'ภุชงค์' แถลง สรุปผลรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหา สปช. วันที่ 11 ทั่วประเทศ 106 คน รวมทั้งสิ้น 2,045 คน ขณะ ด้านการศึกษามากสุด 119 คน ขอประชาชนมั่นใจสรรหา สปช.จังหวัดโปร่งใส นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงสรุปผลการรับเสนอชื่อบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) วันที่ 11 ว่า ตลอดทั้งวันนี้มีนิติบุคคลมายื่นเสนอรายชื่อ ในส่วนกลาง 11 ด้าน จำนวน 62 คน โดยเป็นนิติบุคคลยื่นเอง 13 คน และส่งเอกสารทางไปรษณีย์จำนวน 49 คน ส่วนจังหวัดมี 44 คน รวมทั่วประเทศมีผู้เสนอชื่อ 106 คน ซึ่งรวม 11 วัน มีนิติบุคคลเสนอรายชื่อจำนวน 660 คน ส่วนจังหวัด 1,385 คน รวมทั้งสิ้น 2,045 คน โดย นายภุชงค์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้เหลือเวลาอีก 9 วัน ซึ่งคาดว่าจะมีนิติบุคคลเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาประมาณ 3,000 คน ตามที่ประเมินไว้ พร้อมขอให้นิติบุคคลที่ประสงค์จะเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหา ให้เร่งดำเนินการ ทั้งนี้ หากจำแนกตามด้านการปฏิรูป ทั้ง 11 ด้าน พบว่า ด้านการศึกษายังเป็นด้านที่มีผู้เสนอรายชื่อมากสุด 119 คน รองลงมาคือ ด้านสังคม 97 คน ด้านอื่น ๆ 93 คน ด้านปกครองท้องถิ่น 82 คน และด้านการเมือง 59 คน ขณะที่ด้านพลังงานยังคงมีผู้เสนอน้อยสุด คือ 22 คน สำหรับการเสนอชื่อและทาบทามในส่วนจังหวัดและกรุงเทพมหานคร พบว่า จ.หนองบัวลำภู มีผู้เสนอมากสุด 50 คน รองลงมาคือ จ.มหาสารคาม กาฬสิน และนครสวรรค์ ส่วนจังหวัดที่น้อยสุด คือ จ.ประจวบคีรีขันธ์มี 4 คนเท่านั้น 'ภุชงค์' ขอประชาชนมั่นใจสรรหา สปช.จังหวัดโปร่งใส นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า เผยผลสำรวจความเห็นประชาชน ว่าไม่เชื่อมั่นในกระบวนการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ของคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัด ว่า ทั้ง กกต. และกระทรวงมหาดไทยได้มีหนังสือกำชับไปยังผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัด ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการสรรหา และผู้ว่าราชการจังหวัดที่ส่วนใหญ่จะเป็นประธานคณะกรรมการสรรหาว่าจะไม่สามารถลงมติคัดเลือกบุคคลที่สมควรเป็น สปช. ได้ก่อนวันที่ 2 กัยยายน เนื่องจากยังอยู่ในช่วงของการเปิดรับการเสนอชื่อ พร้อมขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในคณะกรรมการสรรหาทั้ง 11 ด้านที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ เชื่อว่าในกระบวนการสรรหาคณะกรรมการสรรหาทั้ง 11 ด้านจะให้ความยุติธรรมและความเสมอภาคกับผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อ เช่นเดียวกับคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัด ซึ่งล้วนแต่เป็นข้าราชการประจำระดับสูง ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล ประธาน กกต.จังหวัด นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และผู้แทนชุมชน จึงขอให้เชื่อมั่นและรอดูผลการคัดเลือก หากคัดเลือกแล้วพบว่ามีเหตุสงสัยก็สามารถแจ้งมายังสำนักงาน กกต.ได้ ซึ่งกรณีนี้ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าที่นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้กำชับให้คณะกรรมการสรรหาพิจารณาคัดเลือกบุคคลที่ ได้รับการเสนอชื่อด้วยความรอบคอบยุติธรรม