ข่าวใหญ่ของโลกไอทีสัปดาห์นี้คือ อภิมหาดีล Dell ซื้อ EMC ซึ่งการซื้อกิจการใหญ่ขนาดนี้ย่อมมีผลกระทบในวงกว้าง เว็บไซต์ Computerworld จึงประเมินผลที่เกิดขึ้นจากดีลนี้ ดังนี้ Dell กับ EMC มีความร่วมมือกันมานานแล้ว โดย EMC มีรายได้จากการขายผ่าน Dell ประมาณ 8-9% ของรายได้ทั้งหมด ส่วน Dell มีรายได้ 50% ของธุรกิจสตอเรจจากการขายสินค้าของ EMC แต่ภายหลัง Dell เริ่มไล่ซื้อบริษัทสตอเรจเข้ามาะสมในมือมากขึ้น ทำให้ทั้งสองบริษัทเริ่มมีสถานะเป็นคู่แข่งกันมากขึ้น การที่ Dell ซื้อ EMC ย่อมต้องปลดพนักงานส่วนที่ซ้ำซ้อนกัน บริษัททั้งสองมีขนาดใหญ่มากอยู่แล้ว Dell มีพนักงาน 110,000 คน ส่วน EMC มี 70,000 คน ยังไงก็ต้องมีปลดคน เพียงแต่ยังไม่บอกว่าจะปลดเท่าไร การซื้อกิจการครั้งนี้ทำให้ Dell ขึ้นมาเป็นผู้เล่นอันดับหนึ่งของโลกสตอเรจ อย่างไรก็ตาม โลกสตอเรจยังมีผู้เล่นอื่นๆ อีกมาก ทั้ง Oracle, HP, IBM, NetApp ดังนั้นการแข่งขันในตลาดยังมีต่อไป ทิศทางการสร้างอาณาจักรขนาดใหญ่ของ Dell สวนทางกับคู่แข่งอย่าง HP ที่แยกบริษัทออกเป็น 2 ส่วน ในขณะที่ IBM พยายามหนีไปเล่นในตลาดซอฟต์แวร์และ AI แทนฮาร์ดแวร์ เพิ่มเติม เนื่องจากผมมางานของ NetApp ซึ่งเป็นคู่แข่งของ EMC ในสายสตอเรจเช่นกัน จึงได้ความเห็นจากคนในวงการท่านหนึ่งที่ร่วมโต๊ะอาหารกัน (ไม่ประสงค์ออกนามเนื่องจากอาจมีผลกระทบกับนายจ้าง) ที่ตั้งข้อสังเกตว่า บริษัทที่ได้รับผลกระทบจากดีลนี้มากที่สุดคือ Nutanix สตาร์ตอัพด้านสตอเรจแนว hyper-converged ที่เป็นพันธมิตรกับ Dell อยู่ก่อน การที่ Dell ซื้อ EMC ซึ่งมีสินค้าตระกูล hyper-converged เช่นกัน อาจทำให้ Nutanix ต้องหาพันธมิตรด้านเซิร์ฟเวอร์รายใหม่แทน ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นใคร นอกจากนี้ อีกประเด็นที่น่าสนใจในดีล Dell/EMC คือ VMware ที่ EMC ถือหุ้นใหญ่อยู่ เพราะเทคโนโลยีของ VMware ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในโลกสตอเรจ (EVO:RAIL) การที่ VMware ไปอยู่ใต้สังกัดของ Dell อาจส่งผลต่อการแข่งขันในตลาด จึงมีความเป็นไปได้ว่าเราจะได้เห็น VMware แยกเป็นบริษัทอิสระ โดยที่ Dell/EMC ยังถือหุ้นบางส่วนแต่ไม่ได้ถือเยอะประมาณ 80% อย่างในปัจจุบัน ที่มา - Computerworld EMC, Dell, Enterprise, VMware, Nutanix, Storage