เตรียมใจรับกระแสวิจารณ์ไว้เรียบร้อยแล้วสำหรับนักแสดงสาว "แตงโม ภัทรธิดา" หลังเจ้าตัวได้รับมอบรางวัล คนดีศรีแผ่นดิน ประจำปี พ.ศ.2557 หรือ Citizen Thailand Awards เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีข่าวในแง่มุมต่าง ๆ ของเจ้าตัวตามหน้าสื่อให้เห็นค่อนข้างบ่อย!! ซึ่งงานนี้สาวแตงโมเองก็ได้เผยความรู้สึกหลังได้รับรางวัลดังกล่าวให้เราฟังว่า... วันนี้มารับรางวัลคนดีศรีแผ่นดินรู้สึกยังไงบ้าง ? "ต้องขอบคุณมาก ๆ ค่ะที่พิจารณาเลือกโมให้ได้รับรางวัล แต่ก็รู้ตัวค่ะว่าไม่ได้คู่ควรและเหมาะสมสักเท่าไหร่ เพราะในเรื่องของความดีที่เห็นผลชัดเจนโมก็ไม่ได้มีให้คนอื่นเห็นแบบเป็นกิจจะลักษณะ แต่โมมองว่าเขาน่าจะพิจารณาจากตรงที่โมรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แบบชัดเจนมาก ๆ มากกว่าค่ะ" กังวลไหมว่าหลังจากมีข่าวว่าเราได้รางวัลออกไปจะต้องเกิดกระแสวิจารณ์ตามมา ? "สำหรับเรื่องนี้โมทำใจไว้แล้วค่ะว่าโมต้องโดนแน่ ๆ เพราะโมเองก็รู้ตัวว่าโมไม่คู่ควร เนื่องจากยังมีคนอีกหลาย ๆ คนที่เขาทำดีเพื่อสังคมอย่างชัดเจน ดังนั้นโมต้องขอมอบรางวัลนี้ให้กับบุคคลในวงการบันเทิงทุก ๆ คน ที่ทำดีและเห็นผลชัดเจนดีกว่าค่ะ เพราะโมคงไม่ไหวที่จะรับไว้คนเดียว" นอกจากนี้แล้ว "แตงโม ภัทรธิดา" ก็ยังถือโอกาสเปิดใจอีกครั้งกับกรณีที่เจ้าตัวออกมาให้สัมภาษณ์ถึงนักแสดงรุ่นพี่ "เอ๋ อัจฉรา" เกี่ยวกับปัญหาค่ายมวย จนอีกฝ่ายถึงกับต้องออกมาฉะผ่านสื่อว่าสาวแตงโมนั้นมีนิสัยก้าวร้าวและต้องการโหนกระแสของตนเพื่อสร้างชื่อเสียง... ล่าสุดพี่เอ๋เขาออกมาให้พูดเรื่องที่มีปัญหาค่ายมวยอีกครั้งแล้ว เรารู้สึกยังไงบ้างกับเรื่องนี้ ? "โมไม่ได้รู้สึกอะไรยังไงตั้งแต่แรกอยู่แล้ว โมเพียงแต่ทำหน้าที่ของคนพูดความจริงเท่านั้นเองค่ะ และหลังจากนั้นโมก็ไม่ได้หวังว่ามันจะต้องยังไง แต่ถ้าเกิดมันยังมีผลพวงตามมาโมก็อยากจะให้พี่เอ๋ใจเย็น ๆ อย่าไปฟิกซ์อะไรมากมายค่ะ เพราะโมเชื่อว่ามันจะเกิดความสงบสุขในจิตใจเอง เนื่องจากเราก็คนวงการมวยเหมือนกัน โมไม่อยากจะให้มีข่าวที่ไม่ดีเกี่ยวกับวงการมวยออกมา โมอยากให้เรามาช่วยกันทำวงการมวยให้มันดีขึ้นจะดีกว่า มีอะไรที่พอจะช่วยได้ก็อยากจะช่วย และโมอยากอวยพรให้ยิมพี่เอ๋มีคนเข้าเยอะ ๆ และก็ขอเป็นกำลังใจให้พี่เอ๋ในการรักษาตัวด้วยค่ะ" จากคำพูดของพี่เอ๋ก็ดูเหมือนเขาก็ไม่ค่อยพอใจเราอยู่เหมือนกัน ? "มันก็เข้าใจได้ค่ะ เพราะว่าสไตล์เรามันอาจจะสวนทางกัน แต่โมเชื่อว่าคนทั้งประเทศก็น่าจะรู้ว่าโมเป็นคนพูดตรงและพูดจริง" โตโน่เขาเครียดไหมสำหรับเรื่องนี้ ? "ไม่เลยค่ะ ส่วนใหญ่เขาเครียดกับงานที่กำลังทำในช่วงนี้ซะมากกว่า" ส่วนตัวเรากังวลไหมว่าเรื่องนี้จะยืดเยื้อถึงขั้นฟ้องร้อง ? "เรื่องนี้สำหรับโมมันหยุมหยิมมาก โมมองว่าเราควรก้าวผ่านเรื่องนี้ไปได้แล้วเพื่อที่จะไปพัฒนาเรื่องอื่นของเราดีกว่าค่ะ" ที่พี่เอ๋บอกว่าเราก้าวร้าวและเป็นบัวใต้น้ำเรารู้สึกยังไงบ้าง ? "โมยอมรับตามนั้นก็ได้ค่ะ เพราะพี่เอ๋เองก็ผ่านชีวิตมาเยอะกว่าโมและก็อายุเยอะกว่าโม ดังนั้นถ้าพี่เอ๋จะตัดสินแบบนั้นโมก็โอเคค่ะ โมจะพัฒนาตัวเองและก็ปรับปรุงตัวเองไปในทางที่ดีเรื่อย ๆ ค่ะ" แล้วเรื่องที่พี่เอ๋บอกว่าเราไปโหนกระแสเขาดังล่ะ ? "โมโหนกระแสพี่เอ๋ดัง เอ่อ... เอ่อ... ตลอดเวลาที่โมอยู่มามันก็พิสูจน์ให้ใครหลาย ๆ คนเห็นแล้วว่าถึงโมไม่มีกระแสโมก็มีความสุขได้ค่ะ" เหมือนพี่เอ๋เขาเองก็โกรธที่เราเอาเรื่องอาการป่วยเขามาพูด ? "โมพูดไปในทางที่ดีค่ะ โมพูดไปในทางที่ให้กำลังใจ ซึ่งโมเองก็เป็นกำลังใจให้จริง ๆ เพราะโมเองก็เคยเป็นคนที่ป่วยมากคนหนึ่ง ดังนั้นโมเข้าใจค่ะว่าเขาต้องการกำลังใจ" หลังจากนี้จะมีการโทรไปเคลียร์เพื่อปรับความเข้าใจกันไหม ? "ไม่มีค่ะ เพราะโมกับพี่เอ๋ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน"