หลายปีที่ผ่านมาเราเห็นบริษัทจากต่างประเทศหลายรายที่อาศัยเทคโนโลยีเข้ามาเป็นคนกลางเชื่อมต่อบริการระหว่างผู้ให้บริการและผู้บริโภค อาทิ Booking หรือ Agoda ที่รวบรวมและเปรียบเทียบราคาโรงแรม ไปจนถึง Skyscanner หรือ Kayak ที่เป็นสายการบิน Tourkrub เป็นสตาร์ทอัพไทยที่ทำธุรกิจลักษณะคล้ายๆ กับตัวอย่างข้างต้นแต่เป็นในกลุ่มแพ็คเกจทัวร์เที่ยวต่างประเทศ ที่ตั้งเป้าจะ disrupt วงการทัวร์ของไทยที่วุ่นวายและยุ่งยาก ให้ครบจบทุกอย่างในที่เดียว ตอนนี้ Tourkrub กำลังไปได้สวยและมองหานักพัฒนาเข้ามาร่วมงานอยู่ด้วย Tourkrub สตาร์ทอัพที่ตั้งเป้า disrupt วงการทัวร์ของไทย คุณจักรพันธ์ ลีอธิวัฒน์ (ฟาร์) ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Tourkrub เล่าให้ฟังว่าจุดเริ่มต้นของการก่อตั้งบริษัท เกิดจากการที่คุณฟาร์ชอบเที่ยวต่างประเทศกับครอบครัว ทว่าการหาข้อมูลแพ็กเกจทัวร์ก่อนหน้านี้ไม่เพียงแต่หายาก แถมข้อมูลเยอะ เข้าใจยากและต้องเอาข้อมูลจากหลายๆ แหล่งมานั่งเปรียบเทียบกันในกระดาษ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่เสียเวลา เสียพลังงานและวุ่นวายอย่างมาก Tourkrub จึงเข้ามาแก้ปัญหาดังกล่าว ด้วยการเป็นคนกลางที่รวบรวมและเปรียบเทียบดีล, โปรโมชันต่างๆ ให้ได้เยอะที่สุด พร้อมนำเสนอให้ออกมาง่ายกับลูกค้าที่สุด ทั้งในแง่การดูข้อมูลทัวร์ ไปจนถึงการค้นหาทัวร์ว่าอยากได้กิจกรรมไหน ไปสถานที่ไหนเป็นพิเศษ สามารถกดเลือกได้เลย ปัจจุบัน Tourkrub ไม่ได้เป็นแค่คนกลางที่รวบรวมข้อมูลทัวร์และอาศัยรายได้จากค่าคอมมิชชันอย่างเดียว แต่ยังเป็นเอเจนซีทัวร์เองด้วย โดยการจัดทัวร์ให้กับลูกค้ากลุ่มองค์กรที่เริ่มมีเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ ในระยะหลังจนต้องตั้งทีมใหม่เพื่อดูแลส่วนนี้โดยเฉพาะ Tourkrub ค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยนับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี 2016 บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็ว เซสชันบนเว็บอยู่ที่หลักล้านต่อเดือน และปีที่แล้วก็ชนะ dtac Accelerate Batch 5 ด้วย ก่อนที่ล่าสุดจะเพิ่งระดมทุนซีรีส์ A มาได้เป็นมูลค่าหลักล้านเหรียญสหรัฐ คุณจักรพันธ์ ลีอธิวัฒน์ ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง ตั้งเป้าโตเป็นเบอร์ 1 เอเจนซี่ทัวร์ออนไลน์ของไทย, ให้ Full-Experience Journey กับลูกค้า คุณฟาร์เล่าให้ฟังว่าปัจจุบันคนสูงวัยหรือแม้แต่คนรุ่นใหม่ที่ใช้บริการทัวร์มีมากขึ้นและเที่ยวกันบ่อยขึ้น สัดส่วนที่เพิ่มขึ้นคิดเป็นราว 300% ในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา จนทำให้ Tourkrub มีรายได้รวมกันเกิน 1,000 ล้านบาทเข้าไปแล้วในระยะเวลาไม่ถึง 3 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้งมา อย่างไรก็ตามตัวเลขรายได้ดังกล่าวยังไม่ถึง 2% ของมูลค่าตลาดทัวร์ทั้งหมดในไทยด้วยซ้ำ เพราะตลาดทัวร์ในไทยใหญ่มากๆ Tourkrub จึงยังมีพื้นที่ให้เติบโตอีกมาก เป้าหมายในระยะยาวของ Tourkrub คือการเป็นเอเจนซี่ท่องเที่ยวออนไลน์อันดับ 1 ของไทย ด้วยการให้ลูกค้าสามารถค้นหาของที่ดีที่สุดจากทั้งตลาด ในระยะสั้นการบริการของ Tourkrub จะต้องตอบโจทย์ลูกค้าให้ครอบคลุมมากที่สุดและจะต้องโตขึ้นอีกแบบก้าวกระโดด (exponential) การตอบโจทย์ลูกค้าให้ครอบคลุม คุณฟาร์บอกว่าลูกค้าจะต้องมี Full-Experience Journey หรือสามารถทำทุกอย่างจบได้ในที่เดียว ตั้งแต่เริ่มจองแบบ instant booking ผ่านออนไลน์ ไปจนถึงการติดตามขั้นตอนต่างๆ ก่อนเริ่มทริป อาทิ วีซ่า, การระบุที่นั่งหรือออกใบเสร็จและการรับฟีดแบ็คต่างๆ ที่ลูกค้าเจอระหว่างทริปผ่านทางแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน ตอนนี้ Tourkrub ค่อนข้างพร้อมกับการเดินตามเป้าหมายดังกล่าวแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแนวทาง, แผนการหรือทีมผลิตภัณฑ์ สิ่งที่ขาดมีเพียงวิศวกรหรือนักพัฒนา ที่จะช่วยทำให้แผนดังกล่าวออกมาเป็นรูปธรรม วัฒนธรรมองค์กรและการทำงาน Core Value ขององค์กรมีหลักๆ อยู่ 3 ข้อได้แก่ Customer-Centric ผลิตภัณฑ์และการบริการจะต้องเน้นไปที่ประสบการณ์ของลูกค้าเป็นหลัก Lean การทำงานจะไม่ขี่ช้างจับตั๊กแตน ไม่ over-engineering Speed/Agile นักพัฒนาสามารถทำฟีเจอร์ใหม่ๆ ออกมาได้เลย หากคิดว่ามีเหตุผลและน้ำหนักมากพอ ไม่จำเป็นต้องขอหรือรอหัวหน้าอนุญาต เพียงแค่บอกกล่าวว่าจะทำอะไรก็พอ หากทำออกมาแล้วไม่ประสบผลสำเร็จก็ถือว่าเป็นการเรียนรู้จากความผิดพลาด นอกจาก Core Value 3 ข้อแล้ว คุณฟาร์บอกว่าวัฒนธรรมองค์กรของ Tourkrub ค่อนข้างมีไดนามิค เนื่องจากบริษัทเพิ่งก่อตั้งไม่นาน หลายๆ อย่างก็ยังไม่นิ่งดี จึงคาดหวังให้พนักงานทั้งใหม่และเก่าร่วมกันสร้างวัฒนธรรมองค์กรขึ้นมาด้วย นอกจากนี้ Tourkrub ยังให้ความสำคัญกับการสื่อสาร (engagement) ของพนักงาน เนื่องจากบริษัทมองว่าฟีดแบ็คเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยปรับปรุงการทำงานภายในองค์กรและแก้ไขปัญหาที่พนักงานกำลังเจออยู่ โดยอาศัยแอป Happily เป็นเครื่องมือ ไม่ว่าจะเป็นฟีดแบ็คระหว่างพนักงานกันเองหรือระหว่างพนักงานกับผู้บริหารก็ตาม และหากแอป Happily โชว์ว่าพนักงานคนไหนกำลังประสบปัญหาร้ายแรง (แสดงผ่านสีเหลืองหรือแดง) คุณฟาร์จะลงเข้าไปช่วยแก้ปัญหาด้วยตัวเองเลย สวัสดิการ ด้วยความที่บริษัทมีอายุไม่มากและกำลังขยายตัว สวัสดิการหลายๆ อย่างจะเป็นรูปเป็นร่างและมีมากขึ้นในปีหน้า โดยสวัสดิการเบื้องต้นอย่างประกันสังคม, ประกันกลุ่มและประกันอุบัติเหตุจะต้องสำเร็จก่อน ส่วนตอนนี้สวัสดิการที่มีให้พนักงานก็มี Macbook Pro คนละเครื่อง, เอ้าติ้งรายปีหรือเวลาทำงานที่ค่อนข้างยืดหยุ่น สามารถทำจากที่บ้านได้ เป็นต้น ทั้งนี้คุณฟาร์ระบุว่าแผนการพัฒนาและสนับสนุนพนักงานจะยังคงมีความสำคัญเป็นอันดับแรกๆ และคุณฟาร์จะยังคงดูแลเรื่องนี้ด้วยตัวเองต่อไป พร้อมยืนยันว่ายินดีจะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า ให้สมกับที่พนักงานทุ่มเทให้กับบริษัทด้วย อยากได้พนักงานแบบไหน อยากได้คนที่มีแพชชันในเป้าหมายของบริษัท รวมถึงคนที่อยากจะสร้างอิมแพ็คให้กับผลิตภัณฑ์ของบริษัทด้วย ส่วนในแง่ทักษะอยากได้คนที่เรียนรู้ไว, สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองและกระตือรือร้น (proactive) มากกว่าโดยไม่จำกัดทักษะทางด้านภาษาโปรแกรมมิ่ง เพราะตอนนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการทดลองไมโครเซอร์วิสสำหรับการเขียนโค้ดภายใน ให้นักพัฒนาเขียนโค้ดด้วยภาษาที่ตัวเองถนัด แล้วค่อยนำมาเชื่อมกับเว็บหลักที่ใช้เฟรมเวิร์ค Ruby on Rail ในภายหลัง อย่างตอนนี้โมบายล์แอปก็ใช้ React ส่วนหลังบ้านเป็น Node.js ที่ตั้งออฟฟิศ ออฟฟิศของ Tourkrub อยู่ที่อาคารอโศกทาวเวอร์ เยื้องๆ กับตึกแกรมมี่ ห่างจาก MRT สุขุมวิท 800 เมตร, MRT เพชรบุรี 400 เมตรและ Airport Link มักกะสัน 600 เมตร เสียงสะท้อนจากพนักงาน คุณกีรติ สมรรถนเรศวร์ / ตำแหน่ง Software Developer รู้จักที่นี่เพราะบริษัทติดต่อเข้ามาผ่านทาง LinkedIn และมีรุ่นพี่ที่รู้จัก CEO/CTO ชอบวัฒนธรรมความเป็นสตาร์ทอัพที่เพื่อนร่วมงานเป็นคนวัยใกล้ๆ กัน ทำงานคุยกันง่าย เพื่อนร่วมงานพร้อมรับฟังและแลกเปลี่ยน จบงานแล้วนั่งคุยกันหรือไปปาร์ตี้กันได้ CTO เข้าถึงได้ง่าย ประทับใจที่ผลิตภัณฑ์ที่ทำได้ออกสู่สายตาของผู้ใช้และถูกนำไปใช้งานจริงๆ คุณนันทิวัฒน์ ทองเล้ง / ตำแหน่ง Web Developer รู้จักที่นี่ผ่าน Head Hunter และเลือกเพราะสไตล์การทำงานค่อนข้างสอดคล้องกัน ประทับใจการพูดคุยและแลกเปลี่ยนภายในทีม ที่ทุกคนช่วยกันระดมสมองและช่วยกันหาโซลูชัน คนที่จะทำงานที่นี่ได้จะต้องรู้จักพัฒนาตัวเองและชวนขวายตลอดเวลา เพราะด้วยความที่ทำงานเป็นทีม หากมีใครคนใดคนหนึ่งก้าวไม่พร้อมคนอื่น จะเป็นการฉุดทั้งทีมให้ช้าลงไปด้วย คุณนวลจันทร์ อภิจรรยาธรรม / ตำแหน่ง UX/UI Designer ทำงานที่นี่เป็นที่แรก สมัครเข้ามาเอง ที่นี่ให้โอกาสได้เรียนรู้จากศูนย์ เพราะจบจากสาขามีเดียทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกัน พี่ๆ ทุกคนไม่ปิดกั้น คอยสอน คอยติชม คอยแนะนำและให้เรียนรู้คู่ไปกับการทำงาน ช่วงแรกเลยได้ทำกราฟิกเป็นหลัก เพราะทำได้อยู่แล้ว ก่อนค่อยๆ เรียนรู้ทางด้าน UX/UI มาเรื่อยๆ ที่นี่เหมาะกับคนที่อยากเรียนรู้อะไรใหม่ๆ มีพื้นที่ให้ได้ทำจริงและใช้งานจริง คุณพักตร์เพ็ญ เพ็ญภักตร์ / ตำแหน่ง Sales Executive ทำงานที่นี่เพราะรู้จักรุ่นพี่ที่ทำงานที่นี่อยู่ บรรยากาศการทำงานแฮปปี้มาก สามารถพูดปัญหาทุกอย่างในที่ทำงานได้โดยตรงกับทุกคนหรือแม้กระทั่งหัวหน้า ที่รับฟังและเอาปัญหาไปแก้จริงๆ ได้ทำงานกับคนอายุใกล้ๆ กัน บรรยากาศการทำงานไม่เคร่งเครียด ส่วนตัวยังสามารถนั่งร้องเพลงตอนทำงานได้ แนะนำสำหรับคนที่อยากพัฒนาตัวเอง เพราะได้ทำอะไรใหม่ๆ รวมถึงคนที่อยากเติบโต เพราะบริษัทกำลังโต สนใจร่วมงานกับ Tourkrub หากสนใจจะร่วมงานกับ Tourkrub สามารถดูตำแหน่งที่เปิดรับได้ที่ Blognone Jobs หรือส่ง CV ได้ที่ talent@tourkrub.co / Paiporn@tourkrub.co / Wipawan@tourkrub.co หรือสามารถโทรมาสอบถามก่อนได้เช่นกันที่ 02 013 5346 หรือ 064 301 0743 Topics: StartupBlognone Workplace