ลองจับ ROG Phone สมาร์ทโฟนเกมมิงที่แรงที่สุดตอนนี้ พร้อมอุปกรณ์เสริมจัดเต็ม

Discussion in 'เทคโนโลยี' started by iPokz, Jun 8, 2018.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    ช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลายๆ คนน่าจะเริ่มรู้สึกกันได้ว่าการเปลี่ยนแปลงของสมาร์ทโฟนในแต่ละปีเริ่มไม่แตกต่างกันมาก เรียกได้ว่าการพัฒนาสมาร์ทโฟนเริ่มจะถึงทางตัน

    ขณะที่ทางฝั่งเกมมิ่งทั้งอุปกรณ์ โน้ตบุ๊คไปจนถึงพีซียังคงขายและโตได้เรื่อยๆ ทำให้ ณ ตอนนี้มีสมาร์ทโฟนสายเกมมิ่งเปิดตัวมาถึง 3 รุ่น ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ไล่ตั้งแต่ Razer Phone, Black Shark ของ Xiaomi และล่าสุดก็ ROG Phone ของ ASUS ซึ่งผมมีโอกาสได้เล่นสมาร์ทโฟนเกมมิ่งของ ASUS ในงาน Computex 2018 เลยเก็บมาฝากครับ

    [​IMG]

    ตัวเครื่อง


    ถึงแม้จะสเปคจะจัดเต็มตามสไตล์อุปกรณ์เกมมิ่ง แต่ตัวเครื่องของ ROG Phone กลับไม่ได้หนาอย่างที่คิด (แต่ก็ไม่ถึงกับบาง) ขนาดพอดีมือสำหรับมือเดียว หน้าจอ ASUS เคลมมาว่าจัดเต็มเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะและไม่มีทางแลคด้วย Refresh Rate ที่ 90Hz Response Time 1ms แพแนลเป็น AMOLED สีสันสดใส ลำโพงเป็นลำโพงคู่ด้านหน้า เหมาะสำหรับทั้งเกมและดูหนังฟังเพลง

    [​IMG]

    [​IMG]

    ส่วนด้านหลังใช้วัสดุเป็นโลหะเพื่อการระบายความร้อน มีความเงาเลอะลายนิ้วมือง่าย ลำโพงด้านหลังก็มีเช่นกัน อยู่บริเวณแถบสีทองแดงใต้โลโก้

    [​IMG]

    ด้านล่างตัวเครื่องมีมาให้มาครบทั้ง USB-C และ 3.5 มม.

    [​IMG]

    ความพิเศษอยู่ที่ขอบด้านซ้ายของตัวเครื่อง ที่เป็น USB-C ติดกันสองพอร์ท สำหรับต่ออุปกรณ์เสริมโดยเฉพาะ หรือเอาไว้สำหรับต่อสายชาร์จหรือสายหูฟัง USB-C ก็ได้ (ลองเสียบกับ Delta Headset ก็ใช้งานได้) ซึ่งจะค่อนข้างสะดวกและเหมาะสมกับการเล่นเกม ที่ต้องถือเครื่องแนวนอน ทำให้ไม่ต้องมีสายหูฟังหรือสายชาร์จเกะกะที่มือ เวลาถือเล่นเกม

    [​IMG]

    [​IMG]

    ส่วนอีกด้านของ ROG Phone ไม่ได้มีแค่ปุ่มล็อคหน้าจอกับปรับเสียง แต่มาพร้อม Ultrasonic Sensor สำหรับใช้งานเป็นปุ่มพิเศษ (ประมาณ L1/R1 บนจอยสติ๊ก) เวลาถือมือถือแนวนอน (วงกลมสีแดงในรูป)

    [​IMG]

    ROG Phone มาพร้อมเคสด้วย ก็ค่อนข้างให้ฟีลถึก ทน แต่ก็ไม่หนาเกินไปเมื่อถือบนมือ

    [​IMG]

    ทดสอบเล่นเกม


    จากการลองเล่น Free Fire - Battleground เกมแนว Battle Royale บน ROG Phone ก็ค่อนข้างรู้สึกได้ถึงความลื่นไหลของหน้าจอ ไม่มีแลคไม่มีกระตุก ซึ่งเกมลักษณะนี้ยิ่งเครื่องแรงและลื่นก็ยิ่งได้เปรียบ ขณะที่การเปิด X Mode ที่เร่งประสิทธิภาพในการประมวลผลของเครื่อง รู้สึกได้ว่าการเรนเดอร์เร็วขึ้นเล็กน้อย แต่รวมๆ ไม่ได้แตกต่างจากโหมดปกติมากนัก

    [​IMG]

    อุปกรณ์เสริม

    • Aero Active Coole หรือพัดลมระบายความร้อน ซึ่ง ASUS บอกว่าจะแถมมาให้ในกล่อง เชื่อมผ่าน USB-C 2 พอร์ทด้านข้าง ซึ่งส่วนตัวก็คิดว่าถูกแล้วที่แถม เพราะจากการลองถือเล่นไปซักพักนึง รู้สึกได้ว่าฝาหลังอุ่นๆ และน่าจะร้อนได้มากกว่านี้หากเล่นเปิด X Mode พร้อมชาร์จไปด้วยนานๆ อย่างไรก็ตามรู้สึกว่าตัว Aero Active Cooler จะค่อนข้างเปราะบาง แตกหักง่าย เวลาถอดหรือเสียบกับมือถือ หรือเวลาเก็บอาจจะต้องระวังกันสักหน่อย

    [​IMG]

    ตัวพัดลมของ Aero Active Cooler แอบแรงจนได้ยินเสียงหรือเอามือไปอังก็รู้สึกถึงลมแล้ว ขณะที่โลโก้ ROG ด้านล่างจะส่องแสงด้วยเมื่อเสียบกับมือถือ (เพราะโลโก้หลังมือถือโดนบังและเกมมิ่งเกียร์จะขาดแสง RGB ไม่ได้) ส่วนด้านล่างของ Aero Active Cooler เป็นพอร์ท USB-C และ 3.5 มม.

    [​IMG]

    [​IMG]

    • Twin Deck อุปกรณ์เสริมที่ทำให้ ROG Phone กลายเป็น Nintendo 3DS ที่ไม่เปิด 3D ไปกลายๆ เมื่อเสียบมือถือเข้าที่ฝาบน (ซึ่งก็แอบหลวมและไม่ได้ฟิตพอดีกับมือถือมากนัก) หน้าจอด้านล่างจะถูกเปิดขึ้นมา พร้อม Launcher เฉพาะตัวที่ดึงเอาแอปมาจากบน ROG Phone ทำให้เราสามารถเปิด 2 แอปไปได้พร้อมกัน ได้แม้กระทั่งเปิด 2 เกมพร้อมๆ กันด้วยซ้ำ

    [​IMG]

    [​IMG]

    ตัว Twin Deck มีแบตเตอรีและพัดลมระบายอากาศมาให้ในตัว พร้อมพอร์ท USB-C และ SD Card Reader รวมถึงปุ่มเสริมอย่าง L1/R1 ด้วย

    [​IMG]

    • Desktop Docking มาท่าเดียวกับ Samsung Dex ก็ว่าได้แต่โจทย์คือเอาไว้เล่นเกมที่เหมาะกับการใช้คีย์บอร์ดและเมาส์อย่างแนว FPS เป็นต้น ขณะที่หากล็อกหน้าจอมือถือ หน้าจอที่ต่อกับ Docking ก็จะดับไปด้วย

    [​IMG]

    พอร์ทด้านหลังของ Docking มาครบทั้ง USB-C สำหรับชาร์จ, USB 3.1 Type A 4 พอร์ท, พอร์ทแลน RJ45, HDMI, DisplayPort, 3.5 มม. สำหรับหูฟังและไมโครโฟนอย่างละ 1 ซึ่งก็คาดว่า DisplayPort เอาไว้สำหรับการแสดงผล Refresh Rate ที่มากกว่า 60Hz สำหรับหน้าจอที่รองรับ

    [​IMG]

    • GamePad อุปกรณ์เสริมตัวนี้ช่วยให้การเล่นเกมง่ายขึ้นกว่าการกดจากหน้าจอมือถือค่อนข้างมาก ขณะเดียวกันเมื่อเสียบ GamePad การควบคุมเกมจะถูกย้ายมาควบคุมผ่านปุ่มและลูกกลิ้งแทน อย่าง Asphalt การกดเบรคเพื่อดริฟท์จากด้านซ้ายมือของจอ และกดไนตรัสบริเวณด้านขวามือของจอ จะถูกย้ายมาเป็นปุ่ม X และ B แทนตามลำดับ ส่วนการเร่งเครื่อง จากปกติที่รถจะขับไปให้อัตโนมัติ แต่เมื่อเสียบ GamePad จะต้องกดปุ่ม A ค้างไว้แทน

    [​IMG]

    • Wi-Fi Docking สำหรับการแคสต์หน้าจอมือถือขึ้นทีวี เชื่อมต่อกับ ROG Phone ผ่าน Wi-Fi 802.11ad ซึ่งการใช้งานจริงลื่นไหลมาก ไม่มีดีเลย์ ไม่มีแลค กดควบคุมจาก GamePad การแสดงผลบนจอทีวีเร็วทันใจเหมือนบนจอสมาร์ทโฟนเองเลย

    [​IMG]

    สรุป


    ส่วนตัวค่อนข้างประทับใจกับ ROG Phone ทั้งในแง่ดีไซน์ ความสวยงาม ประสิทธิภาพ ไปจนถึงอุปกรณ์เสริม ซึ่งเอาเข้าจริงส่วนตัวคิดว่าที่ใช้พอจะใช้งานได้จริงๆ มีแค่ Aero Active Cooler, GamePad และ Wi-Fi Docking เท่านั้น

    ส่วนราคาของ ROG Phone ในไทยจากที่สอบถามมาคร่าวๆ และยังไม่มีการเคาะราคาอย่างเป็นทางการ ก็น่าจะอยู่ที่ 30k ขึ้นไป ซึ่งราคานี้พอจะซื้อโน้ตบุ๊คเกมมิ่งตัว Entry ได้เลย เลยยังไม่แน่ใจนักว่าสมาร์ทโฟนเกมมิ่งจะไปได้ไกล เหมือนอุปกรณ์เกมมิ่งหรือโน้ตบุ๊คเกมมิ่งอื่นๆ ได้แค่ไหน แต่ก็อาจตอบโจทย์คนที่ชอบเล่นเกมบนมือถือและมีกำลังทรัพย์ก็ได้ อ้อ ไทยอยู่ในกลุ่ม Tier 1 ในการวางขาย ROG Phone ด้วยนะครับ

    ส่วนอุปกรณ์เสริมก็ได้คำยืนยันมาเหมือนกันว่า ASUS จะยังคงพัฒนาให้ ROG Phone รุ่นใหม่ในอนาคตยังคงรองรับอุปกรณ์เสริมชุดนี้ด้วย

    Topics: ROGASUSMobilePreview
     

Share This Page