินใจของนักลงทุน และหลีกเลี่ยงการเก็งกำไรในระยะสั้น ซึ่งอาจส่งผลกับความเสียหายนักลงทุนได้" ในเรื่องของความเชื่อมั่นต่อบริษัทจดทะเบียน ปัจจุบันบริษัทจดทะเบียนไทยมีความแข็งแกร่งและมีผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง จึงไม่น่าจะมีผลกระทบ ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์ ก็มีมาตรการดูแลหุ้นที่มีการเก็งกำไรสูง ทั้งเทรดดิ้งอเลิร์ท หรือเกณฑ์แคชบาลานซ์ อยู่แล้ว อีกทั้งได้ร่วมทำงานกับสำนักงานก.ล.ต. ในการดูแลหุ้นลักษณะดังกล่าว ส่วนการดูแลดังกล่าวจะเพียงพอหรือไม่นั้นก็ต้องมีการพิจารณาอีกครั้ง นายสุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป (THANA) กล่าวว่า ตามที่การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของบริษัทเมื่อวันที่ 25 ส.ค.2557 ซึ่งราคาซื้อขายมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก บริษัทขอชี้แจงว่าบริษัทยังไม่มีข้อมูลหรือพัฒนาการใดๆ ที่สำคัญที่ยังไม่ได้เปิดเผย ทั้งนี้ สำรวจการเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป ย้อนหลัง 3 เดือน พบว่าการซื้อขายในเดือนมิ.ย. ปรับตัวลดลง 1.55% เดือนก.ค. ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้น 6.32% ส่วนเดือนส.ค. ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้น 39.60% โดยเมื่อวันที่ 25 ส.ค. 2557 ราคาหุ้นได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 29.36% เขากล่าวว่า ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด โดยคาดหวังว่าในครึ่งปีหลังจะมียอดขาย 330 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากก่อนที่แล้วที่มียอดขาย 400 ล้านบาท สวนทั้งปี 2557 ยอมรับว่ายอดขายจะใกล้เคียงกับปีที่แล้วที่มีอัตราการเติบโตประมาณ 5-10% ซึ่งเป็นผลจากครึ่งปีแรกที่ผ่านมาเศรษฐกิจชะลอตัวลง จากสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ ส่งผลให้กำลังซื้อลดลง ขณะที่กำไรในปีนี้คาดว่าใกล้เคียงกับปีก่อนเช่นเดียวกันที่ 50 ล้านบาท “จากที่คาดว่าหลังการเมืองชัดเจน กำลังซื้อจะกลับมาอย่างรวดเร็ว แต่กลับไม่เป็นตามคาด ส่งผลให้ยอดขายไม่ได้ตามเป้าหมาย แม้ว่าไตรมาส 2 จะดี แต่ไตรมาสแรกที่ผ่านมาบริษัทขาดทุนไป ประกอบกับตอนนี้เวลาแรงซื้อกลับมากำลังซื้อจะไปที่คอนโดมิเนียมมากกว่าที่อยู่แนวราบด้วย เพราะมีปัญหาและความกังวลเรื่องน้ำท่วม” เขากล่าวว่า ปีนี้บริษัทจะพยายามรักษาอัตรากำไรสุทธิให้อยู่ที่ 5% ซึ่งใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 5.02% ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นจะลดลงเหลือ 30-32% จากปีก่อนที่อยู่ที่ 31-33% เป็นผลจากการที่บริษัทเร่งทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย หรือโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อกระตุ้นยอดขาย ด้านนายพิเชษฐ์ วิริยะจิตรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ (APCO) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ากำไรปีนี้โต 60% จากปีก่อน ส่วนรายได้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 450 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทจะสามารถรับรู้รายได้จากต่างประเทศในช่วงไตรมาส 4/2557 ที่ 10-15% ซึ่งมีมาร์จินสูง ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 35% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนอยู่ที่ราว 20% เนื่องจากบริษัทมีการขยายช่องทางการซื้อขายผ่านสถานีโทรทัศน์ รวมถึงเพิ่มช่องทางการจำหน่ายทางเทเลมาร์เก็ต ซึ่งเป็นช่องทางการจำหน่ายที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูง ปี 2558 บริษัทคาดว่ารายได้จากต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 30-40% จากปีนี้ 10-15% และคาดว่ามาร์จินจากผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกต่างประเทศปี 2558 จะอยู่ที่ 60% ส่วนอัตรากำไรสุทธิเฉลี่ยของบริษัทปี 2558 อาจจะเพิ่มขึ้นจากปีนี้ มาอยู่ที่ 47% เขากล่าวว่า บริษัทจะมีเงินจากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนที่จะเข้ามาในช่วงปลายปีราว 800-900 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีกระแสเงินสดอยู่ที่ 340 ล้านบาท ดังนั้นจะทำให้กระแสเงินสดเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1,800- 1,900 ล้านบาท โดยบริษัทจะมีแผนการลงทุนในช่วงปลายปี 2558 Tags : ตลาดหลักทรัพย์ • สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ • หุ้นเก็งกำไร