"วายแอลจี" ประเมินกรอบราคาทองคำสิ้นปีนี้อยู่ที่ระดับ 17,800-21,600 บาท น.ส.ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์ทิศทางราคาทองคำขณะนี้อยู่ในช่วงขาลง โดยในช่วงกลางเดือนสิงหาคมจนถึงปัจจุบันราคาปรับลดลงกว่า 40 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,273.06 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมาอิงกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเป็นหลัก เนื่องจากสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องกดดันให้เกิดแรงขายทองคำออกมา ทำให้ในระยะนี้นักลงทุนจำเป็นต้องให้ความสนใจกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ รวมถึงแถลงการณ์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อย่างใกล้ชิด "สถานการณ์ปัจจุบันราคาทองคำถูกกดดันจากตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานที่ปรับตัวลดลง ยอดขายบ้านมือสองซึ่งขยายตัวติดต่อกัน ตัวเลขเริ่มสร้างบ้าน และดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้าน ซึ่งตัวเลขเศรษฐกิจเหล่านี้สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนว่าอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐเร็วกว่าที่คาดเอาไว้" น.ส.ฐิภา กล่าว ด้านกลยุทธ์การลงทุน น.ส.ฐิภา มองว่าเป็นจังหวะในการเข้าทยอยสะสมทองคำสำหรับนักลงทุนระยะกลางเมื่อราคาอ่อนตัวลงสู่แนวรับบริเวณ 1,260 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 19,100 บาทต่อบาททองคำ อย่างไรก็ตาม หากราคาดีดตัวขึ้นและไม่สามารถผ่าน 1,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 19,700 บาทต่อบาททองคำ อาจลดการถือทองคำลงเพื่อรอการเข้าซื้ออีกครั้ง ขณะที่นักลงทุนระยะสั้นสามารถเก็งกำไรตามกรอบราคาแนวต้าน-แนวรับแต่ละวัน สำหรับทิศทางราคาทองจากนี้จนถึงสิ้นปี วายแอลจี คาดว่ากรอบการเคลื่อนไหวของราคาทองคำจะอยู่ในโซน 1,180-1,430 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 17,800-21,600 บาทต่อบาททองคำ โดยปัจจัยที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำยังคงเป็นประเด็นสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยในวันที่ 28 สิงหาคมนี้จะมีการเปิดเผยตัวเลขจีดีพี ไตรมาส 2/2557 และผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน นอกจากนี้ วันที่ 18 กันยายนนี้ จะมีการประชุมเฟด Tags : ฐิภา นววัฒนทรัพย์ • YLG • ทองคำ