หลังจากช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมามีประเด็นว่า กสทช.กำลังผลักดันหามาตรการกำกับดูแลกิจการ OTT (Over-The-Top) พร้อมตั้งอนุกรรมการขึ้นมาดูแล วันนี้ทางกสทช. ได้จัดการบรรยายในประเด็นเรื่องการกำกับดูแล OTT นี้โดย พ.อ. ดร. นที ศุกลรัตน์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ประธาน กสท. ย้ำว่าการบรรยายนี้ เป็นเพียงการนำเอา "งานวิจัยหรือผลการศึกษาของทีมที่ปรึกษา" มานำเสนอเท่านั้น ซึ่งรายละเอียดนั้นเกี่ยวกับรูปของสื่อ รูปแบบการนำเสนอเนื้อหาและโมเดลการหารายได้ที่เปลี่ยนแปลงไปทั่วโลก จากการแพร่หลายของอินเทอร์เน็ต รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปดูวิดีโอออนดีมานด์รูปแบบต่างๆ บนอินเทอร์เน็ตกันมากขึ้น *พันเอก ดร. นที ศุกลรัตน์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ประเด็นที่น่าสนใจคือ พ.อ. ดร. นที ได้ยกตัวอย่าง 3 ประเทศที่มีการกำกับดูแลกิจการ OTT ได้แก่สหราชอาณาจักร, เกาหลีใต้และสิงคโปร์ โดยที่ไม่พูดถึงสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นตลาด OTT ที่ค่อนข้างใหญ่ เพราะกฎหมายด้านนี้ของสหรัฐไม่ได้มีโมเดลเดียว แต่แตกต่างกันไปตามแต่ละมลรัฐ สหราชอาณาจักร มีหน่วยงานกำกับดูแลชื่อ Ofcom (Office of Communication) ลักษณะเดียวกับ กสทช. เป็นผู้ดูแลเรื่องการอนุญาตเนื้อหาและคุ้มครองผู้บริโภค ร่วมกับ Advertising Standard Authority ดูแลเรื่องโฆษณา Ofcom กำหนดให้ผู้ให้บริการท้องถิ่นจะต้องแจ้งข้อมูลกับ Ofcom ก่อนเริ่มให้บริการในสหราชอาณาจักร ผู้ให้บริการจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านเนื้อหา อย่างการคุ้มครองเด็กและเยาวชน, Hate Speech, การเข้าถึงของผู้พิการ, สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้ และการส่งเสริมเนื้อหาที่ผลิตในยุโรป เกาหลีใต้ Korea Communication Commission (KCC) ร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์, ไอซีทีและการวางแผนอนาคต (MSIP) เป็นผู้กำกับดูแล OTT โดยมีกฎหมายหลักคือ Internet Multimedia Broadcasting Business Act (2013) ผู้ให้บริการการแพร่ภาพและเสียงผ่านอินเทอร์เน็ต จะต้องขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจจาก MSIP และต้องรายงานและลงทะเบียนเนื้อหาด้วย คอนเทนท์บน OTT ถูกกำกับดูแลเช่นเดียวกับสื่อประเภทอื่น อาทิ ความรุนแรงและสิ่งเสพติด สิงคโปร์ ผู้กำกับดูแลคือ Infocomm Media Development Authority ผู้ให้บริการ OTT ทั่วไปถือว่าเข้าข่าย Internet Content Provider จะได้รับใบอนุญาตอัตโนมัติและต้องปฏิบัติตาม Internet Code of Practice OTT แบบจ่ายเงินดูรายเดือน (SVoD) นับเป็น Pay TV ต้องได้รับใบอนุญาต Subscription Television Service License กฎเกณฑ์บังคับใช้เหมือนกันหมดทั้งผู้ให้บริการท้องถิ่นและต่างประเทศ ส่วนกฎเกณฑ์ในการกำกับดูแลของไทยนั้น ประธาน กสท. ระบุว่าคงจะแตกต่างจากของประเทศอื่นๆ เนื่องจากประเทศเราก็มีบริบทและสภาพแวดล้อมเฉพาะตัว ขณะที่รายละเอียดยังไม่สามารถบอกอะไรได้ เพราะตอนนี้เป็นเพียง Day 1 เท่านั้น ยังไม่มีข้อสรุป รูปแบบหรือความชัดเจนใดๆ ทั้งสิ้น และคาดว่าภายในระยะเวลาราว 4-5 เดือนเป็นอย่างเร็ว น่าจะพอมีได้รายละเอียดออกมาชัดเจนมากยิ่งขึ้น Topics: NBTCLawsThailandOv