รีวิว Galaxy S9+ ความดีงามของกล้องกับไมเนอร์เชนจ์จาก Galaxy S8

หัวข้อกระทู้ ใน 'เทคโนโลยี' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 14 มีนาคม 2018.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    เปิดตัวได้ค่อนข้างเงียบกับกับ Galaxy S9 | S9+ ที่แทบไม่มีอะไรโดดเด่นหรือเปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นก่อนหน้ามากนัก หลักๆ มีเพียงกล้องที่ปรับรูรับแสงได้และลูกเล่น AR Emoji ที่ไม่พ้นโดนแซะไปตามระเบียบ

    ส่วนเครื่องที่ผมจะรีวิวเป็นตัวท็อป Galaxy S9+ ที่ฮาร์ดแวร์และฟีเจอร์ต่างๆ ไม่แตกต่างจาก Galaxy S9 นอกจากเรื่องกล้องที่เป็นกล้องคู่ ซึ่งรีวิวนี้จะเน้นไปที่ฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเติมจากรุ่นเก่าเป็นหลักครับ

    [​IMG]

    ตัวเครื่องที่เป็น Minor Change


    รูปลักษณ์ภายนอกของ Galaxy S9 | S9+ แทบไม่แตกต่างจาก S8 | S8+ มากนัก

    [​IMG]

    [​IMG]ซ้าย S9 ขวา S8

    หน้าจอยังคงเป็น Infinity Display ความละเอียด QHD+ sAMOLED สีสันสดใส สู้แดดได้ดีเหมือนเคย โดย S9 ขนาด 5.8 นิ้วและ S9+ อยู่ที่ 6.2 นิ้ว

    [​IMG]

    วัสดุของตัวเครื่องด้านหลังยังคงเป็นกระจกเช่นเดิม ซึ่งถ้าไม่ใส่เคสเป็นรอยมันและคราบง่ายมาก ขณะที่เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือขยับจากด้านข้างกล้องมาอยู่ด้านล่างแล้ว ทำให้การวางนิ้วเพื่อสแกนง่ายและสะดวกกว่าเดิมมาก

    อย่างไรก็ตามด้วยความที่วัสดุของเซ็นเซอร์เป็นเนื้อเดียวกับฝาหลัง ทำให้การสแกนมีปัญหาอยู่บ้างถ้าพื้นผิวเซ็นเซอร์เป็นรอยนิ้วมือหรือคราบมัน ขณะที่ความเร็วในการสแกนรู้สึกถึงความดีเลย์ในระดับมิลลิวินาที (เทียบกับ Pixel 2 ที่ใช้อยู่ที่วางนิ้วปุ๊บขึ้นปั๊บ)

    [​IMG]

    ความดีงามเล็กๆ ของ S9 | S9+ คือพอร์ทหูฟัง 3.5 มม. กลับมาแล้ว โดยซัมซุงแถมหูฟัง AKG มาให้ในกล่องด้วย ส่วนลำโพงเป็นลำโพงคู่ ข้าง USB-C และด้านบนของหน้าจอ

    [​IMG]

    ด้านซ้ายเป็นปุ่มปรับเสียง (คนใช้มือขวาลำบากเอาเรื่อง) และปุ่ม Bixby

    [​IMG]

    ด้านขวาเป็นปุ่ม Power/ล็อกหน้าจอ

    [​IMG]

    ถาดใส่ซิมอยู่ด้านบน

    [​IMG]

    Intelligent Scan เหล้าเก่าในขวดใหม่ ไม่ได้ปลอดภัยมากขึ้น


    ของใหม่ใน S9 | S9+ ที่เอามารับมือกับ Face ID โดยเฉพาะคือ Intelligent Scan เป็นการผสานเทคโนโลยีสองตัวคือ Iris Scanner สแกนม่านตาร่วมกับ Face Recognition โดยการทำงานของ Intelligent Scan คือจะสแกนใบหน้าแบบ 2 มิติ (เหมือนใน S8) ก่อน หากไม่สำเร็จจึงจะสแกนม่านตา หากยังไม่สำเร็จอีก จะสแกนทั้งสองอย่างพร้อมกัน ทำให้ในหลายๆ กรณีโดยเฉพาะในที่แสงน้อย Intelligent Scan จะช้ามาก

    และเช่นเดิมเหมือน S8 ซัมซุงบอกว่า Intelligent Scan เอาไว้ใช้ปลดล็อคเครื่องเท่านั้น ไม่สามารถใช้ยืนยันตัวตนด้านความปลอดภัยอย่างการใช้ Samsung Pay หรือ Secure Folder ได้

    [​IMG]

    กล้องและ AR Emoji


    ความดีงามหลักๆ ของ S9+ คือกล้องคู่หลังที่สามารถปรับรูรับแสงได้เอง (f/1.5 และ f/2.4) โดยโหมดออโต้จะปรับค่ารูรับแสงให้อัตโนมัติ ทำให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยคือไม้เด็ดของ S9+ เครื่องนี้เลยถึงขนาด DxOMark ให้คะแนนเป็นอันดับ 1

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    เทียบภาพนิ่งในที่แสงน้อยมากๆ กับ Pixel 2 เห็นชัดว่า S9+ สว่างกว่า

    [​IMG]S9+

    [​IMG]Pixel 2

    ส่วนการถ่ายภาพเวลากลางวันก็ดีงามตามท้องเรื่อง ภาพคม สีฉูดฉาด

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ด้าน Live Focus ทีใช้ซอฟต์แวร์ละลายหลัง ยังคงไม่ต่างจากเดิม เรื่องการแยกแยะบริเวณปลายของวัตถุ อาทิ ใบไม้ที่สีคล้ายๆ กันซ้อนกันหรือปลายผม

    [​IMG][​IMG]

    สำหรับ AR Emoji นั้นจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกกล้องหน้า ตอนสร้าง Emoji จะต้องถ่ายภาพหน้าตัวเอง แล้วเลือกเพศ เลือกเสื้อผ้าหน้าผมที่ต้องการ ก่อนที่ซอฟต์แวร์จะประมวลผลเอาไปทำเป็นหน้าตัวตุ๊กตาให้ พร้อมไฟล์ภาพ GIF มาให้จำนวนหนึ่ง ขณะที่การเล่นกับ AR ส่วนตัวรู้สึกว่ายังฝืนๆ ไม่ลื่นและเนียนเหมือนกับใน iPhone X ทำให้ที่พอเล่นได้หลักๆ มีแค่ GIF ที่ซอฟต์แวร์ทำมาให้มากกว่า

    [​IMG]

    ตอนสร้าง AR Emoji

    [​IMG]

    [​IMG][​IMG]

    ตัวอย่างไฟล์ GIF

    แบตเตอรี่


    Galaxy S9+ ให้แบตเตอรี่มา 3,500 mAh สามารถใช้งานทั้งวันแถมเล่นเกมประปรายได้สบาย โดยโหมดประหยัดพลังงานของซัมซุงค่อนข้างมีประโยชน์มาก ในการช่วยลดการทำงานเบื้องหลังหลายๆ อย่างเพื่อประหยัดแบตเตอรี่ลงแต่แทบไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้งานโดยรวม

    [​IMG]

    สรุป


    เมื่อจุดเด่นหลักๆ ของ Galaxy S9 และ S9+ คือกล้อง ทำให้เหตุผลในการอัพเกรดจาก Galaxy S8 และ S8+ น้อยมากจนถึงไม่มีเลย แต่ถ้าไม่เคยใช้ซัมซุง หรือใช้รุ่นที่เก่ากว่า S8 หรือรุ่นล่างกว่า Galaxy S9 และ S9+ ก็พอจะดูเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

    [​IMG]

    ข้อดี

    • หน้าจอสีสวย คมชัด สู้แดดได้ดี
    • กล้องหน้าและหลัง ถ่ายชัดและสวยทั้งกลางวันกลางคืน
    • เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือย้ายมาในตำแหน่งที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น
    • สี Lilac Purple สวยมาก (ส่วนตัว)

    ข้อเสีย

    • Intelligent Scan ไม่ได้ปลอดภัยมากไปกว่าการใช้ Iris Scanner หรือการสแกนหน้าอย่างเดียว
    • เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเป็นพื้นกระจก เป็นรอยมันง่าย ส่งผลให้สแกนติดบ้างไม่ติดบ้าง ต้องเช็ดอยู่เนืองๆ
    • ใช้อวดไม่ได้ คนไม่รู้ว่าเราถือ S9 | S9+ อยู่ เพราะมันเหมือน S8
    Topics: Galaxy S9SamsungMobileReview
     

แบ่งปันหน้านี้