สัมภาษณ์ผู้บริหาร Intel Security: สถานการณ์ความปลอดภัยด้านไซเบอร์และบทบาทของ Intel Security

Discussion in 'เทคโนโลยี' started by iPokz, May 22, 2016.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Intel Security หรือ McAfee เดิมได้เปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับภัยคุกคามด้านไซเบอร์ ทั้งข้อมูลเชิงสถิติและการสำรวจจากผู้เชี่ยวชาญความปลอดภัยด้านไซเบอร์รอบเดือนมีนาคม โดยมีผู้บริหารของ Intel Security คือคุณ Gavin Struthers ประธาน Intel Security ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และคุณ David Allott ผู้อำนวยการฝ่ายการป้องกันทางไซเบอร์ของกลุ่ม Intel Security ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มาเล่าถึงสถานการณ์ความปลอดภัยด้านไซเบอร์ รวมถึงบทบาทของ Intel Security ต่อประเด็นดังกล่าวด้วย

    [​IMG]

    (ซ้ายมือ) คุณ David Allot และ (ขวามือ) คุณ Gavin Struthers

    No place is safe


    รายงานจาก McAfee Labs ระบุว่ามีมัลแวร์เพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละประมาณ 10% หรือประมาณ 5 ตัวต่อวินาที ขณะที่อัตราการเพิ่มของ ransomware อยู่ที่ประมาณ 26% ส่วนมัลแวร์ในสมาร์ทโฟนก็พบว่าเพิ่มขึ้นถึง 72% ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ทำให้คุณ Gavin ระบุว่าปัจจุบัน ไม่มีที่ไหนปลอดภัยอย่างแท้จริงอีกต่อไปแล้ว

    คุณ Gavin เล่าให้ฟังว่า เพียง 3-5 ปีก่อน สิ่งที่องค์กรหรือบริษัทต่างๆ กังวลมีเพียงอย่างเดียวคือ พวกเขาปลอดภัยจากภัยคุกคามหรือยัง ขณะที่ปัจจุบัน คำถามส่วนใหญ่เปลี่ยนเป็น พวกเขาจะทำอย่างไร หากถูกโจมตี? ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสภาพการณ์เรื่องความปลอดภัยไซเบอร์ในปัจจุบันรุนแรงขึ้นค่อนข้างมาก แม้แต่ธนาคารที่ควรจะมีการป้องกันหนาแน่นที่สุดก็ยังไม่ปลอดภัย ส่วนประเทศไทยก็ติดอันดับมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในทุกๆ ด้านมากเป็นอันดับต้นๆ ของเอเชีย (ไม่ได้ระบุตัวเลขหรืออันดับที่ชัดเจน)

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    เพราะเราขาดบุคลากรและการให้ความรู้


    ผมถามคุณ Gavin ว่าแล้วอะไรเป็นสาเหตุสำคัญ ที่ทำให้ในประเทศไทย ทั้งภาครัฐและเอกชน เพิกเฉยและละเลยในประเด็นด้านความปลอดภัยนี้ คุณ Gavin บอกว่าสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นคล้ายๆ กันแทบจะทุกประเทศ ซึ่งสาเหตุสำคัญมาจากการขาดแคลนบุคลากรที่เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย รวมถึงการขาดการให้ความรู้และการตระหนัก (awareness) ถึงประเด็นด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งตรงนี้ Intel Security ค่อนข้างให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ

    Intel Security มองว่าเรื่องความรู้ความเข้าใจ ควรเป็นสิ่งที่ปลุกฝังและสอนกันมาตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งทาง Intel Securiy เองก็มีหลักสูตรสำหรับเด็กด้านนี้ ให้กับองค์กรหรือโรงเรียนที่สนใจติดต่อขอไปใช้ได้ รวมถึงมีโครงการฝึกฝนด้านความปลอดภัยให้กับบุคลากรขององค์กรที่เป็นลูกค้าด้วย

    Threat Defense Life Cycle


    คุณ Gavin บอกว่าเอเชียแปซิฟิค เป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีการลงทุนด้านความปลอดภัยมากเป็นอันดับต้นๆ แต่ก็ยังคงไม่ปลอดภัยอย่างที่กล่าวไป ซึ่ง Intel Security มองว่าสิ่งที่ควรเปลี่ยนไม่ใช่เฉพาะผลิตภัณฑ์และโซลูชันด้านความปลอดภัย แต่เป็นวิธีการ (approach) และกระบวนการ (process) สำหรับองค์กรในการจัดการกับภัยคุกคาม

    Intel Security เรียกสิ่งนี้ว่า Threat Defense Life Cycle ซึ่งเป็นเหมือนกรอบและแนวทางปฏิบัติสำหรับองค์กรในการจัดการด้านความปลอดภัย ซึ่งแบ่งเป็น 3 ขั้นตอนหลักๆ

    • Protection พื้นฐานที่สุดคือผลิตภัณฑ์และโซลูชัน ที่ปกป้ององค์กรจากภัยคุกคามได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    • Detection การตรวจจับสิ่งแปลกปลอมต้องรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งโดยปกติกว่าที่องค์กรจะรู้ว่าถูกเจาะ ก็ผ่านไปแล้วเฉลี่ยขั้นต่ำ 3-4 เดือน
    • Correction คือวิธีการโต้ตอบหรือจัดการไม่ว่าจะในกระบวนการตรวจสอบหรือหลังจากที่ระบบถูกเจาะแล้วก็ตาม ที่จะต้องมีประสิทธิภาพและรวดเร็วในการแก้ไขความเสียหาย

    [​IMG]

    บทบาทของ Intel Security ในปัจจุบัน จึงเป็นการทำงานร่วมกับภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะเรื่องของการสร้างการตระหนักถึงปัญหาด้านความปลอดภัย พัฒนาบุคลากรให้มีสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงสร้างพันธมิตรที่เรียกว่า Security Innovation Alliance ประกอบไปด้วยบริษัทด้านความปลอดภัยกว่า 50 บริษัท ที่คอยแบ่งปันข้อมูลเรื่องภัยคุกคาม และช่วยกันสร้างแพลตฟอร์มเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ทำงานร่วมกัน เพื่อทำให้ Threat Defense Life Cycle เกิดประสิทธิภาพที่สุด

    คุณ Gavin แนะนำด้วยว่ารัฐบาลทุกประเทศควรจะทำงานร่วมกับอุตสาหกรรมความปลอดภัยด้านไซเบอร์ และผลักดันแผนความปลอดภัยแห่งชาติขึ้น (ผมนึกภาพเป็นแบบแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ) เพื่อที่อย่างน้อยๆ ความเสี่ยงต่อภัยคุกคามอาจจะลดลงได้บ้าง ถึงแม้ภัยคุกคามมีแต่จะเพิ่มขึ้นและปรับตัวไปเรื่อยๆ ก็ตาม

    Topics: McAfeeIntelCybersecurityInterview
     

Share This Page