ทดสอบ AMD Ryzen 7 รู้ทุกอย่างแบบรวบรัด ซีพียูความหวังใหม่จาก AMD

Discussion in 'เทคโนโลยี' started by iPokz, Apr 23, 2017.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    เมื่อกลางเดือนมีนาคม 2017 AMD เปิดตัวซีพียูตระกูลใหม่ในชื่อ Ryzen (ไรเซน; แผลงจาก risen) ที่พัฒนาจากสถาปัตยกรรม Zen ต่อจากชิปตระกูล FX

    AMD เข็น Ryzen ออกมาด้วยรุ่นท็อปสุดอย่าง R7 1800X, R7 1700X และไม่กี่สัปดาห์ให้หลังก็เติมด้วย R5 รุ่นรองเบอร์ต่างๆ ทั้ง R5 1400, R5 1500X, R5 1600 และ R5 1600X ราคาเริ่มต้นหกพันกว่าบาท ท่ามกลางผลทดสอบด้านประสิทธิภาพที่เคลมว่าชนะระบบคู่แข่งราคาแพงกว่าหลายเท่าในบางงาน

    โอกาสนี้ Blognone ขอสรุปเรื่องราว ณ เวลานี้ของชิปที่เป็นความหวังใหม่อันน่าลุ้นจาก AMD ด้วยการสืบค้นและทดสอบเองจากเครื่องที่ได้รับมาลองระยะหนึ่ง

    [​IMG]

    [​IMG]

    หน้าตาชิป Ryzen เวอร์ชั่นจำหน่ายจริง (ในรูปคือ R7 1700) ตรงมุมชิปมีการคีย์เครื่องหมายป้องกันการติดตั้งผิด ด้านหลังมีเป็นแบบพินแหว่งพื้นที่สี่เหลี่ยมตรงกลางเหมือนสมัยซ็อกเก็ต 754 (K8 ยุคแรก)

    Ryzen เปิดตัวแล้วรุ่นไหนบ้าง?

    [​IMG]

    ถึงตอนนี้ ในบ้านเรามีซีพียู AMD Ryzen พร้อมวางจำหน่ายแล้ว 7 รุ่น ที่สเปคความร้อน 65 ถึง 95 วัตต์ โดยที่รุ่น X จะมากับความเร็วสูงกว่าแต่ไม่มีพัดลมมาให้ ราคา ณ ที่เขียนคือตามนี้ และหลังจากนี้จะมี Ryzen 3 และซีพียูอีกหลายรุ่นที่มีจีพียูในตัว (เมนบอร์ดมีพอร์ตต่อจอรอแล้ว)

    • Ryzen 5 1400 4 คอร์ 8 เธรด เบสคล็อก 3.2GHz บูสท์คล็อก 3.4GHz ทำ XFR ได้ 3.45GHz ราคา 6,290 บาท สเปคความร้อน 65 วัตต์ (รุ่นนี้ได้แคช L3 8MB ต่างกับรุ่นอื่นทั้งหมดในนี้ ได้ 16MB)
    • Ryzen 5 1500X 4 คอร์ 8 เธรด เบสคล็อก 3.5GHz บูสท์คล็อก 3.7GHz XFR ได้ถึง 3.9GHz ราคา 7,190 บาท สเปคความร้อน 95 วัตต์
    • Ryzen 5 1600 6 คอร์ 12 เธรด เบสคล็อก 3.2GHz บูสท์คล็อกที่ 3.6GHz XFR ได้ 3.7GHz ราคา 8,190 บาท สเปคความร้อน 65 วัตต์
    • Ryzen 5 1600X 6 คอร์ 12 เธรด เบสคล็อก 3.6GHz บูสท์คล็อก 4.0GHz XFR ได้ 4.1GHz ราคา 9,490 บาท สเปคความร้อน 95 วัตต์
    • Ryzen 7 1700 8 คอร์ 16 เธรด เบสคล็อก 3.0GHz บูสท์คล็อก 3.7GHz XFR ได้ 3.8GHz ราคา 12,900 บาท สเปคความร้อน 65 วัตต์
    • Ryzen 7 1700X 8 คอร์ 16 เธรด เบสคล็อก 3.4GHz บูสท์คล็อก 3.8GHz XFR ได้ 3.9GHz ราคา 14,900 บาท สเปคความร้อน 95 วัตต์
    • Ryzen 7 1800X 8 คอร์ 16 เธรด เบสคล็อก 3.6GHz บูสท์คล็อก 4.0GHz XFR ได้ 4.1GHz ราคา 18,900 บาท สเปคความร้อน 95 วัตต์

    และในแพลตฟอร์มโมบายล์ Ryzen ยืนยันว่าจะมีด้วยเช่นกัน ตามบทสัมภาษณ์ของ Digital More

    [​IMG]

    กล่อง AMD Ryzen รุ่นขายจริง

    Ryzen รอบนี้มีอะไรใหม่?

    ชิป AMD Ryzen ออกแบบใหม่โดยใช้สถาปัตยกรรมที่ชื่อว่า “Zen” ซึ่งละทิ้งการออกแบบแนว “โมดูล” ที่แต่ละคอร์แชร์ทรัพยากรร่วมกันแบบที่ชิปรุ่นก่อนอย่าง FX-8150, FX-8350 (Bulldozer) ใช้ กลับมาออกแบบเป็นคอร์แยกกัน มีแคช L2 แยกชิ้น (AMD ว่าจ้าง Jim Keller ผู้พัฒนาชิปตระกูล K8, K9 ที่รุ่งเรืองกลับมาทำ Zen) ผลิตบนเทคโนโลยีระดับ 14 นาโนเมตรที่ GlobalFoundary ทำงานบนฟอร์มแฟคเตอร์ใหม่เป็นซ็อกเก็ต AM4

    [​IMG]
    ภาพประกอบ

    เมื่อมองลึกลงไปอีก แม้แต่ละคอร์จะทำงานแยกกัน แต่ Zen จะจัดเรียงคอร์เป็นกลุ่มละ 4 คอร์ที่เรียกชื่อว่า CCX (CPU Complex) ซึ่งสามารถเปิดปิดการทำงานได้ ตัดเป็นรุ่นย่อยได้หลากหลาย ยกเว้นส่วนแคช L3 ความจุ 8MB ที่ยังเหลือและใช้งานร่วมกัน โดย CCX แต่ละกลุ่มสื่อสารกันภายในด้วยระบบบัสแบนด์วิดธ์สูงแบบใหม่ชื่อ AMD Infinity Fabric แทน HyperTransport ที่เราคุ้นเคยตั้งแต่สมัยชิปซ็อกเก็ต 754 หรือ 939

    เพราะ CCX เป็นแบบนี้ ทำให้ Ryzen 7 ตัว 8 คอร์ เปิด CCX ได้เต็ม 4+4, Ryzen 5 ตัว 6 คอร์ ทำงานแบบ CCX 3+3 เลยได้แคช L3 16MB ส่วน Ryzen 5 ตัว 4 คอร์ เปิด CCX มาแบบ 2+2 ได้แคช L3 ที่ 8MB

    รู้จัก XFR ยิ่งเย็น ยิ่งเข็นความเร็วต่อให้อีกแบบอัตโนมัติ

    [​IMG]

    นอกจาก AMD Ryzen จะมีเทคนิค TurboCore ที่เพิ่มความเร็วในแต่ละช่วงเวลาเฉพาะให้กับแต่ละคอร์แล้ว ยังมากับเทคนิค XFR (eXtended Frequency Range) หากอุณหภูมิระบบเอื้ออำนวยซีพียูก็จะเร่งความเร็วขึ้นไปให้อีก 100MHz ในระยะเวลาสั้นๆ เช่นจากภาพ R7 1800X มากับความเร็วเบส 3.6GHz, บูสต์พร้อมกันทุกคอร์ที่ 3.7GHz และถ้าวิ่งคอร์เดียวจะบูสต์ได้ถึง 4.0-4.1GHz

    ชิปเซ็ตที่มาคู่กัน: มีหลายระดับ เลือกให้เพียงพอความต้องการ

    [​IMG]

    Ryzen มากับชิปเซ็ตของตนเองหลายรุ่น X370, B350 และ A320 ตามลำดับ ตัวท็อปสุดจะรองรับการโอเวอร์คล็อกและการใช้งานกราฟิกการ์ดหลายใบ ทั้งนี้ชิป Ryzen ทุกรุ่นไม่ล็อกตัวคูณสัญญาณนาฬิกาครับ และมีเมนบอร์ดจากผู้ผลิตหลากหลายยี่ห้อแล้ว ทั้ง ASUS, Gigabyte, ASRock, MSI ฯลฯ

    [​IMG]

    ด้านพอร์ต I/O ของแต่ละชิปเซ็ตก็มีจำนวนต่างกันไป และรองรับ USB3.1 Gen2 เรียบร้อยแบบไม่ง้อคอนโทรลเลอร์แยก ตลอดจนพอร์ตต่อไดรฟ์แบบ NVMe ก็แบ่งเลน PCI-Express ใช้งานได้เพียงพอ

    [​IMG]

    ที่น่าสนใจคือฟอร์มแฟคเตอร์อย่าง Mini-ITX ก็มีเมนบอร์ด Ryzen กับเขาแล้วเหมือนกัน เป็นของ Biostar รุ่น X370GTN และ B350GTN โอกาสที่จะได้เห็นระบบที่แรงระดับ HEDT, Core i7 เบอร์ใหญ่ เก่งเรนเดอร์ในแบบเคสเล็กก็น่าจะฝันง่ายขึ้น

    ระวังเรื่องแรม: รองรับ DDR4 แต่ความเร็วสูงสุดขึ้นกับจำนวนโมดูลและจำนวนเม็ดแรมต่อแผง

    [​IMG]

    ดูเป็นเรื่องจุกจิกไปสักนิด ไม่ใช่แค่รู้ว่าซีพียู AMD Ryzen รองรับการใช้งานกับแรมแบบ DDR4 แบบ Dual-Channel เท่านั้นแล้วจบ เพราะการใส่แรม 2 หรือ 4 โมดูล โดยจำนวนเม็ดแรมบนแผงไม่เท่ากันก็จะได้ความเร็วไม่เท่ากัน คอนฟิกที่จะทำงานกับแรมความเร็วสูงสุดที่ DDR4-2666MHz ได้ คือต้องใช้แรม 2 โมดูล แต่ละโมดูลมีเม็ดแรมด้านเดียว (single rank) นอกเหนือจากนี้น่าจะต้องพึ่งพาการตั้งค่าแบบแมนนวลหรือโอเวอร์คล็อกเอา

    ประสิทธิภาพ AMD Ryzen เป็นอย่างไร?

    [​IMG]

    เนื่องจากทางผมได้รับเครื่อง Ryzen 1800X จากทาง AMD ประเทศไทยมาทั้งระบบ ซึ่งเป็นพีซีประกอบเสร็จแบรนด์ CyberpowerPC แต่ไม่สามารถหาระบบเทียบเคียงมาร่วมทดสอบในระยะเวลาช่วงเปิดตัว ดังนั้นเพื่อให้บทความนี้มีมรรคผลต่อการเสพอ่าน จึงขอโฟกัสไปที่การวิเคราะห์ผลทดสอบจากต่างประเทศที่ละเอียดและน่าสนใจกว่านะครับ

    [​IMG]

    • งานด้านเกม ที่กราฟิกการ์ดเบอร์เดียวกันต้องยอมรับว่า Ryzen ยังด้อยกว่า Core i5 และ i7 กลุ่ม เมนสตรีม (LGA1151) ซึ่งห่างกันหลักสิบเฟรมต่อวินาที ทว่าการโอเวอร์คล็อกก็พอช่วยได้บ้าง และบางเกมจำนวนคอร์ก็ไม่มีผล (ที่มา: TPU / TechReport / ExtremeTech)
    • งานด้านเรนเดอร์ แปลงไฟล์ ดูเหมือนว่างานด้านนี้ AMD จะ blow ในพรีเซนเทชั่นกันเป็นมั่นเป็นเหมาะ ด้วยวาทกรรมประมาณว่า Ryzen ตัวละหมื่นกว่าบาททำงานได้ดีกว่าหรือเกือบเทียบเท่า Core i7-6900K (Broadwell-E) กลุ่ม HEDT ที่ตัวละหลายหมื่น สเปคความร้อนก็ต่ำกว่า (95 วัตต์ปะทะ 140 วัตต์) ซึ่งผลการทดสอบหลายที่ก็ออกมาในแนวโน้มนี้ เลยดูเหมือนว่าเป็นความหวังใหม่ของคนทำงานมากกว่าเล่นเกม (ที่มา: Anandtech / Tomshardware)

    ทั้งนี้ประสิทธิภาพในบางแอพอาจออกมาไม่ดีอาจมาจากหลายสาเหตุ ทั้งตัวแอพและเกมยังไม่ optimize กับซีพียูรุ่นนี้ที่ออกมาทีหลัง ถ้าจะให้โอกาสคือต้องรอแพทช์หรือแอพเวอร์ชั่นใหม่ แนวโน้มนี้ส่งผลแล้วกับเกม Ashes of the Singularity ที่พออัพเดตแพทช์แล้ว Ryzen รีดเฟรมเรตออกมาได้ดีขึ้นกว่า 20 เฟรมต่อวินาที

    [​IMG]
    Windows 10 จะเห็น Ryzen 1800X เป็น 16 เธรด

    AMD Ryzen ร้อนไหม?

    [​IMG]

    ที่ค่าสเปคความร้อนของ Ryzen ที่ 95 วัตต์กับความเป็นซีพียู 8 คอร์ 16 เธรด เรามีโอกาสลอง R7 1800X แปะอยู่กับฮีตซิงค์ Noctua NH-U12S บนเมนบอร์ด Gigabyte AORUS AX370-Gaming 5 ในเคส CoolerMaster ที่ด้านในมีการ์ด XFX Radeon RX 480 8GB หนึ่งใบ ในห้องนั่งเล่นอุณหภูมิ 26 องศาเซลเซียส ทดสอบด้วยการรันฟูลโหลดในแอพ AIDA64 ปรากฎว่า Idle วัดได้ช่วง 36-37 องศาฯ, Full-load วัดได้ราว 55-56 องศาฯ พัดลมเสียงไม่ค่อยดังเท่าไรนัก เมื่อวัดคร่าวๆ โดยไม่ได้ใช้อุปกรณ์

    [​IMG]

    สรุป

    ณ นาทีนี้ AMD Ryzen น่าจะเหมาะกับงานเรนเดอร์ แปลงไฟล์ มากกว่าจะนำมาเล่นเกม ไม่ใช่เล่นเกมไม่ได้แต่ถ้าเมื่อเทียบกับคู่แข่งในราคาใกล้เคียงกันแล้วจะรีดประสิทธิภาพกราฟิกการ์ดออกมาได้ไม่ดีเท่า ตอนนี้ก็หวังว่าสารพัดเกมและไดรเวอร์จะออกแพทช์มา optimize เกมของตนให้รีดประสิทธิภาพจากซีพียูสายพันธุ์ใหม่นี้ และเชื่อว่าเกมนี้ต้องมองกันอีกยาวอย่าเพิ่งม้วนเสื่อหมดกำลังใจ

    ถ้าส่วนตัว มองว่า Ryzen R7 1700 น่าเล่นสุด เพราะด้วยสเปคความร้อนที่ 65 วัตต์ คุณจะได้ซีพียู 8 คอร์แท้ 16 เธรด ในราคาหมื่นบาทต้นๆ ที่ไม่เขินถ้าจะเอาไปทำงานเป็นหลักแล้วว่างค่อยหลบมาเล่นเกม และด้วยความตนเองหลงใหลเคสเล็ก เมนบอร์ด ITX ตามที่ระบุข้างต้นก็น่าจะจัดการซีพียู 8 คอร์ลงในเคสลูกเต๋าในราคาไม่สูงมากได้ไหว แต่ที่น่าคิดคือไม่มีจีพียูในตัว

    Topics: RyzenAMDCPUHardware
     

Share This Page