จากปัญหากรณี Cambridge Analytica ล่าสุด Facebook เดินหน้าออกมาตรการ "ล้อมคอก" ตามที่เคยประกาศไว้ ภาพรวมคือ Facebook เริ่มจำกัดการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้ผ่าน API ชนิดต่างๆ ของบริษัท ให้อ่านข้อมูลได้น้อยลงจากเดิม โดยเฉพาะ "รายชื่อเพื่อน" ที่เป็นช่องโหว่ให้เกิดปัญหาข้อมูลรั่วไหลแบบ Cambridge Analytica ได้มาก Events API แอพจะไม่สามารถเข้าถึงรายชื่อคนที่เข้าร่วมอีเวนต์ หรือโพสต์ในอีเวนต์ได้อีกแล้ว และในอนาคต Facebook จะจำกัดการเข้าถึง Events API เฉพาะแอพตัวที่ได้รับการอนุญาตจากบริษัทเท่านั้นด้วย Groups API ก่อนหน้านี้ แอพสามารถอ่านข้อมูลในกลุ่ม หากแอดมินกลุ่มอนุญาต แต่นับจากวันนี้ไป แอพจะต้องได้รับอนุมัติจาก Facebook อีกชั้นด้วย และต่อให้ได้รับอนุมัติ ก็จะไม่สามารถเข้าถึงรายชื่อคนในกลุ่มได้อีก Pages API ต่อจากนี้ไป แอพที่จะอ่านข้อมูลของเพจได้ (เช่น อ่านคอมเมนต์หรือโพสต์ในเพจ) จะต้องได้รับอนุญาตจาก Facebook ก่อนเท่านั้น Facebook Login แอพที่ต้องการข้อมูลมากเป็นพิเศษ เช่น โพสต์ ภาพ วิดีโอ ของผู้ใช้ ต้องได้รับอนุญาตจาก Facebook ก่อนเสมอ และแอพจะไม่สามารถอ่านข้อมูลส่วนตัวอย่าง ศาสนา การเมือง ประวัติการทำงาน ประวัติการศึกษา ฯลฯ ได้อีกแล้ว Instagram Platform API ปิดการเข้าถึงข้อมูลหลายอย่างผ่าน API ทันที เช่น follows/followed by, ไลค์, การคอมเมนต์ และการค้นหาชื่อผู้ใช้ นอกจาก API แล้ว Facebook ยังปิดฟีเจอร์หลายอย่างที่อาจเป็นช่องโหว่ให้บุคคลอื่นเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของเราได้ เช่น Search and Account Recovery เดิมเปิดให้หาเพื่อนจากอีเมลหรือหมายเลขโทรศัพท์ได้ด้วย ตอนนี้ปิดไปแล้ว เพราะมีคนนำข้อมูลอีเมลและหมายเลขโทรศัพท์ ไปไล่หาว่าเป็นใครใน Facebook เพื่อสร้างฐานข้อมูลบุคคลเก็บไว้ใช้งาน Call and Text History ที่เป็นประเด็นในข่าว เฟซบุ๊กแอบเก็บบันทึกการโทรและข้อความจากสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ จะลบประวัติเก่าเกิน 1 ปีออกจากเซิร์ฟเวอร์ และลดการเก็บข้อมูลที่ไม่จำเป็น เช่น ระยะเวลาที่ใช้โทรศัพท์ว่านานแค่ไหน ปิดฟีเจอร์ Partner Categories ตามข่าว เฟซบุ๊กยกเลิกโครงการพาร์ทเนอร์กับ Data Broker ที่ให้ข้อมูลเป้าหมายโฆษณาจากข้อมูลผู้ใช้ ในวันที่ 9 เมษายนเป็นต้นไป (จันทร์หน้า) Facebook จะแสดงข้อความบนหน้า News Feed (ตามภาพ) ให้ผู้ใช้เห็นว่ามีแอพตัวไหนบ้างเข้าถึงข้อมูลของตัวเอง เพื่อให้ลบแอพที่ไม่ต้องการออกได้ (สามารถทำได้เลย อ่านวิธีในบทความตั้งค่าข้อมูลส่วนตัวบน Facebook ไม่ให้บริการภายนอกมาดูดไปง่ายๆ) ที่มา - Facebook Topics: FacebookAPIPrivacy