'PTTGC'เล็งร่วมทุน'เพอร์ตามิน่า'

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 26 สิงหาคม 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    "พีทีที โกลบอล เคมิคอล" สยายปีกร่วมทุนบริษัทในอาเซียน มั่นใจจับมือ "เพอร์ตามิน่า" ช่วยยึดตลาดอินโดนีเซีย

    นายทิติพงษ์ จุลพรศิริดี ผู้จัดการฝ่ายหน่วยงานการเงินองค์กร และนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) กล่าวว่า บริษัทมีแผนลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ และเพื่อตอบสนองแผน 5 ปี (2555-2560) ที่วางเป้าหมายเพิ่มกำไรก่อนหักภาษี (อีบิทด้า) มาร์จินให้อยู่ที่ 30% จากปัจจุบัน ณ ครึ่งแรกปี 2558 มีอีบิทด้า มาร์จิน 8%

    ทั้งนี้ บริษัทจะเน้นขยายธุรกิจไปในประเทศแถบอาเซียน และในภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากเป็นภูมิภาคที่กำลังมีการเติบโตทางเศรษฐกิจ และมีจำนวนประชากรค่อนข้างมาก โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน และจีน

    ปัจจุบัน บริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน กับบริษัท เพอร์ตามิน่า ใช้ชื่อว่า บริษัท อินโดไทย เพื่อดำเนินธุรกิจปิโตรเคมีในประเทศอินโดนีเซีย ขณะนี้ได้มีการจัดตั้งบริษัทเพื่อดำเนินธุรกิจซื้อมาขายไปก่อน เพื่อเสริมช่องทางจำหน่ายของบริษัท และในปีนี้ 2563 คาดว่าโรงงานผลิตจะเริ่มเดินเครื่องและสร้างรายได้

    ทั้งนี้ ในบริษัท อินโดไทย บริษัทถือหุ้น 49% และบริษัท เพอร์ตามิน่า ถือหุ้น 51% มูลค่าการลงทุนรวม 5,000 ล้านดอลลาร์ ใช้เวลาลงทุนประมาณ 4 ปี แหล่งเงินมาจากเงินกู้ 3,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนที่เหลือมาจากส่วนทุน ทั้งนี้ คำนวณตามสัดส่วนการถือหุ้น บริษัทจะต้องใส่เงินลงทุนในบริษัทร่วมทุนดังกล่าว 250 ล้านดอลลาร์ต่อปี เป็นเวลา 4 ปี

    "เงินลงทุนในโครงการร่วมทุนกับอินโดนีเซียอยู่ในงบลงทุน 5 ปีที่จัดสรรไว้ที่ 4,500 ล้านดอลลาร์แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน และยังมีกระแสเงินสดเพียงพอและหากต้องการลงทุนจำนวนมากก็สามารถกู้ได้โดยจะควบคุมสัดส่วนหนี้สินต่อทุนไว้ไม่ให้เกิน 0.7 เท่า”

    นายทิติพงษ์ กล่าวอีกว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัท ไชโนเคม ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าปิโตรเคมีในประเทศจีน เพื่อลงทุนโครงการผลิตปิโตรเคมี อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเริ่มลงทุนเมื่อไหร่ และมูลค่าโครงการเท่าใด เนื่องจากยังอยู่ในช่วงเจรจา และศึกษาความคุ้มค่าการลงทุน

    สำหรับการขยายธุรกิจไปยังแถบยุโรป บริษัทมองเห็นประโยชน์จากการเข้าซื้อเทคโนโลยีที่ทันสมัยเป็นหลัก ส่วนการขยายตลาด หรือขายสินค้าเข้าไปในยุโรป ยังไม่ได้ศึกษาเชิงลึก

    เขากล่าวอีกว่า กรณีการศึกษาแผนควบรวมระหว่างบริษัทและบริษัท ไออาร์พีซี่ (IRPC) นั้น ขั้นตอนแรก ทางบริษัท ไออาร์พีซี ต้องดำเนินการสร้างความแข็งแกร่งภายในให้แล้วเสร็จก่อน ซึ่งน่าจะเสร็จในปลายปี 2558 จากนั้นจึงจะศึกษาความคุ้มค่าจากการร่วมทุน หรือควบรวมกิจการระหว่างกัน

    นายทิติพงษ์ กล่าวอีกว่า แนวโน้มผลประกอบการครึ่งหลังปี 2557 จะดีกว่าช่วงครึ่งปีแรกที่มีรายได้รวม 3.03 แสนล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1.23 หมื่นล้านบาท เนื่องจาก ประเมินว่าส่วนต่างราคาพาราไซลีนและเบนซินจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 400-430 ดอลลาร์/ตัน จากครึ่งปีแรกที่อยู่ที่ 350 ดอลลาร์/ตัน ทำให้คาดว่าเฉลี่ยทั้งปีจะอยู่ที่ 350-400 ดอลลาร์/ตัน รวมทั้งราคาโพลีเมอร์ปรับตัวดีขึ้น คาดว่าช่วงครึ่งปีหลังจะอยู่ที่ 1,500-1,550 ดอลลาร์/ตัน

    นอกจากนี้ ประเมินว่ายอดขายอะโรเมติกส์ในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะดีขึ้น เนื่องจากเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวในไตรมาส 4/2557 ทำให้มีความต้องการในการใช้เพื่อผลิตเสื้อผ้ามากขึ้น ส่วนราคาน้ำมันดิบนช่วงครึ่งปีหลัง ประเมินไว้ที่ 106 ดอลลาร์/บาร์เรล ใกล้เคียงกับไตรมาส 2/2557 แต่เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/2557 ที่อยู่ 104 ดอลลาร์/บาร์เรล

    สำหรับการจัดงานไทยแลนด์ โฟกัส ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 27 ส.ค.2557 บริษัทจะนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุนสถาบันต่างประเทศ โดยนำเสนอจุดเด่นคือ ความเป็นบริษัทที่มีกำไรมั่นคง ไม่ผันผวน แม้บริษัทจะอยู่ในธุรกิจที่ผันผวนจากราคาอะโรเมติกส์และโอเลฟินส์ และจากการที่จะมีการเปิดเสรีประชาคมอาเซียนนั้น ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่บริษัทจะมีการขยายการลงทุนเข้าไป ซึ่งจะทำให้บริษัทฯมีแนวโน้มผลประกอบการเติบโตเพิ่มขึ้นในอนาคต

    การเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล วานนี้ (25 ส.ค.) ปิดการซื้อขายที่ 66.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.38% มูลค่าการซื้อขาย 405.9 ล้านบาท

    Tags : ทิติพงษ์ จุลพรศิริดี • เพอร์ตามิน่า • PTTGC • อินโดนีเซีย

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้