แอปเปิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ตามปีการเงินบริษัท 2016 (มกราคม-มีนาคม 2016) มีรายได้รวม 50,557 ล้านดอลลาร์ ลดลง 13% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 10,516 ล้านดอลลาร์ ลดลง 22.5% ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 39.4% เทียบกับปีก่อนที่ 40.8% รายได้ที่ลดลงของแอปเปิลในไตรมาสที่ผ่านมา ถือเป็นรายได้ลดลงแบบเทียบปีต่อปีเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2003 โดยซีอีโอทิม คุก ระบุว่าแอปเปิลดำเนินงานออกมาได้ดี ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวนสูง เนื่องจากแอปเปิลมียอดขายจากต่างประเทศถึง 67% ของรายได้รวม สำหรับยอดขายรายผลิตภัณฑ์นั้น iPhone ขายได้ 51.2 ล้านเครื่อง ลดลง 16% จากปีก่อน ส่วน iPad ขายได้ 10.2 ล้านเครื่อง ลดลง 19% และ Mac ขายได้ 4.03 ล้านเครื่อง ลดลง 11% ในช่วงแถลงผลประกอบการกับนักวิเคราะห์ ทิม คุก และซีเอฟโอ Luca Maestri ได้เปิดเผยประเด็นน่าสนใจหลายอย่างดังนี้ อัตราการอัพเกรด iPhone ตอนนี้ยังสูงกว่า iPhone 5s แต่น้อยกว่าตอน iPhone 6 ที่ทำไว้ดีมากๆ อัตราคนซื้อ iPhone ที่ย้ายจาก Android ยังสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา รายได้จากบริการอินเทอร์เน็ต (App Store, Apple Music ฯลฯ) ทำสถิติสูงสุดในไตรมาสที่ผ่านมา ผู้สมัครใช้ Apple Music แบบเสียเงินมี 13 ล้านคน ไม่เปิดเผยยอดขาย Apple Watch ระบุเพียงยังทำได้ตามที่ประเมินไว้ ทั้งมองว่า Apple Watch จะเหมือนกับ iPod คือขายได้ดีเพื่อเป็นของขวัญในช่วงเทศกาล iPhone SE ได้รับการตอบรับสูงกว่าที่แอปเปิลคาด โดยมีจากลูกค้า 2 กลุ่ม คือคนต้องการสมาร์ทโฟนเครื่องเล็ก กับคนที่ใช้ iPhone อยู่แล้ว แต่รอซื้อรุ่นใหม่ที่ราคาไม่แพง การเติบโตของ iCloud รวดเร็วมากกว่า App Store ทิม คุก มองตลาดอินเดียเป็นโอกาสใหม่มาก โดยบอกว่าอินเดียตอนนี้เหมือนกับจีนเมื่อ 7-10 ปีที่แล้ว ที่มา: แอปเปิล และ Business Insider Topics: AppleFinancial Report