ก่อนหน้านี้ผู้เขียนเพิ่งรีวิว Huawei Mate 20 ไป วันนี้มาต่ออีกหนึ่งรุ่นที่จัดว่าเป็นรุ่นบนสุดในตระกูล Mate 20 Series นั่นคือ Huawei Mate 20 Pro ซึ่งมาพร้อมหน้าจอ OLED ขอบโค้งและรอยบาก, กล้องหลัง 3 ตัวในแบบ Porsche Headlight Design ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากไฟหน้าของรถ Porsche รุ่น 919 และฟีเจอร์ชาร์จไร้สายให้กับสมาร์ทโฟนเครื่องอื่นที่รองรับชาร์จไร้สายตามมาตรฐาน Qi ได้ สเปก Huawei Mate 20 Pro ประกอบไปด้วย จอ OLED ขนาด 6.39 นิ้ว, ความละเอียด 2K (3120 x 1440 พิกเซล) ระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย EMUI 9.0 ชิป Kirin 980 แรม 6GB, รอม 128GB, รองรับ NM Card ความจุสูงสุด 256GB กล้องหลัง 3 ตัว ได้แก่ Ultra Wide Angle ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/2.2 เลนส์มุมกว้างปกติ ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/1.8 เลนส์ซูม 5 เท่า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/2.4 กล้องหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/2.0, รองรับ 3D Depth Sensing สแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ กันน้ำ กันฝุ่นมาตรฐาน IP68 แบตเตอรี่ความจุ 4200 mAh พร้อมระบบ Huawei SuperCharge และ Wireless Quick Charge ตัวเครื่อง ด้านหน้าของ Huawei Mate 20 Pro แตกต่างจาก Mate 20 ชัดเจน ใช้จอ OLED ขอบโค้ง มากับรอยบากขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดา Mate 20 Series หากใครที่เห็นแล้วรู้สึกขัดใจก็จะมีเมนูให้เลือกซ่อนรอยบากนี้ไดั ตัวเครื่อง Mate 20 Pro บาง 8.6 มม. หนากว่า Mate 20 ที่บาง 8.3 มม. เล็กน้อย ซึ่งลักษณะจอแบบโค้งไม่ทำให้รู้สึกว่าหนักเวลาหยิบถือแต่อย่างใด แต่ตัวเครื่องที่ดูยาวทำให้ยากต่อการใช้งานด้วยมือเดียว ฝาหลังใช้วัสดุที่มีลักษณะคล้ายกระจกแฝงมาด้วยลวดลาย ผิวของฝาหลังเกิดรอยนิ้วมือได้ยากขึ้น ให้ความกระชับในขณะหยิบถือมากขึ้นและไม่ลื่นอีกด้วย ส่วนประกอบอื่นๆ โดยรอบตัวเครื่อง ในตำแหน่งรอยบากเป็นกล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล, ลำโพงสนทนาและลำโพงเสียงในตัวเดียวกัน พร้อม 3D Depth Sensing เซ็นเซอร์สำหรับสแกนใบหน้าที่ใช้งานได้แม้ในที่แสงน้อย, มีปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่มพาวเวอร์อยู่ขอบด้านขวาของตัวเครื่อง ปุ่ม home, ย้อนกลับ และ recent app เป็นแบบ on screen, ส่วนขอบด้านล่างเป็นพอร์ท USB Type-C ซึ่งจุดนี้ Huawei ซ่อนลำโพงเสียงอีกหนึ่งตัวอยู่ข้างในด้วย เสียงดนตรีที่เราได้ยินจะถูกขับออกมาจากพอร์ท USB Type-C ซึ่งเสียงที่ถูกขับออกมาพร้อมกันทั้งจากลำโพงสนทนาและลำโพงด้านล่างให้รายละเอียดเสียงที่ชัดเจนและดังมากเมื่อปรับระดับจนสุด นอกจากนี้บริเวณขอบด้านล่างตัวเครื่องยังเป็นตำแหน่งถาดใส่ซิมแบบใหม่ ที่นอกจากเราจะเลือกใส่ 2 ซิม ประเภท Nano SIM ยังสามารถพลิกถาดซิมอีกด้านเพื่อเลือกใส่ NM Card การ์ดความจำแบบใหม่ขนาดเท่า Nano SIM ได้ รองรับความจุสูงสุด 256GB กล้องถ่ายภาพ เรื่องกล้องถ่ายภายยังเป็นหนึ่งในจุดขายสำคัญ Mate 20 Pro นอกจากการจัดเรียงกล้องและแฟลชเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสที่ไม่เหมือนใครแล้ว ความละเอียดของกล้องในรุ่นนี้ยังแตกต่างจาก Mate 20 โดยเลนส์ Ultra Wide Angle มีความละเอียด 20 ล้านพิกเซล / รูรับแสง f/2.2 (Mate 20 ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล), เลนส์มุมกว้างปกติ ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/1.8 (Mate 20 ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล) และเลนส์ซูม 5 เท่า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/2.4 (Mate 20 ซูมได้ 2 เท่า) UI ของกล้องใน Mate 20 Pro ไม่ต่างจาก Mate 20 การซูมถ่ายภาพทำได้ง่าย ให้สังเกตที่หน้าจอเมื่อเปิดกล้องจะมีตัวเลขกำกับ โดยเลข 1x หมายถึง ถ่ายภาพมุมปกติ, 0.6x ถ่ายแบบมุมกว้าง ช่วยเก็บบรรยากาศของสถานที่ท่องเที่ยวได้ครบอยู่ในภาพเดียว ใครที่ชอบถ่ายภาพแบบ landscape อยู่ด้วยแล้วก็น่าจะเป็นตัวช่วยที่ดีได้ และอีกหนึ่งจุดเด่นของเลนส์ซูมใน Mate 20 Pro สามารถซูมได้ถึง 5 เท่า ช่วยเก็บภาพระยะไกลที่ถือว่าให้ความชัดและสูญเสียความละเอียดของภาพน้อย ขณะเดียวกัน AI ยังเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยในการถ่ายภาพ สามารถจับภาพได้ถึง 25 โหมด แยกแยะประเภทของวัตถุ, คน, สัตว์, สภาพแสงต่างๆ พร้อมปรับแสงสีให้มีความคมชัดมากขึ้น รวมถึงมีโหมดซุปเปอร์มาโครถ่ายภาพวัตถุระยะใกล้ที่มีระยะห่างจากวัตถุเพียงแค่ 2.5 ซม. นอกจากนี้ใครที่ชอบตั้งค่าการถ่ายภาพเองด้วยโหมด Pro ยังสามารถกำหนด ISO ได้สูงถึง 102400 (เคยมีมาก่อนแล้วใน Huawei P20 Pro) ส่วนการถ่ายวีดีโอจากกล้องหลังสามารถเลือกความละเอียดได้สูงสุดที่ 4K UHD มี AI ช่วยถ่ายวีดีโอ โดยใน UI จะมีเมนูให้เลือกประเภทของเฉดสีที่เราต้องการในขณะถ่ายวีดีโอได้ ตัวอย่างภาพถ่าย ไม่มีการตกแต่งใดๆ เพียงลดความละเอียดลงเท่านั้น ภาพถ่าย Ultra Wide Angle ภาพซูม 1 เท่า ภาพซูม 3 เท่า ภาพซูม 5 เท่า ภาพซุปเปอร์มาโคร การใช้งาน สเปกภายในของ Mate 20 Pro ไม่แตกต่างจาก Mate 20 หรือ Mate 20X มากับชิปประมวลผลรุ่นใหม่ Kirin 980 ที่ Huawei เป็นผู้พัฒนาขึ้น มากับแรม 6GB, รอม 128GB ที่รองรับการเก็บไฟล์ข้อมูลได้จำนวนมาก การทดสอบเล่นเกม PUBG และ Asphalt 9: Legends พบว่าตอบสนองต่อการกดได้เร็ว ลื่น และยังไม่พบอาการหน่วงในระหว่างเล่นให้เห็น อีกหนึ่งฟีเจอร์น่าสนใจใน Mate 20 Pro มาพร้อมสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ การสแกนต้องใช้แรงกดเล็กน้อยและสามารถทำได้แม้ขณะหน้าจอปิดอยู่ ซึ่งการสแกนใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีในการปลดล็อกหน้าจอ ถือว่าเร็วมาก แบตเตอรี่และชาร์จไร้สาย Mate 20 Pro มากับแบตเตอรี่ความจุ 4200 mAh ใหญ่กว่า Mate 20 ที่มีแบตเตอรี่ 4000 mAh ซึ่งรองรับการใช้งานทั่วไปได้แบบสบายๆ ใน 1 วัน หรือหากจะเล่นเกมหนักๆ ต่อเนื่องเป็นเวลานาน แบตเตอรี่ก็อึดพอที่จะอยู่กับเราได้หลายชั่วโมง อีกหนึ่งจุดที่สำคัญของ Mate 20 Pro คือ ฟีเจอร์ชาร์จไร้สายให้กับสมาร์ทโฟนเครื่องอื่น หรือเรียกได้ว่าเป็นแบตเตอรี่สำรองให้กับสมาร์ทโฟนเครื่องอื่นที่รองรับชาร์จไร้สายตามมาตรฐาน Qi ซึ่งขั้นตอนแรกของการใช้งานต้องเข้าไปที่เมนูแบตเตอรี่ และเลือกที่การชาร์จแบบย้อนกลับแบบไร้สาย หลังจากนั้นให้นำสมาร์ทโฟนมาวางที่ฝาหลังของ Mate 20 Pro (ในที่นี่ผู้เขียนนำ iPhone XS มาทดสอบการชาร์จไร้สาย) โดยการวางสมาร์ทโฟนเราสามารถวางเป็นแนวตรงหรือวางเฉียงก็ได้ ซึ่งจากภาพจะสังเกตเห็นว่าเมื่อวาง iPhone XS ที่ฝาหลังของ Mate 20 Pro ก็จะเริ่มชาร์จแบตแบบไร้สายได้แล้ว สรุป Huawei Mate 20 Pro ถือเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่โดดเด่นตั้งแต่ดีไซน์ภายนอกด้วยจอ OLED ขอบโค้ง พร้อมฝาหลังที่ทำจากวัสดุคล้ายกระจกแฝงมาด้วยลวดลาย เป็นองค์ประกอบที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว มีความสวยงาม แถมยังจับได้ถนัดมือพอสมควร เรื่องกล้องถ่ายภาพต้องยอมรับว่ายังเป็นหนึ่งในจุดขาย ซึ่ง Mate 20 Pro มากับเลนส์ซูมที่สามารถซูมถ่ายภาพในระยะไกลได้สูงถึง 5 เท่า โดยสูญเสียความละเอียดของภาพน้อย และยังมีเลนส์ Ultra Wide Angle ช่วยเก็บภาพวิวทิวทัศน์ได้แบบครบจบในภาพเดียว อีกหนึ่งจุดขายที่เพิ่มเข้ามาใหม่ เป็นฟีเจอร์ชาร์จไร้สายให้กับสมาร์ทโฟนเครื่องอื่น แต่ก็ยังใช้ได้แค่กับสมาร์ทโฟนบางรุ่นที่รองรับชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi ข้อจำกัดอีกหนึ่งเรื่อง คือ NM Card ที่หาซื้อได้ยากตามท้องตลาด และใช้ได้แค่ Mate 20 Pro และ Mate 20X เท่านั้น Topics: HuaweiReviewMobile