รีวิวเกมมิ่งโน้ตบุ๊ก Acer Predator 17 รวมสุดยอดเทคโลโลยีล่าสุด

Discussion in 'เทคโนโลยี' started by iPokz, Mar 29, 2016.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    ผมได้รับเกมมิ่งโน้ตบุ๊คอีกตัวหนึ่งมารีวิว คราวนี้มาจากค่าย Acer รุ่น Predator 17 ซึ่งแบรนด์ Predator ก็เป็นแบรนด์สายเกมมิ่ง คล้ายกับแบรนด์ Republic of Gamers (ROG) ของ Asus ที่ได้รีวิวไปก่อนหน้านี้นั่นเองครับ

    สเปคของเครื่องที่ได้รับมาทดสอบ

    Acer Predator 17 (G9-791-72Q4)

    • CPU : Intel Core i7 6700HQ
    • RAM : 16 GB (8 GBx2) DDR4-2133
    • Storage : 2x240 GB Liteon SSD + 2 TB Samsung HDD
    • GPU : Intel HD Graphics 530 + NVIDIA GeForce GTX 980M – 1536 Shaders / 4 GB RAM
    • Display: 17" Full HD 1920x1080
    • Network: Killer Wireless-n/a/ac 1535 Dual Band + Killer e2400 Gigabit Ethernet
    • Others: 4xUSB 3.0, USB Type-C (Thunderbolt 3), 2x Audio I/O, DisplayPort + HDMI, SD Card reader, Blu-ray Drive

    [​IMG]

    รูปลักษณ์ภายนอก

    ตัวเครื่องโทนสีดำ-แดง ลักษณะค่อนข้างหนา มีน้ำหนักประมาณ 4.2 กิโลกรัม ด้านหลังมีโลโก้พร้อมไฟสว่างเมื่อเปิดเครื่อง ด้านล่างเป็นรูระบายอากาศ

    [​IMG]

    ด้านซ้ายประกอบด้วยรูชาร์จไฟ พอร์ต USB 3 จำนวน 2 พอร์ต, ช่องเสียบไมค์, ช่องเสียบหูฟัง, ช่องอ่านการ์ด SD และไดรฟ์บลูเรย์ (สามารถถอดเปลี่ยนเป็นพัดลมได้)

    [​IMG]

    ด้านขวาของเครื่องมีรูล็อกเครื่อง, พอร์ตแลน, DisplayPort ขนาดเต็ม, HDMI, USB 3 อีก 2 พอร์ต และ Thunderbolt 3 (USB Type-C)

    [​IMG]

    ด้านล่างของเครื่อง มีลำโพง Subwoofer ถัดลงมา จะเห็นสลักสำหรับล็อคไดรฟ์ Blu-ray สามารถเลื่อนเพื่อปลดล็อคสำหรับสลับเอาพัดลมใส่เข้าไปแทนได้

    [​IMG]

    เทียบพัดลมกับไดรฟ์ Blu-ray

    [​IMG]

    ส่วนด้านหน้าของเครื่อง มีลำโพงซ้าย-ขวา หน้ากากลำโพงสีแดง

    เมื่อเปิดหน้าจอขึ้นมา จะเห็นคีย์บอร์ดขนาดเต็ม พร้อมแป้นตัวเลข และ Gaming Key ทางด้านซ้าย ทางมุมบนขวาด้านล่างจอภาพจะเป็นไฟสถานะ 3 ดวง คือ ฮาร์ดดิสก์, แบตเตอรี่และสถานะเปิดเครื่อง สามารถมองเห็นได้ แม้พับหน้าจอลงมา

    [​IMG]

    ปุ่ม WASD และปุ่มลูกศรมีการเน้นสีต่างจากปุ่มอื่นๆ อย่างไรก็ตาม หากปิดไฟคีย์บอร์ดแล้ว ตัวหนังสือภาษาไทยสีแดงบนปุ่มสีดำ แทบจะมองไม่ออกเลย ถ้าไม่ได้อยู่ในห้องที่มีแสงสว่างพอสมควร

    [​IMG]

    [​IMG]

    ตัวไฟใต้คีย์บอร์ดหลักมีสีแดงและส่วนแป้นตัวเลขจะมีสีน้ำเงิน สามารถเปิด-ปิดไฟแยกโซนได้จากแอปพลิเคชั่น PredatorSense ที่มากับเครื่อง แบ่งไฟออกเป็น 4 โซน แต่พบว่าถ้าปิดไฟเป็นบางโซน แสงจากข้างๆ ก็สามารถลอดผ่านมาได้อยู่ดี และแสงที่ออกมาจากตัวหนังสือบนแป้นก็ไม่ได้สว่างมากนัก รวมถึง ผมหาทางปรับเพิ่ม-ลดแสงของไฟไม่ได้ด้วย (ภาพด้านบนผมถ่ายในห้องที่แสงน้อย แล้วเร่งความสว่างจากภาพเพื่อให้เห็นแสงจากคีย์บอร์ด)

    [​IMG]

    [​IMG]

    ทางด้านปุ่ม Gaming Key มีให้ตั้งค่าได้ 5 ปุ่ม และมีปุ่มสำหรับเปลี่ยน Preset โดยเปลี่ยนได้ 3 ชุด (ไฟบนปุ่ม P จะเปลี่ยนเป็นสีแดง-เขียว-น้ำเงิน ตามพรีเซ็ตขณะนั้น ส่วนปุ่ม 1-5 จะมีไฟติดเฉพาะปุ่มที่เซ็ตค่าไว้แล้ว)

    [​IMG]

    นอกจากนี้ยังมีปุ่มพิเศษอีกปุ่มนึงคือ ปุ่มปิดทัชแพดและปุ่มวินโดวส์เพื่อไม่ให้พลาดไปกดระหว่างเล่นเกม ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ ทัชแพด พร้อมไฟสถานะสีเขียว

    ส่วนอะแดปเตอร์ของเครื่องมีขนาดเล็กกว่า iPhone 6s Plus เล็กน้อย (ที่เห็นสีขาวๆ รองด้านล่าง) จ่ายไฟได้ประมาณ 180 วัตต์ มีน้ำหนัก 7 ขีด

    [​IMG]

    ฮาร์ดแวร์

    CPU

    เครื่องที่ได้มารีวิวใช้ CPU Intel Core i7 รหัส 6700HQ (Skylake) ซึ่งถือเป็นเป็น CPU รุ่นล่าสุดของ Intel มีหน่วยประมวลผล 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็วสูงสุด 3.5GHz

    [​IMG]

    ได้คะแนนจาก CPU-Z ไป 1652/6826

    [​IMG]

    GPU
    ทางด้าน GPU เครื่องนี้สามารถใช้ GPU ได้ทั้งสองตัว คือ Intel HD Graphics 530 เมื่อไม่ได้ใช้งานด้านกราฟิกเพื่อเป็นการประหยัดพลังงานและ NVIDIA GeForce GTX 980M เมื่อต้องการประสิทธิภาพที่สูงขึ้น

    [​IMG]

    [​IMG]

    สำหรับคะแนนของ GTX 980M ที่ทดสอบด้วย 3DMark เป็นดังนี้ครับ

    Cloud Gate - คะแนนการทดสอบสำหรับคอมพิวเตอร์พื้นฐานทั่วไป รายละเอียด

    [​IMG]

    Sky Diver - คะแนนการทดสอบสำหรับเกมมิ่งโน้ตบุ๊ก รายละเอียด

    [​IMG]

    Fire Strike - คะแนนการทดสอบสำหรับเกมมิ่งพีซี รายละเอียด

    [​IMG]

    SSD และ ฮาร์ดดิสก์

    โน้ตบุ๊กเครื่องนี้ มี SSD/ฮาร์ดดิสก์มากถึง 3 ลูกด้วยกัน โดยเป็น SSD 2 ลูกและฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนอีก 1 ลูก โดย SSD ทั้งสองลูกมีขนาด 240GB ซึ่งตั้งค่าผูกกันมาเป็น RAID 0 มีความจุรวม 480GB และมีความเร็วในการอ่านแตะระดับ 1GB/s เลยครับ ส่วนความเร็วในการเขียน ก็อยู่ที่ประมาณ 700MB/s

    [​IMG]

    ส่วนฮาร์ดดิสก์จานหมุน ใส่พื้นที่มาให้ถึง 2TB เลยทีเดียว มีความเร็วในการอ่าน/เขียนสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 120MB/s

    [​IMG]

    แบตเตอรี่

    ตัวแบตเตอรี่ของเครื่อง มีขนาดอยู่ที่ 9000mAh (ขณะทดสอบเก็บประจุได้ที่ 87720mAh) สำหรับในการใช้งานทั่วไป (เล่นเน็ต เฟสบุ๊ค ดูวิดีโอสตรีมมิ่ง) ระบบจะกินพลังงานต่ำมาก และสามารถอยู่ได้โดยเฉลี่ย 4-5 ชั่วโมงเลยทีเดียว (เท่าที่ลอง ใช้ได้นานสุดคือดูหนังอย่างเดียว จะได้ 6-7 ชั่วโมง)

    [​IMG]

    เมื่อเล่นเกม ระบบจะตัดไปใช้การ์ดจอ GTX 980M ทำให้บริโภคพลังงานสูงขึ้นมาก อายุการใช้งานจะลดลงเหลือประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น

    [​IMG]

    คุณสมบัติอื่นๆ

    ระบบเสียง Dolby Audio ทำให้เสียงมีมิติเหมาะกับการชมภาพยนต์และเล่นเกมมาก คุณภาพดีกว่าโน้ตบุ๊กทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด

    การทดสอบจากเกม


    Dying Light
    ตั้งค่า Very High/High ทุกอย่าง (ปรับสูงสุดหมด) ได้เฟรมเรทเฉลี่ยประมาณ 50-60fps

    [​IMG]

    Assassin's Creed Unity
    ในระดับ Ultra High สามารถทำเฟรมเรทไปได้ประมาณ 30fps, ระดับ Very High ได้ 45fps และในระดับ High จะทำได้ถึง 55-60fps

    [​IMG]

    Metro: Last Light Redux
    เมื่อปรับ Quality เป็น Very High และปิด SSAA จะได้เฟรมเรทเกิน 60fps เล็กน้อย แต่หากใช้ SSAA 2X จะได้เฟรมเรทเหลือประะมาณ 35fps

    [​IMG]

    Need For Speed
    ตั้งค่า Ultra ทุกอย่าง สามารถทำเฟรมเรตเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 70fps โดยมีบางฉากขึ้นไปได้สูงสุดถึง 80fps

    [​IMG]

    The Division
    ผล Benchmark เมื่อใช้ Preset Ultra ทำเฟรมเรทได้เฉลี่ย 46fps โดยหากปรับใช้ Nvidia HFTS (ระบบแสงเงาแบบพิเศษ) และ Post Fx AA เพิ่มเติม จะลดลงเหลือ 38fps

    [​IMG]

    ส่วนในเกมตั้งค่า Preset Ultra สามารถทำเฟรมเรทไปได้เฉลี่ยประมาณ 45-50 fps และเมื่อใช้ Nvidia HFTS เฟรมเรทจะตกลงเหลือประมาณ 35-40 fps

    [​IMG]

    ข้อดี

    • สเปคเครื่องที่สูงมาก ในขนาดเครื่องที่สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้
    • หน้าจอขนาดใหญ่ ความละเอียด Full HD 17 นิ้ว
    • คีย์บอร์ดขนาดเต็ม พร้อมแป้นตัวเลข ปุ่มมาโคร และไฟใต้คีย์บอร์ด
    • ระบบเสียงที่เยี่ยมยอดสำหรับโน้ตบุ๊ก
    • พอร์ตเชื่อมต่อที่หลากหลาย ทั้ง DisplayPort, HDMI, USB มากถึง 4 พอร์ต รวมถึง USB Type-C พร้อมระบบเน็ตเวิร์คความเร็วสูง ทั้งแบบสายและไร้สาย (802.11ac dual-band ความเร็วสูงสุด 867 Mbps)
    • พื้นที่เก็บข้อมูลขนาดใหญ่ ทั้ง SSD ขนาด 480GB และฮาร์ดดิสก์ 2TB
    • มี Blu-ray drive สามารถอ่านแผ่นได้เกือบทุกชนิด และสามารถถอดเปลี่ยนเป็นพัดลมระบายความร้อนได้
    • สามารถสลับการทำงานของการ์ดจอเพื่อประหยัดพลังงานเวลาใช้งานเบาๆ ทำให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น

    ข้อเสีย

    • คีย์บอร์ดที่เกือบจะสมบูรณ์ แต่ยังมีสิ่งที่ขาดๆ แปลกๆ อยู่หลายอย่าง เช่น ไฟที่ไม่ค่อยสว่างและปรับไม่ได้ (แต่ในบางรุ่นสามารถปรับได้แบบ RGB เลย), ไม่มีไฟสถานะของปุ่ม Num Lock, Caps Lock, ไฟปุ่มเปิดเครื่องที่ตั้งอยู่ตรงกลางอาจทำให้เกะกะสายตา เป็นต้น
    • เสียงพัดลมค่อนข้างดัง แต่ในขณะเล่นเกม เสียงลำโพงที่ดังกว่าก็กลบหมด
    • ขนาดใหญ่และหนัก โดยน้ำหนักรวมเครื่องกับอะแดปเตอร์ก็เกือบๆ 5 กิโลกรัม ทำให้การพกพาเพื่อใช้งานทั่วไปอาจจะลำบากสักหน่อย

    สรุป

    ตัวเครื่อง Acer Predator 17 ตัวนี้ มีดีไซน์ที่สวยงามและมีประสิทธิภาพที่สูงมาก เหมาะกับการเล่นเกมที่ออกใหม่ในปีนี้ และคาดว่าน่าจะเล่นเกมใหม่ๆ ไปได้อีกหลายปี ก่อนที่สเปคจะเริ่มตกรุ่น (อย่างน้อยก็ 2-3 ปีนี้) เพราะทั้ง CPU และ GPU ก็ล้วนแต่เป็นรุ่นที่เพิ่งออกได้ไม่นาน รวมถึงพื้นที่เก็บข้อมูลขนาดใหญ่ที่ทำให้สามารถติดตั้งเกมใหม่ๆ ได้เรื่อยๆ ไม่ต้องมาคอยลบเกมเก่าทิ้ง

    ส่วนฟีเจอร์อื่น ถึงแม้จะทำได้ไม่ถึงกับสุดยอดเทียบเท่าเดสก์ท็อป แต่ก็ถือว่าทำได้ดีเยี่ยมในระดับโน้ตบุ๊กด้วยกัน อย่างไรก็ตาม ด้วยความเทอะทะของมันเหมือนกับโน้ตบุ๊กสายเกมเครื่องอื่นๆ ก็อาจจะต้องพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ ว่าเราจะใช้ประโยชน์จากความ “portable” ของมันคุ้มค่าหรือไม่

    Topics: AcerNotebookReviewPredator
     

Share This Page