Asus เปิดตัว Asus Zenfone 5 ในงาน MWC 2018 และกำลังจะเข้ามาขายในไทย โดยตัว Zenfone 5 ชูจุดเด่น AI ที่ช่วยการทำงานในหลายด้าน โดยเฉพาะกล้องถ่ายรูป และยังมาพร้อมกับชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 636 (เป็นชิปเซ็ตสำหรับสมาร์ทโฟนระดับกลาง) Blognone มีโอกาสได้ลองจับถือ จึงทำมินิรีวิวมาฝาก รูปลักษณ์ดีไซน์ ใดๆ ในโลกล้วนมี notch หรือร่องแหว่งแบบ iPhone X, Asus Zenfone 5 ก็มีร่องแหว่งกับเขาเช่นกัน กล้องคู่ด้านหลังในแนวตั้ง และแป้นสแกนนิ้วมือตรงกลาง วัสดุด้านหลังเครื่องมีความมันเงาให้ความรู้สึกพรีเมี่ยม (แต่ก็เป็นรอยนิ้วมือง่ายมาก) Zenfone 5 มีขนาดหน้าจอกว้าง 6.2 นิ้ว สัดส่วน 19:9 หน้าจอเป็น Super Amoled วัสดุทั้งหน้าและหลังตัวเครื่องเป็นกอริลลากลาส กระจกขอบโค้ง น้ำหนัก 155 กรัม พอร์ทหูฟัง 3.5 มม. ด้านล่าง และพอร์ทชาร์จแบตเตอรี่ USB-C ด้านขวาของเครื่องเป็นปุ่มปรับเสียง และปุ่มเปิด - ปิด เครื่อง และถาดใส่ซิมอยู่ซ้ายมือของตัวเครื่อง Asus Zenfone 5 พยายามชูดจุดแข็งเรื่องกล้องเป็นหลัก และยังบอกอีกว่าเป็นกล้องที่มาพร้อม AI คือ AI Scene Detection ที่เรียนรู้จากคลาวด์ สามารถจับข้อมูลรูปภาพได้ 16 แบบ โดยเรียนรู้จากชุดข้อมูลของเซิร์ฟเวอร์ ASUS และจะทำงานได้ดีขึ้นเมื่อผ่านการอัพเดตเฟิร์มแวร์สมาร์ทโฟน (ทาง ASUS ระบุว่าข้อมูลรูปภาพผู้ใช้จะไม่ถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ ASUS ส่วนรูปภาพที่ใช้อ้างอิงมาจากบุคคลที่สาม และช่างภาพของ ASUS) Asus Zenfone 5 มีกล้องหลังสองตัวเป็นกล้องมุมกว้าง 120 องศา รูรับแสง F2.28, 8 ล้านพิกเซล และกล้องหลักที่มาพร้อมเซนเซอร์ IMX363 ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง F1.8 และมีช่องเซนเซอร์ Color Correction Sensor และแฟลชที่รวมไว้ในช่องเดียวกัน ส่วนกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.0 มาดูตัวอย่างรูปถ่ายกัน กล้องคู่หลัง Asus Zenfone 5 มีทั้งกล้องจับภาพปกติกับภาพกว้าง โดยกล้องหลักมีรูรับแสงกว้าง F1.8 จึงสามารถถ่ายรูปกลางคืน แสงน้อยได้ดีระดับหนึ่ง เทียบกับภาพมือถือที่ใช้อยู่ตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่รอด ลองถ่ายแบบภาพแสงน้อยสุดๆ ยังมี noise ประมาณหนึ่ง แต่ดวงไฟยังสวยอยู่ ภาพมุมปกติกับมุมกว้าง มุมกว้าง ลองถ่ายภาพโหมดโปร จับวัตถุด้านหน้า manual focus ส่วนกล้องหน้ามีโหมด Portrait เบลอฉากหลังอัตโนมัติ ซ้ายโหมดปกติ ขวาโหมด Portrait Asus Zenfone 5 ยังมาพร้อม ZeniMoji หรืออีโมจิขยับตามสีหน้าเราอันเป็นฟีเจอร์สมัยนิยมจากการลองใช้ ถือว่ายังเคลื่อนไหวได้ช้าอยู่มาก ความสามารถอื่น Asus Zenfone 5 มาพร้อม AI ที่ช่วยทำงานอื่นอีก เช่น AI Photo Learning แนะนำการปรับแต่งภาพให้ในแกลเลอรี่ เรียนรู้จากการตั้งค่าของผู้ใช้ AI Boost ที่ ASUS ระบุว่าช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเมื่อต้องใช้แอพที่ใช้พลังงานสูง อย่างเกม เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานประมาณ 12.7% แต่ผู้เขียนไม่ได้ลองใช้มือถือในการเล่นเกมหนักๆ ความสามารถทางเทคนิค Qualcomm Snapdragon 630 แรม 4GB ในความจุ 64GB แบตเตอรี่ 3,300 mAh ที่มาพร้อม AI Charging ชะลอการชาร์จข้ามคืนได้ ไม่ให้แบตเต็มเร็วเกินไปเวลานอน ช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ หน้าจอ 6.2 นิ้ว, Full HD ความละเอียด 2246x1080, 550nits brightness กล้องหลักสองตัว ตัวแรก 12MP, F1.8 และเซนเซอร์ SonyIMX363 ตัวรอง 8MP, F2.2 ถาดซิม Hybrid รองรับ Dual 4G Dual VoLTE ระบบปฏิบัติการ ZenUI5.0 บน Android Oreo และการันตีรองรับ Android P รองรับ NFC และ Google Pay ระบบเสียง DTS Headphone X / Hi-Res Audio ลำโพงคู่ NXP Smart AMP สรุป สเปครวมๆ ถือว่าทำได้ดี ถ้าราคาไม่แพงหรืออยู่ราวๆ หมื่นนิดๆ จะถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่คุ้มค่า (ยังไม่ประกาศราคาและวันขาย) ระบบเสียงดี มีการตัดรายละเอียดของเสียงอัตโนมัติเมื่ออยู่ข้างนอก มีประโยชน์ตอนต้องวิดีโอคอลกลางแจ้ง ZeniMoji เคลื่อนไหวตามหน้าเราช้ามากเทียบกับแบรนด์อื่น การถ่ายภาพแสงน้อยมากๆ ก็เอาไม่อยู่ แต่ใช้โหมดโปรทดแทนกันได้ Topics: ASUSZenfoneReview