แม้จะผ่านไปแล้วไม่กี่วันสำหรับงาน Startup Thailand 2016 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิต์ ในวันที่สองมีเสวนาที่น่าสนใจโดยเฉพาะเสวนาเรื่อง Corporate Venture Investment Strategy in Startups ที่กล่าวถึง Corporate Venture Capital ในมุมมองของธนาคารและบริษัทสื่อสารยักษ์ใหญ่ว่ามีมุมมองยังไงกับสตาร์ทอัพในช่วงนี้ ผู้ร่วมเสวนามีดังต่อไปนี้ คุณธนพงษ์ ณ ระนอง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการส่วนงานบริษัทรวมทุน บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) คุณปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท Ascend Group จำกัด คุณสมโภชน์ จันทร์สมบูรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรมธุรกิจและ DTAC Accelerate คุณสมคิด จิรานันตรัตน์ รองประธานบริษัท กสิกรบิสิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป จำกัด คุณอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและรองประธานกรรมการบริหารธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) คุณวีระศักดิ์ สุตัณฑวิบูลย์ รองผู้จัดการใหญ่ ผู้รับผิดชอบสายลูกค้าธุรกิจรายกลางธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ขอใช้ตัวย่อของบริษัทแทนผู้ร่วมเสวนานะครับ จะเข้าใจได้ง่ายกว่า มุมมอง Corporate Venture Capital (CVC) เป็นอย่างไร มุมมองของฝั่งบริษัทสื่อสาร INTUCH: CVC คือเอาเงินจากบริษัทตัวเองมาลงทุน เป็นเงินสดจาก Balance Sheet ไม่ได้เน้นผลตอบแทน แต่เน้นจาก Strategic มากกว่า Ascend Group: VC จะต้องรู้ว่า Exit กิจการของสตาร์ทอัพภายในกี่ปี ถ้าสมมติตลาดไม่ดี สตาร์ทอัพ Exit ไม่ได้ ก็จะเกิดแรงกดดันกับสตาร์ทอัพ ซึ่ง CVC มีความอดทนกับเงินลงทุนมากกว่า อีกทั้งยังมีชื่อเสียงหากมีการระดมทุนครั้งถัดไปของสตาร์ทอัพ อีกทั้งยังสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับสตาร์ทอัพได้ดีกว่า DTAC Accelerate: ของ DTAC ส่วนใหญ่เริ่มต้นใน Super Early Stage มุมมองของฝั่งธนาคาร KBANK: ไม่ได้มองมุมมองเหมือนคนอื่นทั่วไป กสิกรไทยมองว่าจะช่วยให้เค้าประสบความสำเร็จมากขึ้น เราต้องช่วยเขาได้ มี Synergy มีโครงสร้างพื้นฐานไอที มีฐานลูกค้า มีวิธีการต่างๆ ให้สตาร์ทอัพเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน BBL: มีการลงทุนหลายอย่างทั้ง VC ทั้ง Private Equity แต่ถ้าหากระยาวมากๆ อาจโยกไปลงทุนผ่าน Portfolio ของธนาคารเลยได้ ธนาคารพึ่งขออนุญาตจาก ธปท. ตั้ง Venture Capital ขึ้นมา และธนาคารมองว่ามี Connection จากเครือข่ายของธนาคารช่วยให้สตาร์ทอัพประสบความสำเร็จได้ไวขึ้น SCB: ธนาคารมองตัวเองแล้วพบว่าทุกวันนี้ไม่เหมือนเดิม เทคโนโลยีมาไวมากขึ้น ธนาคารได้ตั้งบริษัทใหม่ Digital Venture ขึ้นมา ซึ่งเน้นด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับธนาคาร Corporate Venture Capital ไทยอยู่จุดไหนของโลกแล้ว มุมมองของฝั่งธนาคาร BBL: บ้านเราไม่ถึงกับช้า แต่คืบหน้าไปค่อนข้างเร็ว ธนาคารสนใจด้าน FinTech เพราะจะทำให้ลูกค้าสะดวกมากขึ้น และจะเปลี่ยนวิธีทำธุรกิจของธนาคารไปมาก KBANK: สตาร์ทอัพบางแห่งมีเงินเยอะ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ปัญหาของ FinTech คือหาลูกค้าไม่ได้ ทางธนาคารก็จะเข้าไปเสริมให้ เงินไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่สิ่งสำคัญคือต่างคนต่างมีจุดแข็งตรงไหนแล้วนำมาเสริมกัน มุมมองของฝั่งบริษัทสื่อสาร DTAC Accelerate: กลุ่มสื่อสารเรื่องเทคโนโลยีไปไวกว่ากลุ่มของธนาคาร กลุ่มบริษัทสื่อสารจะช่วยเสริมตรงนี้ให้ แต่ท้ายที่สุดแล้ว FinTech ก็ต้องคู่กับธนาคารอยู่ดี ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม DTAC มองว่ากลุ่มที่น่าสนใจในอนาคตคือ Health Tech เนื่องจากสังคมไทยต่อไปจะมีผู้สูงอายุมากขึ้น INTUCH: เราเปิดตัว CVC พร้อมกับ SingTel ทุกวันนี้ SingTel Innov8 (ส่วนของ INTUCH คือ InVent) ลงทุนในสตาร์ทอัพทั่วโลกเกิน 100 ล้านเหรียญสหรัฐแล้ว ส่วนทาง INTUCH เป็นที่สองคือ 10 ล้านเหรียญ ซึ่ง CVC ของ INTUCH ซึ่งเน้น Strategic ในกลุ่มเพื่อเสริมธุรกิจ ไปลองลงทุน หรือเรียนรู้ ถ้าดีมากๆ อาจซื้อกิจการไปเลย Ascend Group: FinTech ปัญหาที่สำคัญอีกเรื่องคือความเชื่อใจ ยังต้องพึ่งพาร์ตเนอร์ ทาง Ascend Group เน้นไปที่ True Money ส่วนด้านอื่นก็สนใจในด้าน E-Commerce ซึ่งของ Ascend ก็มี iTrueMart อยู่แล้ว วัฒนธรรมองค์กรแบบธนาคาร แล้วกลับมาทำ Corporate Venture Capital จะปรับตัวยังไง มุมมองของฝั่งธนาคาร SCB: สร้าง Lab เอาไว้ทดลองเทคโนโลยี มีงบ 500 ล้านบาทมาพัฒนาและวิจัย ซึ่งงบส่วนนี้ผลตอบแทนอาจไม่มี การตัดสินใจที่จะทดลอง กระบวนการลองผิดลองถูกที่ดีที่สุดคือการแยกบริษัทออกมา การที่จะหวังว่าได้กำไรที่ได้นั้นเป็นเรื่องท้ายๆ แต่เรื่องหลักคือประเด็นคือการนำเทคโลยีมาใช้ BBL: ธนาคารกรุงเทพกล้าและอยากจะลอง และเราพึ่งลงทุนไปในเรื่อง BioTech ไปไม่นาน ผ่าน Private Equity ธนาคารกรุงเทพ ตอนนี้รออนุมัติวงเงิน 2,000 ล้านบาทสำหรับสตาร์ทอัพ อุปสรรคใหญ่ๆ คือวัฒนธรรมเรามีความเป็นเจ้าของเยอะ ซึ่งลำบากในการเข้าไปร่วมกับอีกฝั่ง ซึ่งมองว่าท้ายสุดกลุ่มเหล่านี้จะกลับมาเป็นลูกค้าของธนาคาร KBANK: ความสามารททางเทคโนโลยีโดนลดลงไป เราจะนำกลับมาให้ได้ที่ KBTG ประเด็นสำคัญคือสตาร์ทอัพอย่าง FinTech สามารถเพิ่มมูลค่าให้ทางธนาคารได้หรือเปล่า ทางธนาคารมองสองเรื่องสำคัญๆ จาก 6 เรื่องคือ Machine Learning และ Blockchain มุมมองของฝั่งบริษัทสื่อสาร DTAC Accelerate: เหมือนบ้างหลังเล็ก เราเชื่อว่าเราเปลี่ยนแปลงได้ ถ้าบริษัทแม่อย่าง Telenor อยากได้นวัตกรรมอะไรใหม่ๆ ให้ลูกค้า DTAC Accelerate ก็สามารถมีนวัตกรรมใหม่ๆ พร้อมได้ทันทีจากการที่รับเข้ามา ซึ่งแตกต่างกับทางบริษัทใหญ่ๆ และยังเป็นโมเดลให้กับ 13 ประเทศที่ Telenor ไปลงทุน เช่น Digi ของมาเลเซีย หรือ Telenor บังคลาเทศ INTUCH: การที่ช่วยให้สตาร์ทอัพโตและเพิ่มมูลค่านั้น สุดท้ายผลดีก็จะกลับมาที่บริษัทเอง Ascend Group: TRUE มี Accelerate มาสามปี โตพอๆ กับ DTAC Accelerate สิ่งที่น่าสนใจคือสตาร์ทอัพสร้างธุรกิจมีกำไรอย่างยั่งยืน มุมมอง Corporate Venture Capital กับสตาร์ทอัพในด้านอื่นๆ KBANK: ไม่แน่ใจว่าธนาคารเก่งด้านนี้หรือเปล่า แต่สนใจ Biometric หรือถ้าช่วยในมุมยอดขาย เรื่องช่องทางต่างๆ ช่วยได้ BBL: ไม่ได้เน้น FinTech อย่างเดียว ปัญหาคือสมมติอย่าง BioTech ทำยังไงให้เงินไปแล้วทำให้คุยกันรู้เรื่องระหว่างสถาบันศึกษากับลูกค้า ยังมีปัญหาหลายๆ อย่าง และกระบวนการหลายๆ อย่างที่ยุ่งมาก SCB: มิติของสตาร์ทอัพมีหลายมิติ การให้ความสำคัญเรื่อง R&D กับนวัตกรรมไม่ได้มาเพียงข้ามคืน การมองด้านธุรกิจให้ครบธนาคารจะเป็นหนึ่งที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จ การที่มี VC แบบนี้แล้วทำให้ธนาคารกล้าลงทุนมากขึ้น Ascend Group: อาจไม่ลง BioTech อาจเป็น CP ที่สนใจลงทุน ซึ่งอาจเป็นข้อเสีย CVC INTUCH: IT มีความสำเร็จเยอะกว่า BioTech ซึ่ง IT มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า เช่น Cloud ฯลฯ มี Ecosystem ดีกว่า DTAC Accelerate: ต้องกลับมามองว่า Startup คืออะไร ขายก๋วยเตี๋ยว 100 สาขา ต้องมีคน 100 สาขา แต่สตาร์ทอัพสายเทคโนโลยียิ่งทำยิ่งถูกลง BioTech เลยดู Sexy น้อยกว่า แต่ถ้าสำเร็จขึ้นมาอาจโตได้มากกว่า เรื่องที่น่าสนใจอื่นๆ INTUCH: สนใจเรื่อง Payment Wallet ยินดีคุยทันที Ascend Group: สำคัญที่ Regualator ว่าต้องถูกกฏหมาย P2P Lending น่านสนใจ เพราะหนี้นอกระบบธนาคารแห่งประเทศไทยกำลังทำงานด้านนี้อยู่ Ascend Group มอง Insurance Tech น่าสนใจ DTAC Accelerate: มอง Insurance Tech ว่าโต แต่ประเด็นคืออะไรที่แก้ปัญหาหรือเป็นการท้าทายมากกว่า BBL: ธนาคาร สนใจ Payment อย่าง Cash Management อย่าง Lending คือกระทบหลายด้านมาก KBANK: 5-10 ปีข้างหน้าอยากได้ Blockchain กับ Machine Learning สองสิ่งนี้จะเปลี่ยนหลายๆอย่าง แต่ถ้าทุกวันนี้ระบบ Payment ซึ่งการแข่งขันสูงมากๆ SCB: คงไม่ต่างกับคนอื่น แต่อนาคตไม่รู้ว่าอะไรถูกหรืออะไรผิด มองว่าการทดลองสำคัญกว่า สามารถรับชมวิดีโอย้อนหลังของเสวนานี้ได้นะครับ Corporate Venture Investment Strategy in Startups Topics: Startup ThailandSpecial ReportVenture Capital